วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เบลล่า โต้ชอบรูป เวียร์ โชว์เพื่อนฬนห้องเรียนป.โท

แม้ ดาราสาว เบลล่า-ราณี แคมเปน จะไม่ค่อยจะยอมเอ่ยปากถึงความสัมพันธ์กับพระเอกต่างช่อง เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ แต่ล่าสุดก็มีข่าวเม้าท์ว่า นางเอกยิ้มหวานชอบนำภาพกล้ามล่ำๆของหนุ่มเวียร์ไปโชว์ในห้องเรียนปริญญาโทให้เพื่อนๆได้แซ่บกันอีกด้วย 


พอได้เจอสาวเบลล่า ก่อนที่จะเปิดใจชี้แจงถึงประเด็นข่าวดังกล่าว เจ้าตัวก็อัพเดทการเรียนปริญญาโทให้ฟังว่า
“เริ่มเรียนป.โทที่วรสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 1 ค่ะ ซึ่งผ่านไปเทอมเดียวค่ะ เรียนหนักมากไม่คิดเลยว่าจะหนักขนาดนี้ จะมีงานค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เรื่องแบ่งเวลาค่อนข้างยาก ตอนนี้ก็พยายามพกหนังสือไปทุกที่เลยค่ะ ก็เครียดเพราะว่ากลัวเรียนไม่จบ แต่ก็ช่วยๆกันกับเพื่อน พยายามไปติวกับเขาเยอะๆค่ะ”

“แต่ไม่กระทบกับงานละครค่ะ แจ้งทางช่องเอาไว้แล้วแต่ก็จัดสรรเวลาให้ไปเรียนได้มากที่สุด ที่วางไว้คือเรียน 2 ปีค่ะ ตั้งใจว่าต้องจบตามเกณฑ์ที่วางไว้ค่ะ”

มีกระแสข่าวว่าเราเอารูปพี่เวียร์ไปโชว์ในห้องเรียน แล้วบอกชอบผู้ชายมีกล้ามเหมือนพี่เวียร์?
“อันนี้ใครเม้าท์เนี่ย ไม่มีเราโชว์ แต่เพื่อนเราโชว์ เราก็ไม่ได้บอกอะไรเลย ส่วนมากเพื่อนๆมีข่าวอะไรก็ชอบมาแซ่บกันในห้องเรียนเป็นเรื่องปกติ แต่เราไม่ได้เม้าท์พี่เวียร์ แต่คนอื่นจะแย่งกันว่าคนนี้ของฉัน”

เวลาเพื่อนๆในห้องเรียนถาม เราอายไหมที่จะพูดเรื่อง “พี่เวียร์” ?
“ก็ไม่ค่อยได้ตอบอะไร ก็ดูข่าวไปสิจ๊ะ (หัวเราะ) เพื่อนๆก็จะแย่งกันเองของเขา หึงอะไรล่ะ เป็นเรื่องขำๆไม่มีอะไรค่ะ”

ที่มา สยามดารา

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เต๋อ ยันไม่มีใครเข้ามาดามใจ วิว-ไอซ์ แค่น้อง เผยตัดผมเพราะถ่ายเล่น

เต๋อ แจง วิว ไม่เคยคุยแบบชู้สาว กับ ไอซ์ สนิทกันแบบพี่น้อง ตอนนี้ยังไม่ได้มีคนดามใจ เผยไม่ได้ตัดผมต้อนรับความโสดแค่ตัดให้เข้ากับบทในละคร


ล่าสุดได้เจอ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ในงานเปิดตัวโปรโมชั่นอาหารชุดสุดพิเศษ “ล่าไข่บาร์บีกอน” ลานด้านหน้าศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ที่มาในลุคผมสั้นดูแปลกตาทีเดียว จึงสอบถามถึงเรื่องที่มีข่าวว่า ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร และ วิว วรรณรท สนธิไชย เข้ามาดามใจ และตัดผมสั้นรับชีวิตโสดหรือเปล่า ก็ได้คำตอบว่า

"ตัดผมมาใหม่ครับ ก็เล่นละครเป็นทหารเกณฑ์อยากให้สมจริงก็เลยตัดครับ ไม่เกี่ยวต้อนรับชีวิตโสดครับ พีคก็เห็นแล้วครับ เขาบอกหัวหลิม ตอนนี้ก็คุยกันบ้าง กับน้องส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องงานครับ เรื่องกลับมาคืนดียังไม่อยากคิดครับ สภาพจิตใจตอนนี้โอเค น้ำหนักขึ้นมา 2 กก.แล้ว กลับมาทานข้าวปกติครับ ไม่ถึงขั้นตรอมใจ แค่ช่วงนั้นอาจจะทานอะไรไม่ค่อยลงแล้วก็ออกกำลังกายด้วยเลยไปกันใหญ่"

”สำหรับเรื่องโดนปลอมอินสตาแกรมก็เริ่มชินแล้วครับ ไม่ได้โมแต่มีคนเข้าใจผิดเยอะ ไปตามฟอลโลว์ของเพื่อนผมและบอกว่าของผมเป็นของปลอม ก็เลยไปโพสต์บอกเพื่อนๆ ไว้ครับ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายแต่ผมก็กลัวเหมือนกันเพราะว่ามีคนตามเขาเยอะ ผมคิดว่าน่าจะเป็นคนเดิมที่เคยแฮกแหละครับ”

”กับน้องไอซ์เราเคยร่วมงานกัน ไม่มีอะไรเกินเลยเป็นพี่น้องกันจริงๆ ครับ ส่วนวิวผมไม่เคยคุยกับน้องเขาแบบนั้นเลย ทุกวันนี้ก็ยังงงอยู่เลยว่าเป็นข่าวได้ยังไง จริงๆ คนตามทวิตเตอร์ผมก็เยอะนะครับ ไม่จำเป็นต้องมาดามใจหรอกครับ เราไม่ได้สนิทกันมากอยู่แล้วอีกอย่างเราไม่เคยร่วมงานด้วย กับน้องไอซ์ร่วมงานกันบ่อยๆ ก็ไม่น่าจะคิดได้นะครับ เพราะเราสนิทกัน ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีคนดามใจครับ”


วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หมาก ปริญ เคืองข่าวเมาหิ้วปีก คิมเบอร์ลี่ ที่ญี่ปุ่น

หมาก ปริญ ยันข่าวควง คิมเบอร์ลี่ เมาปลิ้นญี่ปุ่นไม่มีมูลความจริง ไม่รู้จุดประสงค์คนเขียนข่าว เผยซีเรียสเพราะข่าวทำให้เดือดร้อน  


   
อยู่ดีๆ ก็มีมือดีปูดข่าว หมาก ปริญ สุภารัตน์ กับหวานใจ คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ เมาปลิ้นตอนไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ถึงขั้นหนุ่มหมากต้องหิ้วปีกสาวคิมเบอร์ลี่เพราะเมาจนไร้สติกันเลยทีเดียว งานนี้ได้ตามไปสัมภาษณ์หนุ่มหมาก ถึงข่าวดังกล่าวได้ความมาว่า      
“ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวนี้มาได้ยังไง ก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าใครเขียนข่าวแบบนี้ขึ้นมา และเรื่องจริงๆ คือเราไม่ได้ไปเมาไปทำอะไรเลย เพราะว่าเราบอกแล้วว่าเราตั้งใจไปพักผ่อนก็มีธุระไปทำที่นั่นด้วยและก็ไม่ได้ไปเที่ยวผับเลยเพราะน้องไม่ชอบเที่ยวผับ ผมก็ไม่ชอบเที่ยวผับ ข่าวนี้มาได้ยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ความจริงครับ เท่าที่จำได้ไม่ได้ไปผับเลย ผมก็นั่งกินข้าวปกติตอนกลางคืนและก็อยู่กับพี่ ไม่มีเมาไม่มีหิ้วปีกไม่มีทางเลยครับ แต่ถ้าถามว่าดื่มบ้างไหมก็มีบ้างเป็นธรรมดา แต่ว่าไม่ได้ขนาดนั้น และเราก็ไม่ได้ไปทำอะไรแบบนั้นแน่นอน”

มีคุยกับคิมเรื่องข่าวหรือเปล่า?      
“ก็มีคุยกับน้อง น้องก็งงเหมือนกัน น้องก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามีจุดประสงค์อะไร ก็ยอมรับว่าโกรธนิดๆ นะครับ ก็ไม่รู้ว่าคิดเรื่องแบบนี้มาทำไมมันเป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงและคนที่เดือดร้อนก็คือผมกับน้อง”
     
โดนข่าวแบบนี้ซีเรียสไหม?
“ยอมรับว่าซีเรียสน่ะครับ เพราะว่าเราค่อนข้างจะโดนมาเยอะ ถ้าพูดถึงตอนนี้ผมก็ชินมากและก็เบาลงมากแล้ว และก็อยากจะรู้ว่าทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้ ถามว่าจะตามหาที่มีคนปล่อยข่าวไหม ก็คงต้องปล่อยไป ให้เขาทำไปเถอะ ไม่เป็นไรครับ แล้วแต่ครับ”

มีผลกระทบกับงานไหม?      
“จริงๆ มันก็ส่งผลกระทบต่อพวกเรานะ แบบอยู่ดีๆ มีคนมาเขียนข่าวแบบนี้ขึ้นมาแล้วคนอื่นจะมองเรายังไง ถ้ามันเป็นเรื่องจริงผมก็ยอมรับ ถ้าไม่จริงผมก็ปฏิเสธ และข่าวที่มันออกมาไม่จริงมันก็ทำให้เราเดือดร้อนนะครับ ถ้าจะทำอีกก็แล้วแต่นะครับ ทำดีได้ดีครับ”

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เปิ้ล โต้คลิปเหนียวไก่ล้อเลียนภาษาใต้ ท้าใครไม่ชอบให้มาเคลียร์ที่บ้าน

เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย พิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี ที่มักจะทำคลิปออกมาล้อเลียนบุคคลในสังคมที่เป็นประเด็นเสมอๆ แต่ล่าสุดดูท่าจะขำไม่ออก เมื่อเจ้าตัวไปทำคลิปน้องไลล่าเหนียวไก่หาย แต่มีบางกลุ่มที่ไม่พอใจเพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายล้อเลียนภาษาใต้



พอได้เจอหนุ่มเปิ้ลมาร่วมงานแถลงข่าว 2015 new)tv The Next Big Thing ณ โรงภาพยนตร์ ENIGMA ชั้น6 พารากอนซีนีเพล็กซ์ เจ้าตัวก็เผยอย่างอารมณ์ดีว่า
“พี่เป็นคนเหนือ พ่อเป็นคนอีสาน พี่ก็พูดเล่นเหนือ อีสานบ่อยๆ ญาติพี่เปิ้ลทางใต้ก็เยอะ ก็มีพูดเล่นกัน คนอื่นก็แหล่งใต้กันน่ารักๆเยอะนะ คนใต้น่ารักนะครับ ที่เราเล่นเขาน่ารักนะ แต่คนที่ไม่น่ารักคือคนที่มองแล้วไม่น่ารักมากกว่า น้องอาจจะซีเรียสมากเกินไปสำหรับคนที่วิจารณ์ เพราะรักถึงล้อครับ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ล้อครับ เฉยๆแล้วจะพูดเพราะใส่ด้วย คนไหนที่พี่เปิ้ลล้อคอคนที่รักและเคารพมากๆ เพิ่งจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเป็นราว อย่าไปซีเรียส เพราะพี่ก็ล้อไปจนกว่าพี่จะตายล่ะครับ ฟีดแบ็กส่วนมาเขาก็ชอบกันนะ ชอบเป็นแสน ไม่ชอบ 2-3 คน แล้ว 2-3 คนที่ไม่ชอบก็มาหาพี่ที่บ้านได้ เดี๋ยวเราเคลียร์กันดีกว่าว่าน้องเครียดหรือเปล่า เครียดเพราะอะไร พี่ให้คำปรึกษาได้”

“คงไม่ต้องทำคลิปขอโทษเพราะว่านี่เป็นคลิปที่ทำด้วยความรักนะครับ ส่วนคนที่ไม่ชอบก็อยู่คนละโลกดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปเกิดใหม่เป็นหมาก็ได้ ให้น้องเลี้ยงแล้วทุบตีพี่แล้วกันถ้าไม่ชอบพี่ชาตินี้”

“ถามว่าต่อไปต้องระวังเรื่องทำคลิปไหม พี่คงทำตามอารมณ์ พี่รู้สึกยังไงก็ทำอย่างนั้น เจตนาพี่ไม่ได้คิดที่จะไปฆ่าใคร พี่ก็จะทำอย่างนี้ไปจนพี่ตาย น้องไม่ชอบพี่ก็ไม่ต้องมาเผาก็ได้ พี่ยืนยันว่าจะทำให้ทุกคนหัวเราะด้วยความรักและสนุกสนาน”

ทั้งนี้ “เปิ้ล-นาคร” เผยถึงงานแต่งภรรยาสาวว่า
“ปีหน้าครับ ดูวันที่สื่อฯว่างวันไหน ไม่แน่นะนอกจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้ว ก็อาจจะมีตัวเล็กๆอีกคนนึงด้วย ตอนนี้กำลังวางแผนว่าจะมีคนที่ 3 อาทิตย์หน้าคุณหมอจะบอกว่าวันไหนตกไข่แล้วปฏิบัติการได้เลย อยากมีคนที่ 3 มาก อยากมีแฝดด้วยซ้ำ พอออกมา 2 คนแล้วรู้สึกว่า เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างสิ่งมีชีวิตที่น่ารักได้อย่างนี้เลยเหรอ ก็เลยอยากมีอีก ถ้าได้แฝดก็อยากจะมี 4 คน ถ้ายังไม่เหนื่อยก็อยากได้เป็น 6 คน ผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ได้ครับ”


วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โบวี่ ยันไม่ใช่สาวในภาพหลุดคู่ กวิน ทรี-ทู-วัน

ช่วงนี้ดูเหมือนดาราสาวเซ็กซี่ โบวี่ จะพบรักครั้งใหม่แล้วหรือเปล่า เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ยังมีภาพหลุดสาวหน้าคล้าย โบวี่ อยู่กับ กวิน จนคนเขาลือกันว่าสาว โบวี่ กำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับ กวิน 3.2.1  


ล่าสุดได้เจอสาวเซ็กซี่ โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ในงานเปิดตัวเครื่องดื่มสมุนไพรแท้สูตรจับเลี้ยง “เก๊กหล่อ” ที่เอสเอฟ เวิลด์ ซีนีม่า โรงภาพยนตร์ที่ 14 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  เจ้าตัวก็เลยชี้แจงให้ฟังว่า

"ก็ตลกดี โบเห็นรูปแล้วค่ะ คือในรูปไม่ใช่โบนะคะ มันเหมือนเหรอ ก็เข้าไปดูแล้วแหละ น้องเขาก็หมวยๆ คล้ายๆ กัน แต่ไม่ใช่โบค่ะ ก็รู้จักกวินเหมือนกันค่ะ เป็นเพื่อนกัน มีไปเจอกันบ้าง"

คบกันตั้งแต่เมื่อไร?
"เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้คบกัน ช่วงนี้ออกไปเจอเพื่อนๆ เยอะ ว่างไง มันก็เหมือนเปลี่ยนเพื่อนไปกับกลุ่มนั้นบ้างกลุ่มนี้บ้าง กลุ่มกวินก็เจอบ้างสลับกันไปสลับกันมา จริงๆ เราเป็นเพื่อนกันค่ะ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นค่ะ เป็นในลักษณะเพื่อนกันมากกว่า อาจจะมีคุยเรื่องส่วนตัวบ้าง"

”ถามว่าเขาเข้ามาจีบไหมก็ไม่นะคะ เป็นเพื่อนกันมากกว่า เราก็มีไปปาร์ตี้ด้วยกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปกันสองคน ไปกันเป็นกลุ่ม เรารู้จักกันในกลุ่มหมดเลย นั่งด้วยกันสองคน หรือแยกตัวไปสองคนก็ไม่มีค่ะ อยู่กับเพื่อนๆ ตลอด ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอเท่าไร ช่วงก่อนมีสลับกัน แล้วแต่ว่ามีปาร์ตี้ที่ไหนบ้าง ก็ขอยืนยันว่าเป็นเพื่อนกันค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีหนุ่มคนที่คุยอยู่ค่ะ แหม โสดสนิท คือมันก็เหมือนมีคนเข้ามาบ้าง พูดคุยกันบ้าง แต่ก็ยังถือว่าโสดอยู่”

”หลังจากมีข่าวออกมาก็มีการคุยกับกวินถึงรูปนั้นบ้างค่ะ กวินเป็นคนส่งรูปนั้นมาให้ดู ตลกดี คุยกันขำๆ ก็บอกกวินไม่เป็นไร เดี๋ยวโบเจอนักข่าวพอดี เดี๋ยวแก้ข้าวให้ ที่คนคิดว่าเป็นเราอาจจะเป็นเพราะในรูปมันก็คล้ายกันอยู่ใน โบหน้าโหล แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ตัวเราเองรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่ ขำคนอื่นดูไม่ออกอะไรอย่างนี้มากกว่า ที่บอกว่าโบกินเด็กก็ไม่ใช่นะ ไม่ได้กินเด็ก ไม่ใช่เลยๆ (หัวเราะ) ไม่เกี่ยวเลยว่าเด็กไม่เด็ก ไม่ได้หมายความว่ากวินใช่หรือไม่ใช่สเปกนะคะ แต่เรื่องเด็กไม่เด็กมันไม่ใช่ แล้วแต่เลย บางทีคุยกันมันมีจุดที่เป็นแบบคลิกกันโดยที่บางทีอายุก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่กวินเป็นเพื่อนจริงๆ ค่ะ โบว่าเขาโสดเหรอ ลองไปถามเขาเองดีกว่า(หัวเราะ) แต่ตอนนี้โบโสดอยู่ค่ะ(ยิ้ม)”


วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฟลุค เผยหุ้น แอปเปิ้ล ซื้อบ้าน แต่ยันไม่ใช่เรือนหอ

หนุ่ม ฟลุค-จิระ ด่านบวรเกียรติ หรือ ฟลุค-ซีควินท์ ที่ตอนนี้ทำธุรกิจอยู่หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแว่นตา และคลินิกเสริมความงามที่แว่วว่าธุรกิจอย่างหลังนี่ฟันกำไรอื้อซ่า จ่อเปิดอีก 3 สาขาในปีหน้านี้ด้วย อย่างนี่ถ้าจะเรียกว่าอายุน้อยร้อยล้านก็คงไม่ผิดอะไร


“คลินิกโอเคครับ เราเปิดมาเดือน 5 ผลประกอบการ 4-5 เดือนเราเห็นเม็ดเงินแล้ว ผมก็เอาตรงนี้มาลงทุนเพิ่ม ทำออฟฟิศจนเสร็จ ลงทุนแต่ไม่ได้ใช้ทุนเพิ่มแต่เอาเงินจากกำไรมาทำ พอเราเริ่มหมุนเงินได้คล่องเราก็เปิดสาขาใหม่เลยที่อุดรฯ”

กำไรเยอะถึงขนาดซื้อบ้านให้แอปเปิ้ลแล้ว?
“แหม…กำไรตรงนั้นผมเอามาขายธุรกิจ เรื่องบ้านผมก็ไม่ได้ออกคนเดียว ช่วยกันออกครับ ทุกวันนี้เรามีบัญชีร่วมกันหาด้วยกัน ใช้ด้วยกัน คือก่อนหน้านี้เปิ้ลอยู่คอนโด ตอนแรกเขาอยู่คนเดียว หลังมามีน้องสาวมาจากที่ลาวก็เริ่มคับแคบ ผมว่าต่อไปก็ต้องขยับเป็นบ้าน คิดว่ามีบ้านหลังนึงที่พื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากให้เขาอยู่สบายๆน่าจะดีกว่า ตอนนี้ก็โอนเรียบร้อยแล้ว เป็นบ้านแถวพัฒนาการ ราคาอย่าไปพูดเลยครับ ไม่ถึง 10 ล้านหรอกครับ ใช้เวลาตกแต่ง 3 เดือน ถึงจะย้ายเข้าอยู่ได้ครับ”


“บ้านหลังนี้ไม่ใช่เรือนหอนะครับ ถ้าเป็นเรือนหอคงเป็นบ้านเราที่อยู่ปัจจุบันนี้เพราะว่าคุณพ่อและครอบครัวมีพื้นบ้านอยู่ก็ขยายไปซื้อข้างบ้านไปอีก พ่อผมวาดฝันมากว่าจะขยายอาณาจักรว่าตรงนี้บ้านใครๆ”

“สำหรับข่าวดีกับเปิ้ลก็อยากมีครับแต่ว่ายังติดเรื่องบวช หลังบวชแล้วก็ทำหน้าที่ของเราให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องเบียดค่อยถามมา ให้เราพร้อมจริงๆเพราะปีหน้าเป็นปีธุรกิจเราที่ผมต้อง 3 ขยายให้เร็วที่สุด เพื่อให้มันรีบมั่นคงสักที”

แล้วธุรกิจแว่นที่จะทำร่วมกับ “เจสสิก้า” อดีตสมาชิก SNSD เป็นอย่างไรบ้าง? 
“คุยกับทางเจสสิก้าอยู่ว่าถ้าเป็นไปได้อยากจะให้เขาบินมาเปิดตัวที่เมืองไทย ความเป็นไปได้ก็สูงนะครับ เขาก็ตกลงว่าจะมา มันมีอะไรหลายๆอย่างของธุรกิจที่ยังไม่ลงตัว ตอนนี้ที่แน่นอนเราเปิดขายคอลเลคชั่นแรกแล้วนะครับ มีทั้งหมด 6 สาขาในกรุงเทพฯ ราคาตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไปครับ”

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไอซ์ ปัดข่าวมือที่สาม ยันสนิท เต๋อ แค่พี่ชาย

อยู่ดีๆงานก็เข้าสาว ไอซ์ ซะอย่างนั้น หลังถูกโยงว่าเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ความรัก 7 ปีของคู่รัก เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ พังไม่เป็นท่า เนื่องจากหลายคนสังเกตเห็นว่าช่วงหลังมานี้ดูเจ้าตัวจะสนิทสนมกับ เต๋อ มากเป็นพิเศษ แล้วแบบนี้หนุ่มที่สาว ไอซ์ เคยบอกว่าคุยๆ กันอยู่จะว่ายังไงบ้างหละเนี่ย


ล่าสุดในงานเปิดตัวหนัง “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” ณ ห้างเซ็นทรัลเวิล์ด ชั้น1 (Central Court) มีโอกาสได้เจอ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร เจ้าตัวก็เลยเปิดใจเคลียร์เรื่องนี้ว่า

”(หัวเราะ) ไม่มีค่ะ ไม่มีแน่นอน สำหรับ ไอซ์ พี่เต๋อเป็นแค่พี่ชายเท่านั้น เป็นพี่ที่ ไอซ์ รักมากด้วยเพราะเราได้มีโอกาสร่วมงานกันตั้งแต่ ATM ไปจนถึง ATM ซีรี่ย์ คือเราสนิทกันมากจริงๆ แต่ว่าเรื่องแบบนั้นไม่มีแน่นอน ไอซ์กับพี่เต๋อเราไม่ได้สนิทกันมากเกินไปนะ เราก็แค่สนิทกันแบบพี่น้องเท่านั้น แถมในจีทีเอชตัวไอซ์เองก็ไม่ได้สนิทแค่เฉพาะกับพี่เต๋อคนเดียว กับ พี่ซันนี่ ไอซ์ ก็สนิท อีกอย่างไอซ์ กับ พี่เต๋อ ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ค่ะ คือช่วงนี้เราไม่ได้ทำงานด้วยกันทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันเลยค่ะ ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีกระแสแบบนี้ ไม่ทราบอะไรเลยค่ะ ไอซ์ต้องบอกก่อนนะว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้นไอซ์เลยไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องคิดมากกับเรื่องนี้สักเท่าไร แค่บอกว่าเราเป็นพี่น้องกันไม่มีอะไร อีกอย่างตัวไอซ์เองก็บริสุทธิ์ใจและยืนยันว่าเราสนิทกันแบบพี่น้องเท่านั้นค่ะ”

”ตัวจริงไอซ์เขาก็คงยังไม่ทราบเหมือนกัน ขนาดตัวไอซ์ยังไม่ทราบกับเรื่องนี้เลยค่ะ คือถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงเขาก็จะมาถามเราอยู่แล้วว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ก็คุยกันปกติไม่ได้เครียดหรืออะไรเลย ถามว่าเปิดตัวมากขึ้นไหมไอซ์ก็บอกก่อนว่าตั้งแต่แรกไอซ์ไม่ได้ปิดบังอยู่แล้ว เวลาไปเดินห้างหรือไปดูหนังก็ไม่ได้ปิดบัง ก็ไปกันปกติเลยค่ะ ทางฝ่ายชายเขาก็อยู่เฉยๆ ของเขา คือมันไม่มีอะไรต้องเปิดเผยขนาดนั้นเพราะเราไม่ได้ซ่อนตั้งแต่แรก เขาแคืคิดว่าเราไม่จำเป็นจะต้องออกมาโชว์อะไรขนาดนั้น ถามว่าเขาชินไหมกับโดนจับตาก็เฉยๆ แล้วค่ะ ไปไหนก็ปกติ ก็ไม่อึดอัดที่ถูกถามเรื่องความรักหรอกค่ะ เราก็คบกันมานานพอสมควรแล้ว ข่าวดีคงยังค่ะ ยังไม่ถึงวัยเลย(หัวเราะ) ขอทำงานก่อนค่ะ ยังไม่อยากจะคิดเรื่องนี้”

”กลับมาแสดงหนังอีกครั้งก็มีกดดันบ้างแต่เราก็ทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ เรื่องนี้ฮาแน่นอน ก็มีรื้อฟื้นบ้างแต่เหมือนไอซ์อยากให้เต็มที่ที่สุด ส่วนที่ยากของเรื่องก็จะมีต้องพูดภาษาอังกฤษด้วยอันนี้ก็คงต้องไปเรียนเพิ่มเติมค่ะ อาการบาดเจ็บก็มีกระทบงานบ้างนิดหน่อยเวลายกแขนก็จะเจ็บๆ บ้างแต่ก็ยังพอทำได้อยู่ค่ะ เราจะพยายามให้เต็มที่ค่ะ(ยิ้ม) ก็ไม่ได้ไปเช็กอะไรเพิ่มเติมเพราะคุณหมอบอกว่าทุกอย่างมันไม่อันตรายแล้ว ก็ออกกำลังกายได้เพียงแต่อย่าหักโหมเกินไป ก็ถือว่าหายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ตอนนี้ก็กลับมาขับรถเองแล้วแต่เหมือนกับเราระวังมากขึ้น ทุกอย่างก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ”

”หน้าหนูไม่ได้ทำเลยค่ะ เหมือนเดิมทุกอย่าง อาจจะเป็นเพราะหนูอ้วนขึ้นหรือเปล่า หนูยืนยันว่าไม่ได้มีศัลยกรรมอะไรเพิ่มล้านเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ ก็เข้าใจว่าเวลาอ้วนหรือผอมคนก็จะทักหรือเข้าใจผิดกันได้ พออ้วนก็จะมีมาถามว่าทำไมหน้าดูอิ่ม พอผอมก็ถามว่าไปโบท็อกซ์มาหรือเปล่า แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรแน่นอนค่ะ หลังจากนี้ก็คงลดน้ำหนักลงนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ถึงกับให้ลงเยอะมากค่ะ(ยิ้ม)”

”กับข่าวที่บอกมีนางเอก อ. เป็นเด็กเสี่ยแล้วคนตั้งเป้ามาที่เรา คือจะบอกให้เขาคิดเหมือนเราทุกอย่างมันก็คงทำไม่ได้เนอะ ตัว ไอซ์ เองก็ไม่ได้เครียดอะไรกับข่าวนี้เพราะ ไอซ์ เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วค่ะ ก็ไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ(ยิ้ม)”

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โดนัท รับมีหนุ่มคุยแล้ว ยัน เจนี่ ไม่ใช่มือที่สาม

ดาราสาว โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ที่ขึ้นแท่นผู้กำกับเต็มตัว ได้โชว์ฝีมือการกำกับภาพยนตร์เรื่อง LoveSuck รักอักเสบ ยอมรับว่าตอนนี้แม้จะโสดแต่ก็มีหนุ่มเข้ามาทำให้หัวใจหวั่นไหวแล้วเหมือนกัน


โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้า (10 พ.ย.57) ที่ผ่านมา มีการบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง LoveSuck รักอักเสบ ณ บริเวณ ลานพระพิฆเนศ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีแล้ว เจ้าตัวได้มาร่วมพูดคุยกับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นข่าวเม้าท์ว่า “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” เป็นมือที่ทำ 3 และอัพเดทสถานะหัวใจให้ได้รู้กัน

“ตอนนี้หัวใจโอเคมากค่ะ ก็มีคนเข้ามาบ้าง ตอนนี้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องมีแฟน พูดแล้วก็ดูไม่ค่อยดี เพื่อนพยายามบอกว่าอย่าคิดแบบนี้เดี๋ยวจะชิน ด้วยตอนนี้กำลังทำงานกับ Love Suck และเตรียมละครกับช่อง 3 ก็เลยไม่รู้จะมีตอนไหน ยากมาก อย่างทีมที่เห็นในวันนี้คือทีมที่เจอกันทุกวันในช่วงเวลานี้ ก็จะมีแต่เรื่องงานมากกว่า ตอนนี้ถ้าจะเจอใครก็คงเป็นทีมอาร์ต ช่างภาพ ด้วยวัยเราและสิ่งที่ผ่านมามันทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นว่าเราอยากเจอคนแบบไหน เราไม่ใช่คนคุยไปเรื่อย ถ้าชอบคุยเลย อีกอย่างเป็นคนทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ไม่ค่อยเป็น คนที่คุยด้วยก็จะเป็นคนที่ทำงานร่วมกันมากกว่า”

"ก็มีคนเข้ามาทำให้ใจหวั่นไหวบ้างนิดหน่อย เดี๋ยวดูก่อน บอกไม่ได้ว่าคนในหรือนอก เดี๋ยวก็รู้หมด เราก็อายุไม่ใช่น้อยก็ต้องมีคนเข้ามาคุยบ้างเป็นธรรมดา แต่ว่ายังไม่รู้ว่ายังไงต่อ จริงๆแล้วมันนานแล้วเหมือนกันที่เราสามารถคุยกับคนอื่นได้ โดนัทว่ามันเป็นแค่จังหวะมากกว่า จริงๆไม่ได้คิดหรือตั้งใจเราจะต้องมี พอมีคนคุยแล้วก็แปลกๆ เรายังไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่า Love Suck ถ่ายกี่วัน นักแสดง ทีม เป็นยังไงบ้าง" 

โสดแล้วเนื้อหอม ?
"โดนัทว่ามันมีเวลามาทำงานมากกว่าค่ะ" 

กับคนที่คุยคนนี้ อนันดาทราบไหม?
"เขาก็ถามทุกครั้งที่คุยกันว่าคุยกับใครหรือยัง โดนัทว่าเขาก็คงอยากรู้ว่าเขาไปคุยกับคนอื่นได้หรือยัง ไม่หรอกโดนัทว่าเป็นห่วงเป็นใยกันมากกว่า ณ วันนี้โดนัทยังไม่ได้มีใครเป็นพิเศษ ขอทำงานก่อน"

เห็น อนันดา บอกว่าส่งทีมมาช่วยงานเราเหมือนกัน? 
“อนันดาส่งทีมมาช่วยหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติค่ะ ก็คุยกับเขา เขาบอกว่าเพิ่งได้กล้องมาใหม่ดีมากเลย พอกล้องลงถึงเมืองไทยก็เซทอัพ แล้วส่งมาให้และส่งทีมมาช่วยค่ะ ส่วนเรื่อง Love Suck เขาไม่ได้ส่งทีมมาช่วย จะเป็นแนวคุยกันมากกว่า เหมือนช่วงนี้เขาพยายามปล่อยให้เราทำ ล่าสุดเขาก็ถามว่าอยากเขียนบทให้เขาไหมเพราะมีหนังที่เขาต้องทำ โดนัทก็เลยบอกว่าเดี๋ยวรอให้เรื่องนี้ลงตัวเรียบร้อยก่อน”

“ที่ว่าเหมือนคุยกันอยู่ปกติ คือมันมีช่วงนึงที่พูดกันยาก แต่ช่วงนี้ก็เริ่มพูดกันบ้าง พยายามคุยกัน เปลี่ยนสถานะแล้วมาคุยกันก็ไม่ได้รู้สึกแปลก ตอนนี้คุยกันดีกว่าแต่ก่อน ต่างคนต่างพยายามมีช่องว่างให้แก่กันมาก เวลาจะพูดอะไรกันก็จะนึกถึงใจกันมากกว่าแต่ก่อนค่ะ ด้วยความแต่ก่อนเราสนิทกันมาก เราไม่ค่อยแคร์กัน ตอนนี้พอเรารู้ว่าบางอย่างเราทำไม่ได้เหมือนเดิมเราก็เกรงใจกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้คุยกันบ่อยมากนะคะ ไม่ถึงขนาดตัดบัวเหลือใย เหมือนคนเลิกกับเพื่อน มันก็ยากนิดนึงแหละเพราะมันเป็นเพื่อนกัน”

“Love Suck เป็นโปรเจกต์ของโดนัทที่ทำเองมาตั้งแต่ต้นค่ะ จริงๆอาจจะเป็นหนังที่ผู้ชายดูแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะมันจะพูดถึงมุมมองความรักของผู้หญิง บางทีผู้ชายอาจจะนึกไม่ออก จุดเริ่มต้นเราไปเล่นซีรีส์อกหัก ทำไมคนอกหักต้องเสียใจกันอย่างเดียว เราชีวิตเรามีปัญหา เราก็มองย้อนว่าหรือว่ายังไม่มีผู้หญิงทำหนังแบบนี้ ก็เลยเกิดเป็น Love Suck ขึ้นมาค่ะ”

ถามถึงข่าวมือที่ 3 ที่โยง “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” เข้ามาเกี่ยว เนื่องจากตอนนี้หนุ่มอนันดาก็ยอมรับว่าสนิทกับนางเอกหน้าหวานจริง โดยสาวโดนัทรีบปฏิเสธทันทีว่า
“เรื่องมือที่ 3 ไม่เกี่ยวค่ะ เรื่องของโดนัทมันนานกว่านั้น แค่ไม่ได้เป็นคนออกมาพูดอะไรมากกว่า เรื่องนี้โดนัทไม่ตอบดีกว่าเพราะไม่อยากให้มันยาว เรื่องข่าวที่เกิดขึ้น เราก็ถามแหละว่ายังไง เขาก็บอก แต่ไม่ได้ถึงขั้นว่าต้องมาชี้แจง เขาก็ขำ แซวว่าทำไมต้องมาอธิบาย เราก็ถามเป็นข้อๆ อยากรู้อยากเห็นมากกว่า ไม่ใช่ว่าหึง”

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

จ๊ะจ๋า แจงเหตุเต้นแนบ จิ๊บ-วสุ บนคอนเสิร์ต เผยปลื้มคนชมฝีมือการแสดงดีขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้เห็นกระทู้ในเว็บไซต์แห่งหนึ่งที่คนต่างก็พูดถึงละครที่สาว “จ๊ะจ๋า” ได้แสดงพร้อมกับชมไม่ขาดปากว่าสาว “จ๊ะจ๋า” แสดงได้อินสุดๆ งานนี้ทำเอาเจ้าตัวคงปลื้มอกปลื้มใจกันน่าดู



ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอสาว จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม โดยเจ้าตัวก็พูดถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า
”ก็อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆ ที่พูดถึงและบอกต่อค่ะ จริงๆ มันเป็นกระทู้เล็กๆ ในพันทิปเกี่ยวกับละครที่จ๊ะจ๋าเล่น ตัวจ๊ะจ๋าได้เข้าไปดูแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าได้แคปลงอินสตาแกรมหรือเปล่า ยังไงก็ฝากขอบคุณตรงนี้เลยว่าขอบคุณมากๆ ที่เขียนถึงเรา แล้วทุกคำติชมมีอะไรบอกจ๊ะจ๋าได้เลยเพราะจ๊ะจ๋าจะนำมาพัฒนาฝีมือต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ในการเป็นนักแสดงสิ่งที่สำคัญนอกจากมีคนชอบละครที่เราแสดงแล้วก็คือมีคนเห็นว่าเรามีการพัฒนาที่ดีขึ้น ก็ดีใจค่ะ(ยิ้ม)”

”ละครแนวดราม่าจ๊ะจ๋าคิดว่าน่าจะมีมาเรื่อยๆ แต่เรื่องต่อไปที่จะได้ชมจะเป็นแนวตลกคอเมดี้จาก “หมอผีไซเบอร์” เป็นนางตานีแสนซนและป่วนทุกคนทั้งเรื่อง ก็จะเล่นกับหมอก้องและแพทค่ะ ก็ไม่กดดันนะคะ ยิ่งกระแสในโลกโซเชี่ยลมาแรงเวลาคนติชมจ๊ะจ๋าว่ามันทำให้เราใกล้ชิดกับคนดูมากขึ้น แม้ว่าละครจะถ่ายล่วงหน้าก่อนออนแอร์มันไม่มีทางแก้ไขอะไรได้แต่ทุกคำติชมก็สามารถเป็นกำลังใจให้เราต่อไปได้ เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ปรับปรุงฝีมือของเราในเรื่องต่อๆ ไปค่ะ กับละครเรื่องอื่นปีหน้าจ๊ะจ๋าว่าทุกคนคงได้เห็นละครของจ๊ะจ๋าเยอะหน่อยนะคะ ตอนนี้ที่มีอยู่ก็ 3 เรื่องคือ “หมอผีไซเบอร์”, “สะใภ้จ้าว” แล้วก็มี “บุษบาเร่รัก” ถ้าอันไหนพูดชื่อผิดก็ขออภัยด้วยเพราะละครยังไม่ได้ถ่ายเลยค่ะ(ยิ้ม) ปีนี้เป็นปีที่จ๊ะจ๋ารู้สึกดีมากๆ เพราะเราถ่ายละคร 7 วันตลอดเลย ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลยค่ะ”

”กับคอนเสิร์ตก็สนุกมากเลยค่ะ ประทับใจมากๆ เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับจ๊ะจ๋าอีกช่วงหนึ่งเลยค่ะ ได้ทำอะไรใหม่ๆ เป็นการเรียนรู้และเข้าไปในโลกเพลงของยุค 80 นะคะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยขึ้นคอนเสิร์ตเลยค่ะ เคยแต่เป็นพิธีกร นักแสดง เดินแฟชั่นโชว์ก็ทำมาแล้ว คือเป็นมาหลายอย่าง แต่สิ่งที่ไม่เคยทำเลยคือการร้องเพลงขึ้นคอนเสิร์ต ครั้งนี้ก็ขอบคุณไทยประกันชีวิตและ The palace ที่ให้โอกาสจ๊ะจ๋าได้ลองทำอะไรที่มันท้าทาย ผลตอบรับก็ค่อนข้างพอใจค่ะ จ๊ะจ๋าชอบมาก(ยิ้ม)”

”ส่วนเรื่องท่าเต้นที่บอกถึงเนื้อถึงตัวกับพี่ “จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว” คือคอนเสิร์จนี้เป็นไปตามหนังเลยค่ะ สำหรับใครที่เป็นแฟนๆ ของ “Grease” จะบอกเลยว่าคู่นี้เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ เป็นเด็กนัธยม 2 คนที่จีบกัน ก็จะมีฉากกุ๊กกิ๊กกัน ส่วนคนอื่นจะมองยังไงจริงๆ มันก็เป็นเรื่องของงานนะคะ ใครที่เห็นภาพนี้แล้วนึกย้อนไปถึงหนังเรื่องนี้ก็จะดีมากเลยค่ะ กับภาพที่บอกว่าประคองขึ้นรถอันนี้จ๊ะจ๋าเห็นแล้วค่ะ คือไม่ได้เห็นภาพแต่เห็นสื่อได้เขียนขึ้นมาว่าประคองจ๊ะจ๋าขึ้นรถ แต่ถ้าได้เห็นภาพคือไม่ได้ประคองขึ้นรถแต่เป็นภาพในคอนเสิร์ต คือเรื่องนี้พี่เขาให้สัมภาษณ์ไปแล้วจ๊ะจ๋าก็ขอไม่พูดอะไรต่อแล้วกัน ก็เป็นไปตามนั้นค่ะ พี่เขาว่ายังไงจ๊ะจ๋าก็ว่าอย่างนั้น แต่ว่าการที่เราได้ทำงานร่วมกันมากขึ้นความสนิทสนมในการทำงานมันก็ต้องมีเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องปกติของสังคมคนเรา ทีนี้จ๊ะจ๋ากับพี่จิ๊บที่เราเดินสายโปรโมทและซ้อมเต้นด้วยกันมาเป็นปีก็คงไม่แปลกที่เราจะสนิทสนมกัน”

”จ๊ะจ๋าว่าเราต้องแยกให้ออกก่อนว่าชีวิตจริงของเราคืออะไรแล้วชีวิตในโลกของสื่อคืออะไร ชีวิตของจ๊ะจ๋าคือทำงานทุกวันเป็นเรื่องปกติแล้วเวลาที่เราได้ร่วมงานกับใครก็ไม่แปลกที่จะสนิทสนมกันทุกคนด้วยความเป็นมืออาชีพของพวกเรา ทีนี้พอมีข่าวที่คนสนใจในเรื่องของความรักหรืออะไรก็แล้วแต่จ๊ะจ๋าก็ขอยกเรื่องพวกนี้ให้เป็นเรื่องความสนใจของข่าวเพราะงานกับเรื่องส่วนตัวมันไม่ควรจะเอามาปนกันและไม่ควรที่จะนำภาวะของข่าวมาทำให้งานของเราสะดุด จ๊ะจ๋าเคยให้สำภาษณ์ไปแล้วว่าการเป็นมืออาชีพเราพร้อมจะทำงานกับทุกคนที่เป็นมืออาชีพ ทางพี่จิ๊บเองเขาก็เป็นพี่ที่น่ารัก มีความตั้งใจในการทำงานและมีคำแนะนำที่ดี พี่เขาเป็นมืออาชีพมากๆ เพราะมีหลายครั้งที่พี่เขาให้ความช่วยเหลือในงานใหม่ๆ ของเรา จ๊ะจ๋าโชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนที่เก่งและมีความสามารถค่ะ”

”ถามว่าซีเรียสกับข่าวไหมจะซีเรียสทำไมคะ ความสัมพันธ์ที่ดีไม่มีอะไรต้องซีเรียสหรอกค่ะ(ยิ้ม) สำหรับที่พี่จิ๊บพูดให้เกียรติจ๊ะจ๋าก็ขอบคุณค่ะ จริงๆ ตัวจ๊ะจ๋าเองบอกตรงๆ เลยว่าไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสักเท่าไรด้วยความที่ยุ่งมากๆ แต่ตัวจ๊ะจ๋าก็ชอบอ่านข่าวซุบซิบเหมือนกัน ข่าวดารานี่สนุกมากๆ (หัวเราะ) แต่คือในหลายๆ เรื่องมันเป็นความรู้สึกที่ดี สำหรับใครที่มีความรู้สึกดีๆ ให้เราถ้ารับไว้มันก็เป็นสิ่งที่ดี ก็ขอบคุณมากๆ ในการพูดถึงที่ดี ขอบคุณสำหรับคำชมต่างๆ ค่ะ ที่บอกพี่จิ๊บไม่กล้าเขยิบความสัมพันธ์ก็เอาตามนั้นเลยค่ะ จ๊ะจ๋าว่าจุดที่ดีที่สุดในเรื่องของความสัมพันธ์ก็คือความสบายใจ สบายใจตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น สบายใจที่จะบอกอะไรก็บอกแบบนั้น ตัวจ๊ะจ๋าเองก็เป็นธรรมชาตินะ เวลาอยู่หน้ากล้องหรือหลังกล้องจ๊ะจ๋าก็เป็นแบบนี้เพียงแต่หลังกล้องอาจจะมีมุมที่ซนนิดหน่อย สำหรับจ๊ะจ๋าเรื่องข่าวไม่ค่อยมีผลอะไรยกเว้นข่าวที่ทำให้เสียใจก็อาจจะมีเก็บไปร้องไห้ที่บ้านคนเดียว(หัวเราะ) ก็สบายๆ ค่ะ”

”ตอนนี้มีหนุ่มเข้ามาคุยบ้างค่ะ สเปกมีอยู่แล้ว ถามว่าหนุ่มที่เข้ามาตรงสเปกไหมก็…อยู่ในจุดที่เลือกได้ก็ควรจะเลือกนิดหนึ่ง(ยิ้ม) เอาเป็นว่าถ้าเริ่มมีความชัดเจนจ๊ะจ๋าเองก็ไม่ใช่คนที่หลบซ่อน ตัวเราก็ค่อนข้างเปิดเผยเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวกับคนรอบข้าง ถ้าใครเห็นจ๊ะจ๋าไปทานข้าวหรือไปไหนกสามารถทักทายได้ ถามได้ ถ้าใช่จ๊ะจ๋าก็จะส่งสัญญาณให้รู้เลยว่าใช่ บางทีในเรื่องความสัมพันธ์สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงไทยการที่จะออกมาพูดมากๆ จ๊ะจ๋าว่ามันเป็นสิ่งที่อาจจะต้องระมัดระวัง อีกอย่างเราเป็นคนของสื่อด้วย น้องๆ ที่มาเห็นเขาจะคิดว่าคนที่เขาชื่นชอบมีการวางตัวแบบไหนและพูดยังไง ยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่โลกโซเชี่ยลมันไวมากๆ การจะพูดอะไรก็น่าจะกรองสักหน่อยเพราะบางครั้งคำพูดของเราอาจจะส่งผลให้คนรู้สึกไม่ดี อันนี้ก็ต้องระวังกันนิดหนึ่ง เรื่องความรักก็เหมือนกันค่ะ(ยิ้ม)”

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มิว เผยเตรียมทำบุญวันเกิดร่วมสร้างโรงเรียนกับแฟนคลับ ปัดแข่งดังกับ ญาญ่า บอกคนละสไตล์

ช่วงนี้สาว มิว นิษฐา จิรยั่งยืน โดนงานรุมแบบสุดๆ จนคนจับตามองและนำไปเปรียบเทียบกับ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ที่ออกงานถี่เหมือนกัน ทำให้ถูกเม้าท์ว่ากำลังเปิดศึกชิงตำแหน่งซุปตาร์กันอยู่ 



ล่าสุดในงานประกวด “Veet Cover Girl Contest by Veet Naturals” ณ ลานเอเทรียม 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ได้เจอ มิว นิษฐา จิรยั่งยืน เจ้าตัวก็ชี้แจงให้ฟังว่า

”เรื่องโครงการทบุญกับแฟนคลับจริงๆ ก็มีมาตั้งแต่ 21 ก.ย.แล้วค่ะ ซึ่งก็คือเป็นวันเกิดมิว แต่พอดีเงินเพิ่งจะเอาไปสร้างเป็นโรงเรียนให้น้องๆ บนดอยที่เชียงราย แต่เงินที่นำมามันไม่พอสร้างเป็นโรงเรียนเลยก็จะทำได้แค่เป็นส่วนหนึ่งค่ะ จริงๆ ตัวมิวเองก็อยากจะทำทั้งโรงเรียนเลยนะแต่มันต้องใช้เงินค่อนข้างเยอะค่ะ โรงเรียนนี้อยู่ค่อนข้างลำบากเพราะไม่ค่อยมีอะไรเจริญตรงนั้นสักเท่าไร ที่มิวเห็นตอนแรกก็จะเป็นบ้านเก่าๆ จริงๆ เราก็ทำทุกปีนะ อย่างปีที่แล้วก็ไปเลี้ยงเด็กกิการค่ะ ส่วนปีหน้ายังไม่รู้เลยค่ะ ไว้รอใกล้ๆ ก่อนค่อยคิดว่าปีหน้าเราอยากจะทำบุญอะไร”

”จริงๆ ตัวมิวก็ไม่ได้ไปด้วยตัวเองแต่ก็ได้เห็นภาพที่เขาถ่ายมา น้องๆ มีใส่เสื้อแฟนคลับด้วย น่ารักดี ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปที่โรงเรียนสักทีแต่ก็ค่อนข้างไปยากเหมือนกันเพราะต้องนั่งรถต่อเข้าไปลึกพอสมควร ที่รู้จักกับโณงเรียนนี้พอดีมิวรู้สึกกับคนทำโครงการสร้างโรงเรียนซึ่งเขาก็จะเวียนไปสร้างเรื่อยๆ ในหลายๆ ที่ ตอนนี้เขาก็สร้างไปแล้ว 9-10 ที่ มิวก็เลยเอาโครงการนี้แหละมาทำบุญร่วมกับแฟนคลับค่ะ”

”เรื่องที่คนเอามิวไปเปรียบเทียบกับญาญ่าพูดเลยว่ามิวแข่งกับน้องไม่ได้หรอก เราคนละสไตล์ค่ะ มิวไม่รู้เลยว่าใครทำเท่าไรหรือทำอะไร มิวดูตามความเหมาะสมของตัวมิวเอง เราก็เอาตามที่เราพอใจค่ะ เอาจริงๆ มิวก็เพิ่งรู้นี่แหละว่ามีจับตามองเหมือนกัน(หัวเราะ) จริงๆ เรื่องค่าตัวมันก็เป็นไปตามความนิยมของเรา ดังนั้นค่าตัวมันก็ต้องมากขึ้นกว่าตอนที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ อยู่แล้ว ยิ่งทำมานานก็ยิ่งเพิ่มค่ะ(ยิ้ม) หลังจากนี้ก็คงไม่ได้เอาข่าวนี้ไปคุยกับญาญ่าหรอกค่ะ น้องเขาคงไม่คิดมากกับเรื่องข่าวพวกนี้อยู่แล้ว ไม่กลัวเกาเหลาเพราะข่าวนี้แน่นอนค่ะ”

”ส่วนที่คนบอกมิวเข้าถึงยากจริงๆ ก็ไม่ยากหรอกค่ะ มิวยังเดินห้างปกติเลยค่ะ ก็ไม่เคยเดินหนีแฟนคลับนะ เราก็เดินไปตามปกติของเรา ยังทักทายแฟนคลับเวลาเจอเหมือนเดิม แฟนๆ เขาก็มาตามเราที่งานต่างๆ เหมือนเดิม เอาจริงๆ ก็งงกับข่าวนี้เหมือนกันแต่ก็งงมาหลายข่าวแล้วเลยไม่ตกใจมาก(หัวเราะ)”

”ความรักตอนนี้ก็เรื่อยๆ ค่ะ ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเยอะขึ้นกว่าเดิมซึ่งก็คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจในเรื่องการทำงานของเรา คือเรื่องนี้เขาต้องเข้าใจมาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ช่วงนี้งานเยอะก็ไม่ได้ทำให้ห่างกว่าเดิมหรอกค่ะ เรายังมีโทรคุยกันปกติ ถ้าวันไหนว่างๆ เราก็นัดไปกินข้าวกันบ้างอะไรแบบนี้ค่ะ”

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เบลล่า ปัดเป็นหัวโจกแอนตี้ คิมเบอร์ลี่ เผยไม่รู้ เวียร์ โทรสั่ง อั้ม อันฟอลโล่ว

ก่อนหน้านี้นางเอกยิ้มสวย เบลล่า ราณี แคมเปน ที่เคยมีกระแสข่าวว่าเกาเหลากับเพื่อนนักแสดงในวงการบันเทิงด้วยกันมาแล้วหลายคน ล่าสุดก็ตกเป็นประเด็นให้คนเม้าท์อีกแล้ว ซึ่งถูกโยงว่ากำลังเกาเหล่ากับ คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ โดยงานนี้เม้าท์กันถึงขั้นเป็นหัวโจกชวนให้เด็กในสังกัดทีมเดียวกันไม่ชอบไปด้วย ด้วยเหตุที่หนุ่ม  หมาก ปริญ สุภารัตน์ ให้เวลากับอีกฝ่ายมากเกินไปจนไม่มีเวลามาพบปะพูดคุยกันเหมือนเมื่อก่อน 


พอมีโอกาสได้เจอเจ้าตัว ในงาน “I choose Blackmores” ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว เบลล่า เลยขอเคลียร์ข่าวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

”เรื่องพี่เวียร์สายตรงอั้มสั่งอันฟอลโล่วอินสตาแกรมหนูอันนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย หนูว่ามันไม่มีประเด็นอะไรแล้ว ไม่มีอะไรให้ตอบแล้วค่ะ ก็คือยืนยันเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรค่ะ ไม่อยากพูดอะไรมากแล้ว ขออนุญาตไม่พูดในประเด็นนี้อีกแล้วค่ะ ไม่อยากให้เป็นประเด็นต่อ เคยคุยกับพีเวียร์นานแล้ว พี่เขาได้ยินมาเลยมาถาม เราอธิบายไปไม่มีอะไร กับเรื่องนี้ก็อยากให้ผ่านไปเพราะไม่อยากให้มีประเด็นค่ะ เราไม่ได้คบค่ะ เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้เลิก ก็ยังติดต่อพูดคุยปกติ ก็คุยกันเรื่อยๆ ค่ะ เรื่องที่ห่างกันเพราะพี่เวียร์ไปคู่กับมินอันนี้ไม่เกี่ยวเลยค่ะ เป็นเพราะทำงานด้วยกันทั้งคู่ ส่วนอันนั้นคู่จิ้นเขา ตัวเราไม่มีนอยส์ค่ะ เราก็ต่างคนต่างทำงาน หลังๆ มานี้ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เหมือนเดิมเรื่อยๆ เราไม่ได้นับว่าไม่ได้เจอกันมานานเท่าไรแล้วก็ติดต่อถามไถ่กันบ้าง ไม่ซีเรียสข่าวหรอกค่ะ คือทั้งสองฝ่ายทำงานกันเยอะจริงๆ ดูจากผลงานได้ที่ผ่านมา ส่วนคู่จิ้นของเราตอนนี้ก็รอคิวกันอยู่ คิดว่าน่าจะปีหน้าถึงจะมีละครด้วยกันอีกครั้งหนึ่งค่ะ”

”ส่วนข่าวที่บอกว่าทางทีมผู้จัดการส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบคิมเบอร์ลี่ก็ไม่มีไม่ชอบค่ะ ตอนนี้เขายังไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นด้วยกันอยู่เลย ที่บอกหนูเป็นหัวโจกก็ไม่มีเลย ไม่แอนตี้ค่ะ คือเราก็ยังเคยเจอคิมก็เจอคิมพูดจาทักทายปกติ เพียงแต่ว่าไม่เคยมีโอกาสได้กินข้าวด้วยกัน ส่วนเรื่องชวนไปเที่ยวก็มีฝากหมากไปชวนแต่เขาว่างไม่ตรงกับเรา คือเราไม่ได้เจอกันทั้งแก๊ง แล้วที่บอกว่าเราเป็นหัวโจกแอนตี้เพราะอยากให้หมากกลับมาร่วมแก๊งเหมือนเดิมก็ยิ่งไม่เกี่ยวเลยค่ะ ถ้าหมากว่างหรือตามเทศกาลต่างๆ ก็ยังมีเจอกันอยู่แล้วค่ะ ส่วนกับคิมเราแค่ยังไม่มีโอกาสได้เจอกันเฉยๆ ไม่มีอะไรอยู่แล้วค่ะ เรายินดีต้อนรับอยู่แล้วค่ะ”

”กับเรื่องคนจะจับเอามาเกาเหลาก็จะเอาอะไรมาเกาเหลาเหรอคะ ไม่มีหรอก ก็เข้าใจเนอะว่าทำงาน อาจจะเพราะคนโยงด้วยด้วยมั้งว่าเรื่องหนึ่งหมากเล่นกับเราอีกเรื่องหมากเล่นกับคิมแต่ว่ายืนยันว่าไม่ได้เกาเหลาแน่นอนค่ะ ไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊งด้วยแน่นอนค่ะ(หัวเราะ) กับคิมก็มีคุยถ้าได้เจอหน้ากันแต่เราไม่มีเบอร์โทรศัพท์หรือแชทอะไร ถามว่าสนิทไหม ก็เคยเจอกันค่ะ แต่ไม่ได้สนิทอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ว่าไม่มีอะไรนะ ที่พูดว่าไม่สนิทเราไม่ได้มีแชท ไม่ได้มีเบอร์โทรส่วนตัว ไม่ได้คุยกันแค่นั้นเองค่ะ”

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ณเดชน์ ไม่ซีเรียสถูกจับผิดเรื่องโรคหอบ ปลื้มคนชอบใจฉากสวีท ญาญ่า บนคอนเสิร์ต

คอนเสิร์ต Give Me Five ที่ ณเดชน์ คูกิมิยะ ควงคู่จิ้นอย่าง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ไปเป็นแขกรับเชิญพิเศษ ทำเอาแฟนๆฟินกันสุดๆ เพราะทั้งสองคนโชว์หวานกันสุดๆ จนหลายคนทึกทักว่านี่เป็นการเปิดตัวคบหาดูใจของทั้งคู่เลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่วายมีคนจับผิดว่าที่ก่อนหน้านี้ “ณเดชน์” เคยบอกว่าเป็นโรคหอบหืดแต่ทำไมตอนขึ้นคอนเสิร์ตยังแสดงแบบจัดเต็มไม่มีเหนื่อย แสดงว่าโกหกเรื่องการป่วยหรือเปล่า


ล่าสุดมีโอกาสได้เจอ ณเดชน์ และ ญาญ่า ในงานฉลองเปิดสาขาใหม่อย่างเป็นทางการกับ “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ สมุทรปราการ” ซึ่งทั้งคู่ก็ให้สัมภาษณ์ว่า

ณเดชน์ "กับงานคอนเสิร์ตสนุกมาก ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่เสียสละสตางค์เข้าไปดูพวกเราดีใจมากๆ เลยครับ กับเรื่องคู่จิ้นเราก็เต็มที่ครับ ผมว่าคอนเสิร์ตมีหลายสไตล์ ครบรส ตัวน้องญาญ่าเองเขาก็เต็มที่ทั้งๆ ที่ขาน้องเจ็บจากแมงกะพรุน ทรมานมากแต่เขาก็ใจสู้ เราก็ดีใจที่น้องเจ็บแล้วยังมาให้เรา ส่วนพี่ฉอดก็ขอบคุณพี่ฉอดที่ทำให้คนหลงรักเรามากขึ้น ไม่เขินแล้วเพราะเราซ้อมกันมา แล้วก็ที่บอกหมันเขี้ยวเพราะวันนั้นน้องเขามาแบบฟีลเซ็กซี่มาก มีบิดองบิดเอว เราก็ว้าวๆ เชียร์หน่อย จริงๆ เน้นความธรรมชาติไม่เน้นสคริปต์มาก มาจากอารมณ์เราด้วย ฉากสวีทก็ตามบทเพลงครับ(หัวเราะ) ส่วนที่ผมดูแลที่น้องขาเจ็บก็มีดูแลเขาด้วย ปกติก็เป็นห่วงอยู่แล้ว มีพี่ๆ แดนเซอร์ช่วยกันดูด้วย อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยเพราะขาน้องวันนั้นบวมมากจริงๆ แต่ผมก็บอกน้องว่าพี่ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากให้กำลังใจ"
ญาญ่า "ที่หายเร็วหนูกำลังใจดีจากทุกคนค่ะ ตอนนี้ก็ไปหาหมอทุกวันค่ะ"


นอกจากซีนสวีทก็มีชอตที่หนุ่มๆ เปียกน้ำด้วย
"ฉากนี้หนูเห็นแล้วค่ะ สุดยอดเลย(หัวเราะ)"
"ไม่มีใครคิดว่าจะมีอะไรแบบนั้นออกมา ตอนรันทรูไม่ได้เปียกขนาดนั้น ไม่ได้เจตนาให้ออกมาแบบนั้นแต่ทุกคนก็เจตนาอยากจะเห็นเนอะ ก็อยากจะบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ผมว่ามันไม่ได้ดูน่าเกลียด ไม่ได้โป๊ขนาดนั้น แล้วแต่คนคิด ขำๆ บนเวทีไม่รู้เรื่องเลย เอ็นจอยกับคนดู"

มีคนจับผิดว่าทำไมขึ้นคอนเสิร์ตแล้วไม่หอบ
"กับเรื่องนี้ผมก็ไม่ซีเรียสนะครับ การขึ้นโหนสลิงมันใช้กล้ามเนื้อส่วนใหญ่ ไม่ได้ใช้ระบบหายใจขนาดนั้น อีกอย่างก่อนแสดงเราก็พ่นยาก่อนด้วย กับกระแสรู้สึกเฉยๆ แล้ว เต้นเหนื่อยแต่ก็มีช่วงพักเนอะ แล้วที่มีคนบอกว่าคนเป็นหอบจริงเต้นไม่ได้ขนาดนี้เขาคงเป็นมั้งครับ เขาเลยรู้(หัวเราะ) ผมเฉยๆ ตั้งแต่ไหนแต่ไรตั้งแต่เรื่องทหารแล้ว คนจับผิดคงมาเรื่อยๆ ไม่นอยด์เลย ชินแล้ว 5-6 ปีแล้ว ขำๆ ไม่มีอะไร เป็นบททดสอบของชีวิต มีปัญหาเข้ามาให้แก้ มีขึ้นๆ ลงๆ บ้างชีวิตสนุกดี"


วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ชมพู่ เคลียร์ชัด ยันไม่ได้ท้องท้าให้นับเดือนได้เลย

หลังดาราสาวคนดัง ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ถูกลือว่ากำลังตั้งท้องกับแฟนหนุ่ม น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ จนเป็นกระแสมาพักใหญ่ๆ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใดเพราะกำลังทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น 


ล่าสุดพอสบโอกาสได้เจอ “ชมพู่” ในงานปาร์ตี้แห่งปี “The Ultimate Frozen Party” ณ โรงแรม Sofitel So Bangkok, ห้อง Ballroom ชั้น 8 เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

”ไม่ได้ท้องค่ะ ตอนแรกเลยก็รู้สึกว่าเล่นแรงเลยเหรอ ขอข้ามก่อน ตอนแรกเหมือนมีแค่แหล่งข่าวเดียว แต่สักพักก็มีเยอะขึ้น รับโทรศัพท์ วุ่นวายทั้งวัน ตอบไลน์มือหงิกเลย ส่วนใหญ่ก็ถามว่าจริงเหรอโอเคเปล่า แต่ถ้าเป็นฝ่ายผู้ใหญ่ก็จะดีใจมาก เขาจะบอกจริงเหรอลูก อะไรแบบนี้(หัวเราะ) ถามว่าเครียดไหมก็ขอใช้คำว่ามันเป็นความวุ่นวายใจ แต่ก็ไม่ถึงกับชิว แต่ก็มีบ้าง ที่คนลือเพราะมีวี่แววแล้ววี่แววอะไรอะ(หัวเราะ) ถ้าถึงวันหนึ่งมันต้องแต่งนะ ถ้าหมายถึงเรื่องนี้ สักวันนึงมันต้องมีแหละ เราเดินทางมาไกลถึงขนาดนี้แล้วเนอะเดี๋ยวไปถึงจุดนั้นแน่นอน อีกแปบหนึ่ง”

”ที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาพูดก็ไม่รู้จะออกมาทำไม ไม่ได้มีความตั้งใจจะแถลงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ความจริงก็เป็นความจริง ไม่รู้จะวุ่นวายทำไม อีกอย่างวันนี้ก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว เวลามันคือเครื่องพิสูจน์นับไปแล้วกันอีก 9 เดือน แล้วถ้าไม่ใช่คนที่เม้าท์ออกมาเคลียร์ด้วยนะ 9 เดือนนับจากวันนั้น พี่น็อตเขาก็บอกไม่ต้องเครียด สมมติว่าถ้าเป็นเรื่องจริงถือว่าเป็นเรื่องมงคลนะ ถ้าคนใกล้ตัวมีข่าวดีอย่างนี้ ชมจะยินดีกับเขา เพียงแต่มันยังไม่จริง มันไม่มูลเลยและพูดต่อกันด้วย เราเลยลองถอยออกมาแล้วมองดูว่าเกิดอะไรกับสังคม ทำไมพูดต่อได้ทั้งที่ไม่มีมูล”

”ส่วนแพลนแต่งงานจะเลื่อนไหมก็เอาเป็นว่าจะเร็วขึ้นหรือช้าลง รอนับเดือนได้อยู่ดี แต่สำหรับวันที่เอาจริงๆ นะ ชมยังไม่ได้สรุปกัน ก็คงแต่งแหละ ช่วงไหนนั้นอันนี้ยังไม่รู้ ถ้าบอกไปเดี๋ยวตกใจ มันยังไม่ชัวร์ อีกอย่างเราเป็นผู้หญิงด้วย กับผู้ใหญ่ก็อย่างที่บอกก็มีเซอร์เวย์อะไรกันบ้าง แต่ยังไม่อยากบอก เดี๋ยววุ่นวายกันไปอีก อย่างสมมติถ้าเลื่อนงานขึ้นมาไวขึ้น เดี๋ยวก็จะเจอคำถามรีบบอกทำไมท้องหรือเปล่า หรือว่าถ้าขยายออกไปช้ากว่าเดิมเดี๋ยวก็มาพูดทำไมไม่ได้แต่งล่ะ หรือจะเลิกกัน ก็เพื่อเป็นการตัดความวุ่นวายทั้งปวงให้ทางผู้ใหญ่จัดการ”

”แต่ไม่ใช่แต่งต้นปีหรอก เดี๋ยวตัดชุดไม่ทัน อย่างที่บอกมันยังไม่ชัดเจน ตอนนี้มีหลายปัจจัย ญาติเยอะ เรื่องเวลาสถานที่ด้วย ส่วนจะแต่งปีหน้าแน่นอนไหมก็แหม…อยากแต่งแล้วล่ะ งานช้างไหมยังไม่ได้คิดขนาดนั้น คงค่อยๆ ดูไปตามสเต็ปแหละ เรือนหอก็ยังไม่เสร็จ อีกเยอะมาก ด้วยความที่พื้นที่ประมาณหนึ่ง คุณน็อตเขาดีเทลเยอะ ถามว่าพี่เขาอยากแต่งไหมอันนี้ต้องไปถามเขา จริงๆ ถ้ารอเรือนหออาจจะแหงก อาจจะแต่งก่อนทำเรือนหอเสร็จ แต่ไม่ได้รีบเพราะท้องนะ จะเริ่มเคลียร์งานเลยไหมก็คงไม่ขนาดนั้น ชมว่าจัดงานแต่งงานคงเหมือนจัดงานวันเกิดมั้ง งานแต่งงานคงเป็นอีเว้นท์งานหนึ่งแหละ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งไม่ต้องถึงขนาดจัดเตรียมทุกอย่าง สมุดคิวต้องว่างโบ๋ขนาดนั้นเต็มที่ก็ 2-3 วัน”


วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แตงโม ยันไม่ติดใจโดน นิกกี้ แย่งซีน ยินดีร่วมงานทุกคน

ในงานเดินแบบ “Fashion Destination” ที่ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ต้องเดินเป็นฟินนาเล่ แต่ นิกกี้ เน็ตไอดอลชื่อดังกลับขึ้นมาขโมยซีนร่วมเดินประกบคู่ฟินนาเล่ด้วย ท่ามกลางสายตาคนในงานที่งงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขี้น โดยมีคนสังเกตเห็นว่าสาว แตงโม ค่อนข้างไม่พอใจถึงกับเหวี่ยงกลางเวทีเลยทีเดียว


ล่าสุดได้เจอ “แตงโม” ในงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “Screen shot 2557-10-21 at 15″ ของนิตยสาร OK! ณ เลอ แกรนด์ บอลรูม ชั้น 7 โรงแรมโซฟิเทล แบงค์กอก สุขุมวิท เจ้าตัวก็ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

”วันงานก็ไม่มีอะไรนะคะ การเดินแบบสำหรับโมไม่มีอะไรเลยจริงๆ ค่ะ ไม่ได้มีชนหรือเฉียดพริตตี้ที่ชื่อนิกกี้เลยค่ะ โมเดินตามแพทเทิร์นของโมซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนที่บอกเขาแย่งซีนโมคือโมไม่ใช่น้องเขาก็เลยตอบไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรแต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรค่ะ อาจจะเป็นเพราะเรามาคนละสายงานการทำงานก็เลยต่างสไตล์กัน โดยส่วนตัวโมไม่ได้มีอะไรค่ะ เฉยๆ มาก กับเรื่องนี้โมขำมากกว่าเพราะทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็งงๆ แล้วก็ขำ แต่โมก็เฉยๆ โมค่อนข้างเข้าใจ ต่างคนก็ต่างทำงานที่ได้รับมอบหมายค่ะ”

”เอาจริงๆ โมไม่รู้จักเขาเลยว่าเขาเป็นใคร ก็เพิ่งจะรู้จักเขาในงานว่าเขาเป็นเน็ตไอดอลค่ะ ถามว่าตกใจไหมที่เขาแตะไหล่คือตัวโมเวลาเดินโมจะโฟกัสไปที่ข้างหน้าอย่างเดียว โมไม่ได้สังเกตุว่าเขาทำอะไรบ้างเพราะโมถูกลิสต์มาให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ชุดคือสาวมั่นใจไม่ใช่สาวหวานที่กุ๊กกิ๊กเล่นกับเพื่อน โมก็จะทำตรงนั้นของโมให้ดีที่สุดค่ะ ก่อนเดินจริงก็มีซ้อมกันนิดหน่อยเหมือนกันแต่โมก็เดินเดี่ยวตามลิสต์แหละค่ะ พอเดินจริงก็มีบ้างที่บางจุดก็อาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่เป็นไปตามที่เราซ้อมเพราะฉะนั้นโมก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งโมก็แก้ปัญหาได้ง่ายๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร มันไม่ใช่แฟชั่นวีคหรืองานระดับโลก เราสามารถแก้ปัญหาได้ค่ะ”

”ส่วนที่บอกว่ามีคนจับผิดว่าโมทำสายตาไม่พอใจใส่น้องคือโมได้ยินแต่มีคนไปจับผิดน้องเขามากกว่าไม่ได้จับผิดโม โมไม่พูดถึงเรื่องนี้ดีกว่าเพราะสำหรับโมก็ไม่ได้อะไรกับน้องเขาค่ะ โมยืนยันว่าไม่ได้เกาเหลาน้องจริงๆ โมแทบไม่ได้รู้จักน้องเขาจริงๆ วันนั้นเป็นวันที่โมออกไปทำงานแล้วโมก็ช้อปปิ้งนิดหน่อยในนั้นก่อนจะกลับบ้านแค่นั้นเองค่ะ โมไม่ได้เอาเรื่องน้องเขามาคิดหรือไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับโมเลย ก็อาจจะด้วยมีคนสังเกตุเห็นแต่โมไม่ได้ติดใจอะไร คือไม่รู้จะพูดยังไงเพราะสำหรับโมแค่วันหนึ่งที่ผ่านไป”

”ถามว่ามีคุยกันหลังเวทีไหมก็ต้องบอกก่อนว่าสำหรับโมไม่ได้มีอะไรนะ แต่น้องเขาก็เข้ามาขอโทษ ทางทีมงานก็ได้โทรมาขอโทษกับทางผู้จัดการโมดังนั้นโมถึงได้บอกว่าโมไม่ได้อะไรเลย โมก็เข้าใจว่าเขาอาจจะเกรงใจเราหรือเปล่าเพราะคนในงานก็ค่อนข้างจะงงๆ อึ้งๆ แต่สำหรับโมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ค่ะ ตัวโมก็ไม่ได้ทราบว่าทางทีมงานเข้ามาขอโทษผู้จัดการโมว่าอะไร โมไม่ได้ถามเขาเลยเพราะโมไม่ได้ติดใจอะไร ไม่ได้โกรธ หรือต้องการเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น โมไม่ติดใจเอาความจริงๆ”

”ที่บอกว่ากลัวบานปลายไหมสำหรับโมไม่ได้ติดใจกับเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะบานปลาย โมคิดว่าเรื่องนี้มันก็น่าจะจบแหละค่ะ ถ้าให้ทำงานร่วมกันอีกสำหรับโมจะทำงานกับใครก็ได้เพราะทุกวันนี้กับคนที่เข้ามาเป็นโมเดลไม่ใช่ทุกคนที่โมจะรู้จักนะคะ อย่างงานเมื่อวานโมแทบจะไม่ได้รู้จักใครเลยนอกจากกระแตและพี่แจ็คการีน เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะได้ทำงานกับคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ดังนั้นโมจะทำงานกับใครก็ได้ โมไม่ได้ซีเรียสว่าในงานจะต้องมีใครหรือไม่มีใครค่ะ”


วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แฟนคลับส่งจดหมายค้าน แต้ว ลงละครประกบ บอม

ทำเอาแฟนคลับถึงกับรับไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่านางเอกสาวคนสวย แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ มีคิวหวนประกบพระเอกหนุ่ม บอม-ธนิน มนูญศิลป์ ทำเอาต้องร่อนจดหมายถึง คุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายผลิตรายการ


ล่าสุด พอได้เจอสาวแต้วที่มาร่วมงานแถลงข่าว ‘อีซี่บาย ส่งต่อ…ความห่วงใย ปี 2’ ณ หน้าอาคารสารทรสแควร์ จึงได้สอบถามเรืาองดังกล่าวก็ได้ความมาว่า

“ได้ข่าวมาเหมือนกันค่ะ แต้วมองว่าทุกคนเขาคงเป็นห่วงอยากให้ผลงานของเราออกมาดี แต่แต้วไม่อยากให้เขาทำอะไรแบบนั้นเหมือนกัน เพราะการเล่นละครไม่ว่าจะกับใครก็แล้วแต่มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ท่านตัดสินใจ ส่วนตัวแต้วเองแต้วก็ยินดีอยู่แล้วที่จะได้เล่นกับบอม อยากให้ช่วยสนับสนุนผลงานของเรามากกว่า กับบอมก็มีโอกาสได้คุยนิดหน่อยค่ะว่าจะได้เล่นละครด้วยกันนะ บอมก็บอกเดี๋ยวผมจะทำเต็มที่เลยพี่ แต่สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นอันนี้เรายังไม่ได้คุยกันเลย”

“ที่คนมองว่าแต้วดังกว่าเลยไม่อยากให้ไปเล่นคู่บอม แต้วมองว่าแต้วไม่ได้ดังกว่าบอมนะ มันอาจจะเป็นเพราะแต้วทำงานมานานกว่าบอม ไม่ได้ดังกว่าหรอกค่ะ เข้าใจว่าแฟนคลับและประชาชนมีผลต่อการจับคู่เล่นละคร มันถึงได้มีกระแสคู่จิ้น แต้วว่าสักพักนึงเดี๋ยวมันก็จะผ่านไปค่ะ ผลงานออกมาเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่คนหยิบมาพูดต่อไปเอง”

“พอมีจดหมายออกมา ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เรียกเข้าไปคุย เรายังคงทำงานกันต่อไป แล้วเดี๋ยวก็ฟิตติ้งค่ะ แต้วคงไม่ตามหรอกว่าแฟนคลับคนไหนเป็นคนส่งจดหมาย แต่ถ้าเป็นแฟนคลับที่ตามแต้วอยู่ประจำทุกคนก็น่ารักหมด”

“แต้วไม่ได้มองว่าเป็นการระรานนะ แต้วมองว่ามันเป็นสิทธิส่วนบุคคลมากกว่า จะให้แต้วไปห้ามไม่ให้เขาทำมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว ก็ต้องขอบคุณที่เขาเป็นห่วงและก็คิดแทนเรา แต่ก็ปล่อยให้มันเป็นการทำงานของผู้ใหญ่ไปดีกว่า”

ทั้งนี้สาวแต้วยังฝากถึงแฟนๆด้วยว่า
“อยากจะฝากให้ติดตามผลงานกัน ขอบคุณมากที่เป็นกำลังใจ คอยเชียร์ เมื่อผลงานออกมาแล้วก็อยากให้สนับสนุนกันต่อไปค่ะ”