วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

รู้ไม๊? ทำไมสาวๆ โหวตให้ "อเล็กซ์" โคตรแมน

สุภาพบุรุษในวงการบันเทิงมีมากมายหลายคน แต่ชั่วโมงนี้ บรรดาสาวๆ ทั้งสาวแท้ และสาวเทียมต่างโหวตให้ดาราชายคนนี้แมนและเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ


โดยดาราหนุ่มที่ว่าก็คือ "อเล็กซ์ เรนเดล" นั้นเอง ด้วยเหตุผลที่ไม่ต้องต้มมาม่าขุดเผือกที่ไหนหรอก  แต่จากปาก "อาเล็ก ธีรเดช" ที่เปิดใจกับที่สื่อแบบบ่อยๆ ว่าด้วยความที่หวานใจ "เต้ย จรินทร์พร" นั้นเป็นแฟนเก่าของ"อเล็กซ์"มาก่อน และด้วยความที่ "อเล็กซ์" กับตนนั้นเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นการที่อาเล็กจะสานสัมพันธ์กับเต้ย ว่ากันตาม กฏกติกา มารยาท ..ตั๊กไลฟ์ แล้วต้องแจ้งเรื่องให้อเล็กซ์ได้รับรู้  ซึ่งตนก็แจ้งอเล็กซ์ให้รับรู้เป็นคนแรก ซึ่งทางด้านแฟนเก่าเต้ยก็เข้าใจ  รับฟัง ยินดีและเซย์เยสอวยพรให้เพื่อนและอดีตแฟน คบกันด้วยดีมีความสุขกับรักครั้งนี้



เป็นไงล่ะ พูดอย่างนี้ไม่แมนแล้วจะเรียกอะไรได้อีกล่ะ


ที่มา สยามดารา

วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

หนิง ปณิตา โพสต์เคลียร์ดราม่า ถ่ายแบบสุดเซ็กซี่หลังเพิ่งบวชชีมา

หนิง ปณิตา โดนประเด็นดราม่า หลังจากดาราสาวได้บวชชีในโครงการ 70 ปี 70 ล้านความดี อนุสาวรีย์มีชีวิตถวายพ่อ เป็นเวลารวม 6 วัน แล้วกลับมาลุยงานต่อ ด้วยการถ่ายแบบสุดเซ็กซี่ในลุกส์ที่ดาราสาวมาในทรงผมสกินเฮดร่วมกับแก๊งเพื่อนสนิท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมเพราะเพิ่งไปบวชชีมา


ล่าสุด หนิง ปณิตา ได้โพสต์ข้อความเปิดใจถึงการบวชชี 6 วันแล้วเจอประเด็นดราม่าว่า

“โชคดีที่เกิดมาบนแผ่นดินไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่รักประชาชนที่สุด และได้พบพระพุทธศาสนา ได้มีแต่กัลยาณมิตรที่ชักชวนกันทำบุญ มีโอกาสเข้าออกเสถียรธรรมสถาน ในฐานะของผู้ที่เข้าไปทำบุญจากการบอกบุญของยายจ๋า ครั้งนี้ก้อเช่นกัน ยายจ๋าต้องการบาตร เพื่อให้พุทธสาวิกาได้ใช้ในการบวช เราก็ได้นำบาตรเข้าไปถวาย เสียง สาธุ ของผู้หญิงที่มีจิตใจมุ่งมั่นในการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ดังก้องชวนขนลุกและน้ำตาไหล หลายปีที่มีโอกาสเดินเข้าออก วัดเวฬุวัน (ขอนแก่น) และเสถียรธรรมสถาน เฝ้าบอกตัวเองว่าวันนึงขอมีโอกาสได้บวชบ้าง (ตอนนั้นเห็นพี่อ้อม สุนิสาบวช และเราก็ไปถือพาน บวกกับแม่เคยพูดไว้ว่า ไม่มีลูกชายบวชให้ ตั้งใจมานาน แต่ไม่เคยพร้อมซักที ติดๆๆๆตลอดๆๆ)”


“ขณะจิตนั้นตอบหัวใจตัวเองว่า นี่แหละ คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด จึงขออนุญาติยายจ๋าทั้งๆที่ (ไม่แน่ใจ) ว่างานที่รับไว้จะเคลียร์ได้แค่ไหน ยายตอบถ้าพร้อมได้แค่ไหนแค่นั้น ขอแค่ให้มุ่งมั่นและตั้งใจ เคลียร์งานได้ถึงวันที่ 18 เท่านั้นที่จะไม่กระทบกับส่วนรวม ……………… 6 วันเท่านั้น คุ้มค่าที่สุด กับการทิ้งเงินจำนวนมาก พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้ว่า “ผู้ปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง” ถูกที่สุด ทุกอย่างอยู่ที่ใจกำหนดจริงๆ จนถึงตอนนี้ เราสึกออกมาทำงานที่เราจำเป็นต้องทำ ก็มีเสียงตำหนิว่าเหมาะมั้ย เราคงไปบังคับให้ใครมาเข้าใจเราไม่ได้ ว่าเหมาะหรือไม่ เรารู้แต่ว่าเราทำในสิ่งที่สมควรทำ ณ วินาที ปัจจุบันให้ดีที่สุด เมื่อเราบวชเราทำหน้าที่ของนักบวชที่พึงกระทำได้อย่างดีที่สุด และเมื่อเราสึก (เพราะเรามีเวลาแค่นั้น) เราต้องกลับมารับผิดชอบงานที่เรารับไว้ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจบวช เราก็ต้องเต็มที่กับงานๆนั้น ก็แค่นั้นเอง ……….. สุข ทุกข์ อยู่ที่จิตปรุง แก้คนอื่นไม่ได้ แก้ที่ตัวเอง เราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว #เรื่องราวที่ดีที่สุดที่อยากแชร์#ฉันเกิดในแผ่นดินของรัชกาลที่๙#70ปี70ล้านความดีอนุสาวรีย์มีชีวิตถวายพ่อ”




ที่มา khaosod



วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560

"อาร์ต พศุตม์" เผยไม่เคยท้อ แม้ถูกหาว่าทำดีสร้างภาพ

นักแสดงหนุ่ม อาร์ต-พศุตม์ ลงพื้นที่เป็นจิตอาสาที่สนามหลวงเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ ในหลวง ร.๙ แต่ก็ไม่วายเจอข้อหาทำดีสร้างภาพ 


ล่าสุดได้เจอ "อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม" ระหว่างมาร่วมงาน “เกษตรหนึ่งใจ น้อมเกล้าถวายความอาลัย ร่วมใจปลูกดาวเรือง” ณ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลน์ฯ ภายในสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) จตุจักร โดยอาร์ตเปิดใจกับสื่อในเรื่องนี้ว่า


ถามถึงงานจิตอาสาที่ทำมาตลอด 1 ปี ?
"ก็เจอมาหลายอย่าง โดนไล่บ้าง โดนด่าบ้าง แต่ก็ยิ้มรับและพยายามทำโดยที่ไม่มีอารมณ์ให้ได้มากที่สุด เพราะหลังๆ เราก็นำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ บอกให้เขารู้ว่าการอยู่หลังคีย์บอร์ดไม่ได้เป็นสิ่งที่มีความสุข บางคนก็หาว่าบ่น เราก็ยิ้มและเฉยๆ มองเป็นเรื่องสนุก"



มีท้อบ้างไหม ?
"ไม่ท้อเลย เพราะถ้าท้อก็คงไม่ทำแล้ว เดี๋ยวหลังจากนี้ก็จะมีไปแจกเสื้อคนที่มาจากต่างจังหวัด ตอนนี้สั่งไปกว่า 3 พันตัวแล้ว ทุนก็มาจากเพื่อนๆ ที่เขาอยากช่วยด้วยครับ ส่วนวันพระราชพิธีจริง ก็ไปเป็นจิตอาสาช่วยคัดกรองคนเข้าสนามหลวง วันนั้นแบ่งเป็น 3 กะ กำลังดูว่าจะลงกะไหนดี เพราะนัดกับเพื่อนๆ ไว้ แต่ก็จะทำเท่าที่ตัวเองทำไหวครับ"



อะไรที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดไม่ตอบโต้ ?
"จริงๆ ก็ไม่ได้ปล่อยวางนะ ผมก็จะสวนเกือบทุกดอก บางคนอาจจะบอกว่าทำไมต้องปวดหัวกับคนพวกนี้ คือ ผมไม่ได้ตอบคำด้วยคำพูดที่รุนแรง แต่บอกว่าสิ่งที่เขาทำดีแล้วเหรอ สิ่งที่เขาทำดีกว่าผมทำหรือเปล่า เพราะเวลาคนทำไม่ดีเขาจะไม่รู้ว่ากำลังทำไม่ดี แต่ผมก็ไม่ได้ว่าสวนเขาด้วยคำพูดแรงๆ เพราะคนที่ด่าเราตอนนี้มีแทบจะไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์แล้ว"

แฮชแท็ก 'ทำดีสร้างภาพ' ไม่ได้ต้องการกระแนะกระแหนใครใช่ไหม ?
"ถ้าคนคิดว่ากระแนะกระแหน ก็ตามนั้นครับ แต่ถ้าคิดว่าเป็นการบอกกล่าวก็เป็นการบอกกล่าว ก็แล้วแต่ว่าคนจะคิดไปในทางลบหรือทางบวก ถ้าคิดลบผมก็ขอโทษแล้วกัน แต่ถ้าคิดดีก็ดี ผมไม่ได้จะให้ใครมามองผมบวก ให้ดูจากการกระทำดีกว่า"



ระยะเวลาก็ช่วยพิสูจน์ว่าเราทำเต็มที่ ?
"ตลอดเวลา 365 วัน ผมน่าจะเป็นคนต้นๆ ที่อยู่ตรงนั้น น่าจะประมาณ 100 วัน ก็แล้วแต่คนมองอีกว่าสร้างภาพหรือเปล่า ผมไม่สามารถบอกใครว่าผมเป็นคนดี และผมก็ไม่เคยบอกว่าผมเป็นคนดี ผมแค่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้ไปอยู่บนสวรรค์เท่านั้นเอง จริงๆ ผมก็ไม่ได้ทำให้ท่าน แต่ทำให้คนที่มาหาท่านมากกว่า"

รู้สึกภูมิใจยังไง ?
"เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นประวัติศาสตร์ว่าเราเคยทำ ถึงเวลาผ่านไปอีก 5-10 ปี คนจะลืม แต่สิ่งเหล่านั้นยังอยู่กับผม ผมเคยได้ทำอย่างนี้นะ"

หลังจากนี้จะเดินตามรอยพ่อยังไงบ้าง ?
"ถ้ามีอะไรให้ทำก็คงทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้บอกว่าหมดงานพระราชพิธีในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว ผมจะเลิกทำ จริงๆ ผมก็เริ่มทำกิจกรรมให้กับมูลนิธิต่างๆ บ้างแต่คนเห็นน้อย ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วยหาเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ จนโดนคนที่อยู่ในพื้นที่แจ้งความจับหาว่าผมเอาเงินบริจาคไปใช้ เขาบอกว่าเจ้าอาวาสไม่รับนิมนต์ต่างที่ แล้วผมรับบริจาคได้ยังไง จนผมต้องโทรไปวัดพระบาทน้ำพุ แจ้งหลวงพ่อว่ามีคนหาว่าผมฉ้อโกงอ้างชื่อเสียงวัดไปหากิน เพราะตอนแรกผมตั้งใจว่าคงรวบรวมเงินบริจาคแค่ 1 แสนบาท แต่ท้ายที่สุดรวบรวมได้ถึง 1.2 ล้านบาท เลยต้องให้เพจของวัดแจ้งข่าวว่าผมจะมารับนิมนต์ที่สนามแข่งรถ นครชัยศรี แจ้งรายละเอียดที่มาของเงินทุกอย่าง เขาก็เลยเงิบไป"

พอเป็นแบบนี้ได้เจอคนที่แจ้งความกล่าวหาเราไหม ?
"ไม่เจอครับ แล้วก็ไม่จองเวรกับเขาด้วย รู้สึกว่าเสียเวลา ไม่คิดเอาเรื่อง เราจะทำบุญใจเราต้องเป็นบุญด้วย ส่วนถ้าใจเขาเป็นบาป เขาก็จะได้บาปเอง หลวงพ่อก็บอกอย่าไปจองเวรเขา มองในแง่หนึ่งก็ดีที่เขาพยายามรักษาชื่อเสียงวัด ป้องกันไม่ให้คนเอาชื่อเสียงวัดไปแอบอ้าง"

เขาถอนแจ้งความแล้วใช่ไหม ?
"ก็คงต้องถอนครับ (ยิ้ม)"

พอเป็นจิตอาสาทำให้เราได้รับอะไรบ้าง ?
"เอาจริงๆ คนมองผมในมุมบวกขึ้นเยอะมาก ซึ่งผมไม่เคยคิดตรงนี้ แต่พอคนมองแบบนี้ก็ทำให้เรายิ้มได้ครับ"

ภาพ : art_phasut639
ที่มา สยามดารา

วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2560

“เปรี้ยว” ทึ่ง “แม่ชีหนิง” หัวใจเด็ดเดี่ยวโกนหัวบวชชีทั้งที่รักสวยรักงามที่สุด

“เปรี้ยว ทัศนียา” รับทึ่งในความเด็ดเดี่ยว “แม่ชีหนิง” โกนหัวบวชชีถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง ร.9 ทั้งที่เป็นคนรักสวยรักงาม ส่วนตนก็น้ำตาคลอตามตอนที่เห็นภาพ “น้องณิริน” ปาดน้ำตาให้แม่ชีหนิง


ต้องพักกองถ่ายชั่วคราว เพราะผู้จัด “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” โกนหัวบวชชี ถวายเป็นพระราชกุศล ในหลวง ร.9 ซึ่งนางเอกวิก 7 สี “เปรี้ยว ทัศนียา การสมนุช” ก็เผยความรู้สึกว่า

“แม่ชีไม่ได้บอกอะไรล่วงหน้าเลยค่ะ ไม่ได้บอกเลยค่ะ เมื่อเช้านี้หนูก็เพิ่งไปหาแม่ชีมา แม่ชีก็บอกว่าแม่ชีเป็นคนคิดเยอะ เขาก็กลัวว่าจะเป็นกระแส กลัวคนจะมองไม่ดี แต่จริงๆ แล้วหนูมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ หนูไม่คิดว่ามันเป็นการสร้างภาพหรืออะไรเลย เพราะการที่ผู้หญิงสวยๆ คนหนึ่ง พี่หนิงรักสวยรักงามมาก (ลากเสียงยาว) อย่างที่ทุกคนรู้นะคะ แล้วพี่หนิงตัดสินใจก่อนวันบวชแค่ 2-3 วันเองมั้งคะที่แม่ชีเล่าให้ฟัง ตัดสินใจแป๊บเดียวแล้วก็โกนเลย เป็นคนที่หัวใจเด็ดเดี่ยวมาก”

“แม่ชีเล่าให้ฟังว่าแม่ชีมาปฏิบัติธรรมที่นี่นานแล้ว เป็น 10 ปีแล้ว พอได้โอกาสเขาก็เลยมาปฏิบัติจริงจัง เพราะถวายเป็นพระราชกุศลด้วย และที่แม่ชีพูดกับหนูก็คือเขาอยากให้ช่วยพูดว่าที่นี่ดียังไง สำคัญยังไง คือตอนนี้เขากำลังจะสร้างโรงพยาบาลเล็กๆ ที่อยู่ข้างเสถียรธรรมสถาน เป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรคด้วย รักษาจิตใจเราด้วยค่ะ ซึ่งแม่ชีเปลี่ยนไปมากค่ะ การลุก เดิน เหมือนเดินจงกรมตลอดเวลา เหมือนต้องมีสมาธิทุกๆ การกระทำ”

สุดซึ้งภาพ “น้องณิริน” ปาดน้ำตาแม่ชีหนิง
“แม่ชีบอกว่าไม่ได้กังวลเรื่องความสวยงามเลย รู้แค่ว่าอยากทำจริงๆ ก็ทำเลย แม่ชีไม่ได้ห่วงสวยเลย เราก็รู้สึกประทับใจ มันซึ้งนะ หนูเห็นรูปน้องณิรินเช็ดน้ำตาให้ในไอจีหนูยังน้ำตาคลอเลย ส่งไปในกรุ๊ปละครที่เราถ่ายกันอยู่ ทุกคนก็อนุโมทนากับแม่ชีด้วย หนูยังคิดเลยว่าอย่างหนูจะทำได้มั้ย เพราะมันยากมากเลยนะกับการที่ผู้หญิงจะโกนหัว แต่สำหรับหนูคงยากหน่อย เพราะว่าเราทำงาน มันก็จะลำบากกับคนอื่นในกองถ่าย แต่สำหรับแม่ชีเหมือนเขาก็ยังไม่ได้กลับมาเล่นละครเต็มๆ พอเขามีโอกาสแล้วเขาก็ทำ”

“แม่ชีจะบวชถึงวันพุธนี้ค่ะ เขาบอกว่าถ้าใครว่างก็ไปได้ เพราะมีใส่บาตรใหญ่ กองถ่ายก็หยุดตามที่เขาหยุดกันค่ะ แต่อาทิตย์นี้จะกลับมาถ่ายแล้ว วันพฤหัสบดีนี้ก็เริ่มถ่ายละครแล้วค่ะ ช่วงที่แม่ชีบวชก็เลยไม่ได้มีผลกระทบอะไรเพราะกองหยุดอยู่แล้ว”

ยังรู้สึกเศร้า 1 ปี ที่พ่อจาก ตั้งปณิธานจะเป็นพลเมืองที่ดี
“ยังรู้สึกเศร้าเหมือนเดิมค่ะ พอพระราชพิธีจะเกิดเหมือนตอกย้ำอีกว่าพระองค์ท่านไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แต่ยังไงก็แล้วแต่ พระองค์ท่านก็ยังอยู่ในใจคนไทยทุกคน รวมถึงหนูด้วยค่ะ หนูยึดหลักพอเพียงตามคำสอนของพระองค์ท่าน รู้สึกว่าทำให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อะไรที่เรามีอยู่แล้วเราก็ใช้ในสิ่งที่เรามีและภูมิใจในสิ่งที่เรามีดีกว่า ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะเป็นพลเมืองที่ดี อะไรที่ช่วยเหลือคนอื่นได้ก็จะช่วยเหลือ อะไรก็แล้วแต่ที่หนูแบ่งได้หนูก็จะทำ ซึ่งวันพิธี หนูอยากไปนะคะ อย่างตอนที่เคลื่อนขบวนพระบรมศพวันนั้นหนูก็ไปกับพวกพี่เบลล่า (ราณี แคมเปน) ก็เดี๋ยวรอดูว่าใครจะไปบ้างค่ะ”

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

แม่มุกรับกุญแจซอลท้องจริง เผยทั้งน้ำตาถูกสามีลูกกีดกันไม่ให้เจอ

หลังจากที่มีภาพคนหน้าคล้ายนักแสดงสาว กุญแจซอล ป่านทอทอง ที่หญิงสาวในรูปมีรูปร่างคล้ายกับคนท้อง ไปทานข้าวกับแฟนหนุ่ม "ณัฏฐ์" นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย กัปตันสายการบินไทยสไมล์ ล่าสุดบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้ต่อสายตรงไปหา"คุณแม่มุก มุกดา บุญทอง แม่ของ"กุญแจซอล" เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว


หลังจากที่มีข่าวออกมาได้คุยกับคุณพ่อหรือยัง?
“กับพ่อไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะตอนนี้พ่อเพิ่งรักษาโรคหัวใจเพิ่งหาย ไม่อยากจะอะไรกับเค้ามาก และพ่อก็ทำงานละครหลายเรื่อง ไม่อยากให้เค้ามาอะไรกับตรงนี้ และอีกอย่างพ่อเค้าเลยจุดนั้นมาแล้ว เพราะ 8 เดือนไม่ได้เจอกัน พ่อก็พยายามทำใจแล้ว”

ทำไมแม่ถึงตัดสินใจพูดเรื่องน้อง?
“มันจะได้จบๆ ไป เค้าจะได้ไม่ต้องมาโกหกสังคมว่าเค้าไม่ได้ท้อง เพราะแม่คิดว่าที่เค้าโกหกสังคม เพราะว่าเค้ากลัวว่าแม่จะรู้ว่าเค้าท้อง ไม่รู้ว่าแม่คิดถูกหรือเปล่านะ และเพราะแม่เห็นรูปนั้นแหละค่ะ แม่ถึงรู้ว่าเค้าท้อง แม่เห็นในคอมเมนต์ เห็นภาพนั้นพร้อมกับทุกคน เห็นแล้วก็ตกใจว่าทำไมเค้าทำกับลูกเราขนาดนี้

พาลูกเราไปยกเลิกสัญญากับช่อง ไม่ให้ลูกรับงาน ใครโทรไปก็กีดกัน ลูกอ่านไลน์แม่ก็ไม่เคยตอบ ยิ่งเห็นรูปล่าสุดเค้าโทรมมาก ยิ่งท้องด้วย คือทำไมต้องทำอย่างนี้กับครอบครัวเรา ทำไมไม่ให้เกียรติกันเลย ทั้งๆ ที่เราให้เกียรติเค้านะ เค้าเข้าออกบ้านเราได้ เห็นว่าเป็นทหาร ทำงานขนาดนี้น่าจะเป็นคนที่เราฝากลูกไว้กับเค้าได้ แต่พอเค้าทำอย่างนี้ เราผิดหวังมาก”

เค้าคบกันนานมั้ยถึงมาขอแต่งงาน?
“ไม่นานค่ะ เค้าคบกันตอนไปกรอกข้าวสาร และมันก็ไวเกินไป พอพูดคำเดียวว่า มันไวไปมั้ย ถ้ายังไม่พร้อมก็ดูๆ กันไปก่อน แล้วเค้าก็โกรธและเอาลูกเราไป ถามว่าคิดมั้ย ตอนที่เค้ามาขอท้องรึยัง ตอนนั้นยังไม่คิด จนกระทั่งแม่มารู้ว่าน้องท้อง เพิ่งเห็นว่าท้องขนาดนี้ ก่อนหน้านี้คิดว่าเค้าเพิ่งเรียนจบคงไปหางานทำ ไปเรียนรู้ด้านทนายความ เพราะผู้ชายเคยพูดว่าเค้าสามารถฝากให้น้องไปเป็นทหารได้ สามารถให้น้องไปเป็นนักบินได้ เราก็คิดว่าลูกเราอยู่กับเค้าคงรอให้ได้ดีแล้วกลับมา แม่ไม่คิดว่าจู่ๆ เค้าจะท้อง และมีอะไรกันก่อนจะมาสู่ขอ”

ไม่ได้กีดกันเค้าทั้งสองคนใช่มั้ย?
“คือไม่ได้กีดกันค่ะ เพราะเราไปคุยเรื่องแต่งงานกันแล้ว แม่มีคนกลางไปคุยเรื่องแต่งงานแล้ว แต่ยอมรับว่าตอนนั้นเครียด เพราะแม่ฝ่ายชายไม่ให้เกียรติเท่าไร มาแล้วก็เจ้ากี้เจ้าการ และบอกให้ฝ่ายหญิงออกค่าใช้จ่ายในวันสู่ขอนะ ส่วนในวันแต่งเค้าจัดการเอง และก็พูดเรื่องเงินสินสอดว่าเพิ่งไปงานสู่ขอมา บ้านนั้นเค้าไม่เรียกค่าสินสอดเลยนะ บ้านนี้เอาแค่ 5 แสน ซึ่งเค้าพูดแบบนี้ พอหลังจากคุยเสร็จยังคุยกับซอลเลย ซอลบอกว่าแม่ หนูหน้าชาเลย เรื่องสินสอดเราคุยกันจบที่ 2 ล้าน ก็ยังคิดว่าเหมือนเราได้ลูกชายเพิ่มมาอีกคนก็แล้วกัน

แต่หลังจากนั้นเค้า 2 คนกลับมากรุงเทพฯ ก่อน พ่อก็ถามว่าได้ข่าวยังไม่ค่อยพร้อมเหรอ ยังไงเพิ่งคบกัน ดูๆ กันไปก่อนดีมั้ย ผู้ชายก็ฉุนขึ้นมาเลย และวันนั้นทั้งวันเค้าก็นั่งคุยกันที่บ้านแม่ คุยกันเครียดเลย พอแม่กลับมา ลูกสาวอีกคนก็มาบอกว่า 2 คนนั้นเค้ารอคุยกับแม่อยู่ แม่ก็เลยเดินไปบอกเค้าว่าวันนี้แม่เหนื่อย ค่อยคุยกันวันหลังได้มั้ย ผู้ชายก็บอกครับๆ แล้วเค้าก็เรียกซอล ปิดประตูดังมากแล้วขับรถกันอย่างเร็ว คือตอนนั้นคิดว่าเค้าจะไปนอนอีกบ้านนึง เพราะแม่มีบ้าน 2 หลังใกล้ๆ กัน น้องไม่ได้เอาข้าวของออกจากบ้านไปเลยสักชิ้น”

แล้วได้ตามหากุญแจซอลมั้ย?
“ตามค่ะ คืนวันนั้นก็ไปตามที่คอนโดผู้ชาย เลยได้รู้ว่าเค้าเช่าเป็นรายวัน ไม่ได้อยู่ตลอด และผู้ชายคนนี้แม่ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหน เพราะทุกอย่างมันเร็วมาก แม่ตามทั้งคืน แม่ไปแจ้งความไว้ เค้าก็บอกว่าเจอพิกัดที่นครสวรรค์บ้าง เราก็ตามกันไปทุกที่ที่มีคนบอก จนไปแจ้งความที่ สน.สุวรรณภูมิ ตำรวจก็เชิญฝ่ายชายมาแต่เค้าไม่มา ทั้งๆ ที่เราแจ้งความ แต่เค้าไม่ยอมมาเจอ ไม่ยอมมาคุยกับเรา ที่ทำงานของผู้ชายก็ทำหนังสือส่งไปค่ะ แต่ลูกเราก็ปกป้องเค้า ไปจดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 14 ก.พ. แม่รู้เพราะว่าแม่ตามหา เลยรู้ว่าเค้าไปจดทะเบียนที่ สำนักงานเขตสายไหม

คือที่ลูกเราจดทะเบียนกับเค้าเพราะผู้ชายบอกว่า ต้องจดทะเบียนกับพี่นะ เพราะว่าจะได้เบิกประกันได้ เมื่อวานนี้ซอลคุยกับผู้ใหญ่อีกคนนึง เค้าโทรไปหาและถามว่าจะกลับมาหาพ่อกับแม่มั้ย แต่ลูกเราบอกว่าต้องปรึกษาผู้ชายก่อน แล้วเค้าก็ชวนคุย ถามว่าท้องเหรอ เค้าก็ยอมรับว่าท้อง ใกล้คลอดแล้ว เค้าก็บอกว่าหนูต้องจดทะเบียนกับพี่เค้าจะได้เบิกค่าใช้จ่ายได้ และเค้าบอกว่าเค้าจะคลอดเองด้วย ซึ่งเราเป็นห่วงมาก เพราะตอนแม่คลอดเค้าออกมา แม่ผ่าคลอด แม่กลัวเรื่องเค้าจะคลอดเอง เป็นห่วงเค้ามาก กลัวเค้าจะเป็นอันตราย แม่เป็นห่วงเค้า เมื่อก่อนแม่ดูแลคอยเตือนเรื่องอาหารการกิน แต่ตอนนี้เค้าท้อง เค้ายังดื่มน้ำอัดลมเลย ที่แม่เห็นในรูปนะ”

แม่อยากจะบอกอะไรลูกสาวมั้ย?
“ไม่อยากจะบอกอะไร เพราะเค้าไม่ฟังใครแล้ว แม่เป็นห่วงลูกนะ ที่ก่อนหน้านี้แม่ไม่พูด ไม่ให้ข่าว เพราะแม่กลัวลูกจะเป็นอันตราย แม่ดูข่าวที่คนหายตัวไปแม่ก็กลัว แม่เป็นห่วง แต่วันนี้ที่ต้องพูดเพราะแค่ไม่อยากให้ลูกต้องโกหกใครอีกต่อไป ถ้าจะท้องก็ท้องนะ แม่แค่อยากให้ลูกทำให้ถูกต้องมากกว่า”

ถ้ากุญแจซอลคลอดลูกเสร็จ และแฟนเค้าพาหลานกลับมาขอโทษพ่อกับแม่ล่ะ?
“มันก็ต้องดูนะว่าเค้ายังมีสามัญสำนึกมั้ย ไม่ใช่ทำตามกระแส คนเราต้องคิดเองได้ มีสามัญสำนึก ไม่ใช่สร้างภาพโกหกกัน มันไม่ใช่ สงสารหลานเพราะเค้าไม่รู้เรื่อง เค้าคงคิดว่าแม่ไปจู้จี้กับเค้ามากเกินไป แต่จริงๆ แล้วมันคือ ความรัก ความห่วงใย ที่แม่มีให้กับลูก ไม่ให้ห่วงลูกแล้วจะให้แม่ไปห่วงใคร แต่เค้าคงไม่ได้คิดหรอกว่าเราเป็นห่วงเค้า”

ที่มา  ไทยรัฐออนไลน์


วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เชอรี่ สามโคก เผยเหตุที่ทำให้ชุดเว้าลึก จนโดนวิจารณ์ยับ

"เชอรี่ สามโคก " โดนวิจารณ์หนัก หลังใส่ชุดสีชมพูมสุดวาบหวิว ทั้งเว้าลึกและรัดรูปคล้ายกับชุดว่ายน้ำวันพีซโชว์สัดส่วนแบบเต็มตา โดยเฉพาะส่วนบนบริเวณหน้าอกที่ผ่าลึกเอามากๆ ขึ้นร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต 


หลังจากที่วันก่อนนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ หรือ "เชอรี่ สามโคก" ได้ขึ้นร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต ในชุดเว้าลึกและรัดรูปสีชมพูมสุดวาบหวิวคล้ายกับชุดว่ายน้ำวันพีซโชว์สัดส่วนแบบเต็มตา โดยเฉพาะส่วนบนบริเวณหน้าอกที่ผ่าลึกเอามากๆ จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์


ล่าสุด สาวเชอรี่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ชุดดังกล่าวเป็นชุด ULTRA LUV BUG FRINGE BODYSUIT ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งวันที่ขึ้นโชว์คอนเสิร์ตตนเพิ่งรู้ว่าตัวเองใส่ชุดกลับด้าน โดยที่งานดังกล่าวเป็นงานในผับและทุกคลิปที่ลง ตนก็ได้เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ฉ 20 เยาวชนไม่ควรทำตาม และตนยืนยันว่าได้เซฟเป็นอย่างดี


งานนี้ สาวเชอรี่ออกมาเคลียร์ว่า เพราะความเปิ่นของตัวเองทำให้ใส่ชุดกลับด้าน ซึ่งตัวเองไม่ได้ตั้งใจให้ภาพออกมาเซ็กซี่ขนาดนั้น







ภาพจาก Instagram cherry_ladapa
ที่มา สยามดารา

วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ปุยฝ้าย เดือด โพสต์เฟซบุ๊กประจาน พร้อมลั่นจะถลกหนังหัวคนใส่ร้ายหาว่าขายตัวมาให้ได้

หลังอดทนมานาน นักร้องสาว ณัฏฐพัชร์ วิภัทรเดชตระกูล หรือ ปุยฝ้าย เอเอฟ โพสต์เฟซบุ๊กประจานชายคนหนึ่ง ที่ส่งข้อความมารังควาน และพยายามใส่ร้ายว่านักร้องสาวขายบริการทางเพศ อ้างว่ามีคลิป โดยงานนี้สาวปุยฝ้ายท้าให้เอาออกมาโชว์ และจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตอนนี้แจ้งความไว้แล้ว หลักฐานพร้อม


โดยปุยฝ้าย เอเอฟ ระบุว่า

“วันนี้ฝ้ายมีเรื่องที่จะต้องออกมาพูดถึง เพราะอดทนและเสียใจกับมันมานานแล้ว ฝ้ายทำงานมาสิบปี ตลอดระยะทางโดนใส่ร้าย โดนพูดถึงในทางที่ไม่ดีมาบ่อยๆ ว่าที่มีทุกวันนี้ได้เพราะขายตัว มีเสี่ยเลี้ยง เป็นเด็กคนนั้น เป็นเด็กคนนี้ ฝ้ายพยายามอดทนและปล่อยวาง คิดว่ามันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ต้องมาถูกพูดถึงแบบนี้ ใช้ธรรมะในการดำเนินชีวิตมาตลอด และเราห้ามปากห้ามคนนินทาไม่ได้ ได้แต่เข้มแข็งและช่างมันเพราะไม่ว่าใครจะพูดยังไง ฝ้ายรู้ตัวเองที่สุดว่าฝ้ายไม่เคยทำ ทุกบาททุกสตางค์มาจากน้ำพักน้ำแรงและความตั้งใจในการทำงานของฝ้าย ความตั้งใจเดียวคือดูแลครอบครัวดูแลตัวเองได้ การพูดสนุกปากโดยที่ไม่รู้ความจริงของคนไม่กี่คน มันได้สร้างความเสียใจเจ็บปวดให้ฝ้ายมามาก ฝ้ายอดทนและคิดเสมอว่าเวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง แต่ในวันนี้ที่ฝ้ายต้องออกมาพูดเพราะว่าฝ้ายต้องปกป้องตัวเองบ้างแล้ว”

เรื่องราวเลวทรามเหล่านี้มันเข้ามาถึงตัวฝ้าย มีคนๆนึงพยายามไดเรคไอจีมาหาฝ้ายเพื่อยัดเยียดเรื่องขายตัว ส่งรูปมาว่าเป็นฝ้าย ซึ่งฝ้ายไม่สนใจอยู่แล้วเพราะไม่ใช่ ไม่เคยทำ และคิดว่าเป็นพวกป่วนและโรคจิต…แต่ที่หนักมากขึ้นคือเค้าเข้าถึงตัวแม่ฝ้าย ทำทีไปติดต่อเรื่องงานผ่านการคอมเม้นท์ทางไอจี แม่ฝ้ายเค้าก็เลยให้ไลน์เพื่อติดต่อในการทำงาน และในที่สุดแม่ฝ้ายก็ให้เบอร์ฝ้ายไปเพื่อให้ฝ้ายคุยรายละเอียดงานเอง พอได้เบอร์ไป เค้าก็ขอไลน์เพื่อส่งรายละเอียดงานมาให้ ทำทีคุยงานจริงๆค่ะแต่ก็ดูงงๆจนฝ้ายขอรายละเอียดงานทั้งหมด เค้าบอกว่าจะส่งมาให้ แล้วก็หายไป (บุคคลนี้พยายามจะเข้าถึงตัวฝ้ายตั้งแต่เดือนสิงหา)…


สักพักก็มีผู้ชายคนนึงทักมาแบบในรูป เหมือนจะบอกว่าในรูปที่นอนบนเตียงคือฝ้าย ต้องขอโทษที่มีรูปอุบาทว์ให้เห็นนิดหน่อย จริงๆมีมากกว่านี้ และขอโทษที่มีคำหยาบคาย ตอนนั้นโกรธจริงๆหลังจากฝ้ายด่าไป เค้าก็ออกจากไลน์ไปเลย เลวมาก และที่มึงบอกว่ากูเคยไปงาน เจอที่นั่นที่นี่ กูไม่เคยไปค่ะ!!…ไม่ว่าใครจะยัดเยียด จะพูดว่าฝ้ายขายตัว เคยไปนอนกับใครมาบ้างอย่าดีแต่พูดพล่อยๆ!! เอาหลักฐานมาค่ะ จะปล่อยคลิป ปล่อยรูป เชิญปล่อยมาเลยนะคะ ตัดต่อมาให้เนียนด้วย หรือเคยไปนอนตึกไหนชั้นไหนยังไงบอกมาค่ะ เราจะได้ไปเช็คกล้องวงจรปิดพร้อมๆกัน”


“ตอนนี้ฝ้ายเข้าแจ้งความทุกอย่างไว้แล้วพร้อมหลักฐานโดยละเอียด และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ฝ้ายยอมเสียเงิน เสียเวลาทุกอย่างเพื่อจะถลกหนังคนพวกนี้ ถ้าฝ้ายไม่แน่จริง ถ้าฝ้ายเคยขายตัว ฝ้ายจะไม่กล้าออกมาแบบนี้ เพราะฉะนั้นมาดูกันสักตั้งค่ะ มันพอแล้วกับความเจ็บปวดเสียใจที่ฝ้ายต้องเจอ คนพูดต่อก็พูดกันโดยไม่รู้อะไรเลย คุณพูด คุณทำร้ายคนอื่น คุณอาจจะมีความสุข แต่มันทำร้ายฝ้ายอย่างมาก และฝ้ายไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ฝ้ายรับวิบากกรรมจากปากคนมาเยอะแล้ว ต่อจากนี้ฝ้ายจะปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองบ้าง ฝ้ายบอกตรงนี้เลย ฝ้ายไม่ได้โกรธแค้นใดใด ฝ้ายจะอภัยให้พวกเค้าด้วยซ้ำ แต่ฝ้ายจะบอกเค้าว่าอย่าทำแบบนี้กับฝ้ายและกับใครอีก คุณเอาเวลาไปพัฒนาจิตใจตัวเองให้สูงขึ้นเถอะค่ะ และเรื่องชั่วๆแบบนี้มันควรจะพอซะที ใครได้อ่านข้อความนี้ช่วยแชร์กันด้วยนะคะ”

ที่มา : khaosod