วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

จุ๋ย ยอมรับขอลดสถานะ หนาม ปัด ดีเจพุฒ เป็นมือที่สาม

นักแสดงสาวมากฝีมือ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา ตกเป็นข่าวช็อกต้อนรับปีใหม่ เมื่อออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกว่าลดสถานะแฟนหนุ่มไฮโซ หนาม รวิ ธนดล อิทธิระวิวงศ์ มาตั้งแต่ปลายแล้ว สาเหตุจากไลฟ์สไตล์และทัศนคติต่างกัน ยืนยันฝ่ายชายเป็นคนดี แต่ความรักและความดีไม่ใช่ทั้งหมดในการคบหากัน 


ล่าสุดได้เจอ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา ที่โรงแรมเซนทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ได้มาร่วมงานแถลงข่าว “ปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘” โดยเจ้าตัวเผยเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่า
“ปีใหม่ไปเคาน์ดาวน์ที่เกาหลีมาค่ะ ไปกับพี่ผู้จัดการส่วนตัว จริงๆ ก็ไปบ่อยอยู่แล้ว ไปเกือบทุกฤดูกาลเลย พี่หนามบวชค่ะ แต่ตอนนี้สึกแล้ว อันนี้เป็นแบบเคร่ง บวชที่วัดป่า ซึ่งจุ๋ยก็ติดธุระไปไม่ได้ รวมถึงถ่ายละครด้วย แล้วปลายปีก็มีไปเที่ยวด้วยค่ะ ถามว่าห่างไหม ก็ห่างกันค่ะ สักพักหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เราห่างกันด้วยดีนะ เราห่างกันด้วยความเข้าใจ เรายังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ยังคุยกันอยู่ เมื่อวานเขาสึกมาจุ๋ยก็มีโอกาสโทรคุยกับพี่หนาม ซึ่งดีใจที่พี่หนามเขาได้ไปเรียนรู้ธรรมมะ ศึกษาธรรมะ เขามีความคิดที่ดีมากๆค่ะ”

“ที่เราห่างกันเราก็ได้ไปทบทวน ได้ใช้เวลาทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แต่อนาคตมันเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน อันนี้ต้องบอกว่าเราถอยออกมาด้วยความเข้าใจและยังเป็นคนที่คุยกันได้เสมอ ยังเจอกันได้ กินข้าวกันได้ อนาคตไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เหมือนห่างมาเพื่อเรียนรู้ตัวเอง ได้ทำความเข้าใจกับตัวเอง ซึ่งพี่หนามเองก็เข้าใจค่ะ”

“ให้โอกาสตัวเองเสมอในทุกๆ วินาทีที่จะได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าไม่เหมือนเดิมเราก็ไม่ห่วงว่าอนาคตจะเป็นยังไง คือเป็นความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุ มันมีหลายสาเหตุเป็นเรื่องของคนสองคนซึ่งพี่หนามกับจุ๋ยจะรู้ดีที่สุดว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันบ้าง ในส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นเรื่องของเวลาและไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่บางทีอาจจะจูนกันไม่สนิทมาก เพราะเนื่องจากว่างานเยอะกันทั้งคู่ พี่หนามเป็นคนที่ถ้าได้ทำงานก็พันเปอร์เซ็นต์ และเขาเป็นคนเก่งมากๆ ซึ่งเราลองปรับกันมาสักพักแล้ว มันรู้สึกว่ายังไม่ใช่”

“เรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอน อันนี้เป็นความเข้าใจได้ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ยังคุยกันได้เหมือนเดิม ไม่ได้ห่างกันไปแบบแตกหัก ไม่คุยกันหรือว่าโกรธกันเพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องของบุคคลที่สามแน่นอนค่ะ”

“ถามว่าเสียใจไหม มันเป็นความรู้สึกโหวงๆ มากกว่า แต่ดีใจและปลื้มใจ จุ๋ยร้องไห้เยอะมากที่เห็นพี่หนามในผ้าเหลืองมากกว่าคือมีคนส่งรูปมาให้ มันเป็นวัดที่ต่างจังหวัด เป็นวัดป่าเคร่งๆ ห้ามใช้มือถือ รู้สึกปลื้มใจ เขามีแนวคิดดีๆ และรักเมืองไทยมากขึ้น เนื่องจากว่าพี่หนามเขาไปอยู่ต่างประเทศมานานมาก เขาได้ไปบวชและได้ซึมซับอะไรในความเป็นไทย และเขาอินกับความเป็นไทย เมื่อวานเขามาพูดแล้วให้ฟังแล้วจุ๋ยก็รู้สึกดีใจ”

“ถามว่าเหงาไหม คืองานเยอะจนไม่เหงา แต่มันไม่ได้มีส่วนเติมเต็มในเรื่องของความรักหนุ่มสาว แต่จะเป็นเรื่องงานมากกว่า ตอนนี้เรียกว่าห่างกันค่ะ อนาคตจุ๋ยไม่แน่ใจเลยว่าชีวิตจะเป็นยังไง ก็คุยกับพี่หนามแล้วว่าไม่ห่วงอนาคต จะเป็นยังไงก็ปล่อยให้มันเป็นไป ตอนนี้เรามีความสุข เราโชคดีที่ได้เจอกัน เราเจอกันแล้วมีแต่เรื่องดีๆ ห่างกันก็ไม่ได้ใช้คำว่าแฟนหรือคบศึกษากันจริงจังเหมือนเดิมแล้ว แต่จุ๋ยตอบไม่ได้จริงๆ ในเรื่องของอนาคต ถ้าเราสามารถแก้ไขในสิ่งที่เราขาดตกบกพร่องระหว่างที่เราคบกันไปได้ก็อาจจะ มีแนวโน้ม”

“พี่หนามเป็นคนดีมากๆ เลยนะ แต่ว่าความรักและความดีมันไม่ ใช่ทั้งหมดในการคบกัน มันต้องมีเรื่องราวอื่นๆ มาเติมเต็มด้วย ดังนั้นถ้าระยะเวลาที่เราถอยออกมา และหาจุดให้กันได้มันก็อาจจะมีโอกาส แต่ถ้าไม่ได้ก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เพราะพี่หนามเป็นบุคคลที่เข้ามาในชีวิตจุ๋ยแล้วมีค่าและเป็นคนดีค่ะ”

ห่างกันมากี่เดือนแล้ว?
“ก็ห่างกันตั้งแต่ปลายปี แรกๆ พี่หนามก็มีลองพูดลองคุย ลองทำในสิ่งที่มันขาดหายไป แต่ว่าพอได้ไปบวชก็ได้เข้าใจในชีวิตมากขึ้น คือก่อนหน้านี้จุ๋ยจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตค่อนข้างที่จะเอาหลักธรรมะมาใช้ เราก็บอกพี่หนาม แต่พอเขาไปบวชเขาก็เข้าใจในชีวิตมากขึ้น ซึ่งมันก็ดีค่ะ”

“เรื่องที่เราห่างกันไม่ได้มาจากพุฒเลย ไม่เกี่ยวมือที่สาม คนที่บอกขอห่างกันก็เป็นจุ๋ยเอง แต่ว่าพี่หนามเขาก็เริ่มรู้สึกเหมือนกัน เป็นจุ๋ยเองที่เริ่มพูดและเริ่มมาคุยกัน ขอยังไม่ใช้คำว่าเลิก ก็เอาเป็นว่าห่างกันมาสักพักแล้วค่ะ(หัวเราะ) อนาคตไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts