วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

กีฟ เมินคนมองจุ้นเรื่องน้อง ลั่นน้องใครใครก็รัก เผย พอร์ช ยังเงียบไร้วี่แววมาคุย

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กีฟ อรลีฬห์ ออกโรงปกป้องน้องสาว เกรซ โดยการแฉ พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ว่าเจ้าตัวนิสัยไม่ดีจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนกลายเป็นประเด็นที่นานพอสมควรแต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะจบยังไง แถมยังมีข่าวลือว่า บูม ปิยพันธ์ ขำกฤษ ก็แอนตี้หนุ่ม พอร์ช ตามสาว กีฟ ไปอีกด้วย


มาตอนนี้เวลาก็ผ่านมาได้พักใหญ่ๆ แล้วไม่รู้ว่าเรื่องราวจบลงด้วยดีหรือยัง พอได้เจอ กีฟ อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์ ในงานฉลองเปิดสาขาที่ 5 ของ “ออเธนทิค คลินิก”  สาขารังสิต พหลโยธิน 74 เจ้าตัวก็บอกว่า

”หลังจากที่พี่ๆ สัมภาษณ์พอร์ชไปก็ไม่เห็นมีการติดต่อกลับมาเลยค่ะ หายเงียบ ไม่ได้มีการติดต่อขอโทษค่ะ ส่วนที่บอกว่ากลุ่มเพื่อนเขาแบนเราถ้าเป็นพี่ๆ ที่เป็นนักแสดงกิ๊ฟว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นเพื่อนๆ ที่อยู่นอกวงการมากกว่า มีคนเดียว ที่บอกว่ามีพี่มาเป็นกาวใจให้ก็ไม่มีนะ พี่เขาก็คงรู้แหละว่าเป็นเรื่องของเพื่อน 2 คนทะเลาะกัน ส่วนบูมที่พี่บอกว่าเขาไม่คุยกับพอร์ชหนูว่าเขาก็คุยกันปกตินะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคน 2 คนที่ทะเลาะกันไม่ได้เกี่ยวกับคนรอบตัวที่เขาสนิทกัน หนูว่าทุกคนก็คงหวังแหละว่าอยากให้กลับมาดีกันได้”

”เพื่อนๆ ก็ไม่ได้แบ่งฝักแบ่งฝ่ายอะไรกันนะคะ เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม คือพอร์ชเขาไม่ได้อยู่แก๊งบ้านหนูนะ แก๊งหนูมีแค่ 10 กว่าคน แต่เขาสนิทกับหนูเพราะเราเล่นละครด้วยกันค่ะ เพื่อนๆ ในแก๊งเขาอาจจะไม่รู้เพราะเขาไม่ค่อยตามข่าว อีกอย่างหนูก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้ด้วย ไม่อยากจะเอาเรื่องที่ทะเลาะกันไปทำให้คนอื่นลำบากใจ ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เรียกคุยอะไร หนูคิดว่าเขาคงเข้าใจแหละค่ะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคน 2 คน”

”ตอนนี้พอร์ชกับน้องหนูก็ยังคุยกันอยู่นะคะ แต่น้องเขาไม่ได้มาปรึกษาหนูเรื่องนี้ เขาอาจคิดว่าถ้ามาปรึกษาคงโดนเซ็ทใหญ่เขาเลยไปเรียนรู้ของเขาเอง ตอนนี้ 2 คนนั้นอยู่ในสถานะอะไรหนุไม่ทราบหนูรู้แต่เมื่อก่อนเขาสนิทกันและชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่หลังจากสัมภาษณ์เรื่องนี้ไปก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเขาทั้ง 2 คนเลย น้องก็ยังคุยปกติแต่จะคุยเรื่องอื่นมากกว่า เขาไม่ได้เอาเรื่องนี้มาคุยค่ะ”

 เราหวงน้องใช่ไหม?
”ขอบคุณที่ถามค่ะ ทุกคนชอบพูดว่ามันเป็นเรื่องของเขา 2 คนเราไปยุ่งทำไม หนูอยากจะพูดว่านี่คือน้องสายเลือดแท้ๆ ของหนูนะ ไม่ใช่เด็กข้างบ้านที่ใครมาทำอะไรก็ปล่อยเขาไป เราเป็นพี่เราก็ต้องเตือนน้อง หนูเตือนในสิ่งที่หนูเตือนได้หนูไม่ได้สั่งห้ามเขาไม่ให้คุยกัน”

”ก็มีแฟนๆ เขามาถามเหมือนกันว่าทำไมหนูถึงพูดแบบนี้ ทำไมเขาให้เขาเสียชื่อ สิ่งแรกที่หนูพูดคือเขานิสัยไม่ดีแต่หนูไม่ได้บอกว่านิสัยไม่ดียังไง จะเสียชื่อได้ยังไงหนูไม่ได้บอกว่าเขาติดการพนันหรือเล่นยา ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาคุยจะพิมพ์แบบ เขาจะคิดต่อเติมไปเองว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เลยทั้งที่ความจริงอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ตาม ทุกวันนี้ก็ยังมีคนคิดว่าทำไมเราเป็นพี่จะต้องไปยุ่งเรื่องของน้อง ต้องบอกว่าถ้าคุณมีพี่หรือน้องสาว หรือพ่อแม่ก็ได้ ถ้ามีคนนิสัยไม่ดีมาทำกับพวกเขาคุณจะยอมไหม หรือเห็นว่าหน้าตาหล่อเลยยอมให้ทำ หนูเชื่อว่าไม่มีใครยอมอยู่แล้ว เราต้องออกมาปกป้องครอบครัว”

”หนูว่าตลอดระยะเวลาการทำอาชีพนักแสดงหนูค่อนข้างมีเพื่อนน้อยเพราะหนูเลือกคนที่หนูคุยและโอเค คุยแล้วรู้สึกดี พอร์ช ก็เป็น 1 ในนั้น คือกับเพื่อนเขาดีมากเลยนะ ทุกคนไม่ได้ดี 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้วแต่อยู่ที่ว่าคนเลือกเอานิสัยไม่ดีตรงนั้นไปใช้ที่ไหน ถ้าคุณจะไปใช้ที่อื่น ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทเราก็ต้องเตือนเขาว่าเรื่องนี้ไม่ดีนะ ฟังหรือไม่ฟังเป็นเรื่องของเขาแต่เราเป็นเพื่อนเราเตือนเพราะหวังดี มันสมควรแล้วเหรอ”

”กับกระแสต่อต้านสำหรับก็สนุกดีค่ะ หนูไม่ค่อยซีเรียสเรื่องพวกนี้ คือแฟนคลับที่เข้ามาสัมผัสหนูจะรู้ว่าหนูเป็นคนค่อนข้างเทคแคร์นะ ส่วนแฟนคลับที่เขามาปกป้องอีกฝ่ายถ้าจะมาต่อว่าอะไรก็มาสิหนูก็แค่ตอบกลับ เรามีมือพิมพ์เหมือนกัน ซึ่งการต่อว่าของเขาพอหนูพิมพ์ไปสักพักเขาก็ตอบโต้ไม่ได้ พอตอบโต้ไม่ได้สักพักก็มาลบเม้นท์แล้วไปหาข่าวมารุมในอินสตาแกรมตัวเอง คือทำทำไม ไม่ได้อยากให้แท็กมานะ 

ทำไมถึงไม่บล็อกไปเลย? 
คือนิสัยหนูไม่ใช่อย่างนั้นไงพี่ จะมาก็มา หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมคน ถ้าหนูไม่ผิดแล้วมาว่าหนูตัวหนูก็ไม่ยอม”

”ถามว่ามีคนเข้ามาว่าเยอะไหมก็ไม่ถึง 10 คนค่ะ เป็นกลุ่มๆ ของเขาแหละ คือมีคนที่เข้าใจนะ เขามองทุกอย่างด้วยความจริง นี่เป็นนักแสดงที่ชอบเพราะชอบผลงานของเขาแต่ไม่ได้รู้จักนิสัยส่วนตัวของเขา เขาจะเขียนประมาณให้กำลังใจทั้งคู่ ยังไงเป็นเพื่อนกันก็กลับมาคุยกันอะไรแบบนี้ แล้วก็จะมีกลุ่มที่เหมือนหลับหูหลับตารักแบบไม่สนใจว่าจะผิดหรือถูก เขาทำผิดก็ยังสนับสนุนให้เขาทำ”

”ตอนนี้ยอมรับว่าใจเย็นลงมาก แต่คงไม่หันไปคุยเพราะหนูโตกว่าเขา เขาควรจะเข้ามาคุยไม่ใช่หนูต้องเข้าไปคุยกับเขา ก็ไม่อยากจะพูดอะไรเพิ่มเติมให้เขารู้สึกว่าหนูจะไปทำร้าย หนูแค่อยากจะบอกว่าเขาทำไม่ดี ถ้ารู้ตัวก็แก้ไขสิ แค่นี้ก็จบแล้ว กับน้องก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเพราะหนูเตือนเขาก็จริงแต่เขามีสิทธิ์ที่จะเลือก มันเป็นชีวิตเขา ส่วนเรื่องของเขาทั้งคู่จะเป้นยังไงอันนี้หนูไม่รู้ ต่อไปเขาอาจจะปรับตัวก็ได้ มันเป็นเรื่องอนาคต ตอนนี้ก็เห็นเขาไปๆ มาๆ กัน 2 ครั้งแล้วค่ะ ครั้งที่ 3 หนูคงไม่แล้วแต่น้องอาจจะมี 4-5 ก็ได้ เขาอาจจะเห็นด้านดีบางอย่างในรุ่นใกล้ๆ กันซึ่งหนูไม่เห็น หนูไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ตอนนี้เขาเป็นแบบไหน ถ้ามันพัฒนาไปเกินกว่าเพื่อนสนิทแล้วเลิกคุยกันไปเพราะมีบางอย่างไม่เข้ากันอันนี้หนูยังพอรับได้แต่ไม่ใช่ทำไม่ดีใส่”

”ถามว่าจะกลับมาคุยกันได้ไหมอันนี้จำได้ว่ามีพี่เคยถามไปแล้วซึ่งทุกคนก็กำลังรอดูอยู่ว่าเขาจะทำอะไรแต่เขาก็ไม่ทำ ตอนนี้มันนานมากแล้วแต่ไม่เห็นเขาทำอะไร หนูว่าถ้าพี่มีเพื่อนที่พี่รักแล้วเขาทำผิด ถ้าเขาจริงใจกับพี่เขาต้องมาขอโทษถูกไหม แต่นี่เงียบหายไปเลย แต่ถ้าเขาจะคุยเราก็ยินดีคุยว่าทำไมเขาทำแบบนั้น ถ้ามีเหตุผลก็คุยนะ หนูไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลที่พอเกลียดแล้วเกลียดเลยไม่คุย”

”กับคุณพ่อคุณแม่ตอนนี้หนูรู้สึกว่าหนูจัดการกับเรื่องนี้ในระดับหนึ่งก่อน ถ้าดูแล้วมีวี่แววที่จะไปในทิศทางที่ไม่ดีก็น่าจะบอกพ่อ ต้องให้พ่อมาจัดการค่ะ ส่วนแม่เขาหัวโบราณเขาจะรู้สึกว่านักแสดงผู้ชายทุกคนจะเจ้าชู้ไม่จริงใจกับใคร ซึ่งเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นทุกคนแต่แม่เขาอายุเยอะแล้วเขาก็จะคิดว่ามันต้องเป็นทุกคน เขาจะบอกว่าไม่เอาอยู่อย่างเดียว”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts