วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จ๊ะจ๋า ยันไม่ได้เป็นมือที่สาม จิ๊บ-หนิม ลั่นใช้ชีวิตถูกต้องตามศีล

หลังจากที่ดาราสาว จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม ตกเป็นข่าวเป็นชนวนเหตุให้ นักร้อง นักแสดงรุ่นใหญ่ จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว กับสาว หนิม-คะนึงพิมพ์ พรมกร ต้องแยกทางกัน  ล่าสุด จ๊ะจ๋าเปิดปากย้ำชัดไม่เคยก้าวล่วงความสัมพันธ์”จิ๊บ-หนิม” แน่นอน


ล่าสุดนักแสดงสาว จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม มาร่วมกิจกรรม Open Your World ชั้น6 โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เจ้าตัวก็เลยถือโอกาสชี้แจงถึงประเด็นข่าวฉาวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแบบละเอียดยิบให้ฟังว่า

“อันนี้บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากนิสัยจ๊ะจ๋าเองที่เป็นคนสนุกสนานร่าเริงและมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับพี่จิ๊บ ในงานคอนเสิร์ตไทยประกันชีวิต ต้องไปทัวร์กันทั่วประเทศถึงสิ้นปี จากวันแรกๆที่เคยเจอพี่เขาเมื่อหลายปีก่อน แล้วช่วงที่สนิทสนมคุ้นเคยก็เป็นช่วงนี้แหละค่ะที่มีโอกาสเดินทางด้วยกัน อย่างทีบอกด้วยนิสัยจ๊ะจ๋าเป็นคนเฟรนด์ลี่และพี่ๆในวงก็ให้ความเอ็นดู ให้ความรักดูแลเอาใจใส่เพราะผู้หญิงในทริปมีคนเดียว เลยเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสนิทสนมกัน”

ด้วยสาเหตุนี้หรือเปล่าเลยทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเราเป็นมือที่สาม?
“จ๊ะจ๋าไม่สามารถตอบแทนใครได้ แต่ที่ตอบได้คือว่าจ๊ะจ๋าไม่ได้มีความคิดที่จะก้าวข้ามไปในความสัมพันธ์ของใคร ไม่ว่าจะเป็นเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม จ๊ะจ๋าเชื่อว่าเวลาเราทำงาน เราก็มุ่งมั่นกับการทำงานและเต็มที่ จ๊ะจ๋ามีความสุขมากๆที่จะทำให้คนรอบข้างมีความสุขโดยที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องเข้าไปในความสัมพันธ์ของใคร”

เป็นเพราะในทริปเราสนิทกับ “พี่จิ๊บ” มากที่สุดคนก็เลยจับตามอง?
“จะบอกว่าจริงๆแล้วสนิทกับคนอื่นมากกว่าอีกค่ะ จะมีคนที่มาตลอดแต่สำหรับพี่จิ๊บบางครั้งก็ไม่ได้มาบ้าง อยากจะบอกว่าท่านอื่นให้ความเอ็นดู ฝากของพูดคุยสนิทสนมมากกว่าพี่จิ๊บก็มี เพียงแต่ว่าไม่ได้เป็นประเด็นเท่านั้นเองค่ะ”

เราสนิทสนมกับ “พี่จิ๊บ” ขั้นไหน?
“เป็นขั้นเพื่อนร่วมงาน พี่น้องธรรมดาทั่วไป อย่างเราเล่นละคร พอได้เล่นละครกับใครบ่อยๆช่วงนึงก็จะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน พอวันที่ละครเรื่องนั้นจบเราก็ต้องไปเจอคนใหม่ๆ คือก็เป็นการสนิทสนมจากการทำงาน”

มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ “หนิม” เข้าใจผิด?
“จ๊ะจ๋าไม่ทราบว่าทำไมเขาถึงเข้าใจผิดอะไรขนาดนี้”

มีคุยกันนอกรอบไหม?
“ไม่มีค่ะ”

เห็นบอกว่า “หนิม” โทรมาหาเรา?
“อันนี้จ๊ะจ๋าขอไม่พาดพิงถึงน้องแล้วกันค่ะ จ๊ะจ๋าจำไม่ได้แล้วค่ะ”

เราได้อธิบายหรือเคลียร์กับใครบ้างหรือเปล่า?
“เรื่องที่อธิบาย อันดับแรกคือพูดกับครอบครัวก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่เกินจริงไปมาก จริงๆคนใกล้ชิดจ๊ะจ๋าก็รู้อยู่แล้ว ทุกคนก็สงสัยว่ามันเกิดเรื่องนี้ได้ยังไง เราก็อธิบายกับคนใกล้ตัวที่รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยและแคร์ก่อนอันดับแรก ส่วนคนอื่นที่ทยอยโทรมาเคลียร์หรือสอบถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยก็ได้ชี้แจงกันไป”

“พี่จิ๊บ” ได้โทรมาเคลียร์อะไรกับเราบ้าง?
“หลังจากที่เป็นข่าว จ๊ะจ๋ายอมรับว่ามีการโทรมา บอกได้เลยว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ที่โทรมาเป็นการขอโทษ เพราะเขาเองบอกว่าจ๊ะจ๋าไม่ควรจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วก็แสดงความเสียใจ ซึ่งจริงๆจ๊ะจ๋าเองรู้สึกขอบคุณและดีใจที่พี่เขาโตกว่าเรามาก จ๊ะจ๋าก็เป็นเด็กที่เพิ่งเข้าวงการมาเอง ไม่จำเป็นต้องขอโทษก็ได้ จ๊ะจ๋าเกรงใจ แต่พี่เขาบอกว่าไม่เป็นไร เรื่องนี้ถ้าเขาทำให้จ๊ะจ๋าไม่สบายหรือว่าทำให้จ๊ะจ๋ามีข่าวที่เสียหายกับชีวิตหรือรบกวนการทำงาน เขาขอโทษ”

“พี่จิ๊บ” ได้เล่าเรื่อง “หนิม” ให้กับเราหรือทีมงานฟังบ้างไหม เพราะอีกฝ่ายก็ซีเรียสว่าฝ่ายชายเอาเรื่องเขามาเล่าให้คนอื่นฟังให้ทางที่ไม่ดี?
“ส่วนตัวเวลาเราพูดคุยกันหลังจากเลิกงานก็จะเป็นการพูดคุยกันโดยรวมเป็นกลุ่ม การพูดถึงเรื่องราวต่างๆในชีวิต มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วในวงสนทนา การที่จะพูดในเชิงดีหรือไม่ดี ส่วนตัวที่จ๊ะจ๋าได้รับทราบหรือพูดคุยก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น และก็เป็นเรื่องที่เป็นความจริง”

ตอนนี้เราโดนตราหน้าว่าเป็นมือที่สาม โกรธไหม?
“ไม่โกรธเลยค่ะ ตอนแรกยอมรับว่าซีเรียสเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงและเป็นเรื่องที่เกินจริง เพราะมันผิดหลักการการใช้ชีวิตของจ๊ะจ๋ามากเลย จ๊ะจ๋าเองแม้จะโสดแต่ก็ไม่คิดที่จะเข้าไปแย่งของของใคร ไม่คิดที่จะก้าวเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของใคร”

ก็เลยถูกโยงไปถึงข่าวก่อนหน้านี้ระหว่าง “ติ๊งโน้ต” กับ “บุ๋ม-ปนัดดา”?
“เสน่ห์แรงก็อย่างนี้แหละ (หัวเราะ)”

เวลาร่วมงานกันเราต้องวางตัวแบบไหน?
“จ๊ะจ๋าเองบอกได้เลยว่ามาตรฐานในการทำงานของจ๊ะจ๋ายังเหมือนเดิม ร่าเริง สนุกสนานยังไงก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ส่วนการที่เจอหน้าพี่เขาต้องทำตัวยังไง ก็มันไม่มีอะไรก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปจากเดิม”

สามารถร่วมงานกับ “หนิม” ได้ไหม?
“ได้ค่ะ จ๊ะจ๋าอยากบอกว่าไม่มีปัญหา กับสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องของอารมณ์ต่างๆจากฝ่ายน้องหรือฝ่ายใครก็ตาม บอกได้เลยว่าจ๊ะจ๋าไม่คิดที่จะถือโทษโกรธเลย ในความที่จ๊ะจ๋าเป็นพี่ที่โตกว่าบางทีเราเจอเรื่องที่หนักกว่านี้ตั้งเยอะแยะ ที่บ้านสอนตลอดว่าเราควรให้อภัยอะไรที่มันเกิดจากอารมณ์”

ณ ตอนนี้เคลียร์ลงตัวหรือยัง?
“ลงตัวไม่ลงตัวไม่ทราบ แต่รู้ว่าจ๊ะจ๋าสามารถจะชี้แจงข้อเท็จจริงในสิ่งที่พูดได้ว่าจ๊ะจ๋าเป็นยังไง”

เคลียร์กับ “หนิม” จบลงด้วยดี?
“จ๊ะจ๋าไม่ได้มีการเคลียร์หรือจบอะไรด้วยดี แต่ว่าจ๊ะจ๋าชัดเจนว่าไม่ได้มีความต้องการที่จะก้าวเข้าไปในความสัมพันธ์ของใคร”

มีโอกาสจะเคลียร์หรือพูดคุยกันไหม?
“ถ้าเกิดว่าเราเจอกันในงานก็สามารถทำงานร่วมกันได้ จ๊ะจ๋ามืออาชีพพอที่จะทำงานร่วมกับใครก็ได้ในวงการนี้”

อยากนัดเคลียร์เลยไหม?
“อย่างที่บอกค่ะมันเป็นเรื่องเล็กน้อย”

อีกฝ่ายดูมั่นใจว่าเราเป็นมือที่ 3?
“จ๊ะจ๋าขออนุญาตตอบว่าเรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน จ๊ะจ๋าเป็นคนนอกไม่ว่าความเข้าใจของคนสองคนจะเกิดจากอะไร จะมีผลกระทบออกไปสู่ใครก็ตามในฐานะที่เราเป็นคนนอกจะไม่ขอออกความเห็นใดๆกับเรื่องของสองคนเด็ดขาด”

ทางด้าน “ปุยฝ้าย” เพื่อนสนิทของ “หนิม” ก็เดือดถึงขั้นโพสต์ไอจีระบุชื่อเราเลยว่า “พี่จิ๊บ”พูดอะไรกับเรา?
“ใครๆก็พูดชื่อจ๊ะจ๋าได้ อย่างที่บอกจ๊ะจ๋าไม่โกรธและไม่ได้เก็บมาเป็นอารมณ์ ถ้าเก็บมาคิดเราก็คงแย่แน่ๆ มันมีผลกระทบนะคะเวลาเราทำงานเพราะจ๊ะจ๋าเวลาทำงานใช้ใจ จริงใจมาก แล้วต้องไปแคร์กับเสียงอะไรก็ไม่รู้มันก็ปวดหัว จ๊ะจ๋า ถือคติว่าอะไรที่ให้อภัยได้ ยกโทษกันได้ก็ให้อภัยกันไป วงการนี้มันแคบ เดี๋ยวเราก็ต้องมาเจอกันอีก จ๊ะจ๋าว่าเราเข้ามาวงการนี้เราเข้ามาเพื่ออะไร เราเข้ามาเพื่อทำงานเป็นนักแสดงมอบความสุขให้กับประชาชน จ๊ะจ๋าเป็นพิธีกรด้วย ร้องเพลงด้วย ทำหลายๆอย่าง การโคจรมาเจอกันเป็นเรื่องที่มีแน่ๆ ส่วนอยากจะข่าวหรืออะไรก็ปล่อยให้เป็นไป จ๊ะจ๋าไม่ขออยู่ในข่าวเสียหายแบบนี้อีก”

อยากวอนให้เขาหยุดโยงไหม?
“บางทีห้ามใจตัวเองยังลำบาก จะไปห้ามคนอื่นได้ยังไง จ๊ะจ๋าว่าสิ่งที่เราทำได้คือปรับสติ ควบคุมตัวของเราเอง ปัญหาอะไรที่เราจัดการด้วยอารมณ์ผมกระทบมันก็จะเป็นด้วยอารมณ์ ถ้าเราจัดการด้วยเหตุและผลทุกอย่างก็จะอยู่ในเหตุและผล”

ผู้ใหญ่เรียกไปคุยหรือเปล่า?
“เชื่อไหมว่าไม่มีเลย ถ้าเทียบก็คือข่าวทั่วไป มันเล็กน้อยมากจริงๆและในข่าวที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใครจ๊ะจ๋าสามารถอธิบายได้ด้วยความเป็นจริงจากความจริงใจที่จ๊ะจ๋าเคยตอบคำถามพี่ๆมาตลอด 10ปีที่อยู่ในวงการนี้”

ปัญหาเกิดจากความขี้เล่น เสน่ห์แรง เราจะลดลงมาหน่อยไหม?
“ตัวของจ๊ะจ๋ารู้ตัวว่าเป็นคนยังไง สิ่งที่จ๊ะจ๋ามีมันส่งผลดีและผลเสียยังไง ถ้าจะลดความขี้เล่น ความสนุกสนาน ร่าเริงจากสถานการณ์นี้ จ๊ะจ๋าคิดว่ามันไม่ค่อยเมคเซ้นส์ ถ้าจะลดอาจจะเป็นด้วยวัยที่โตขึ้นแล้วหรือเหนื่อยแล้วก็ลดลงไปเอง จากเรื่องนี้ ข่าวนี้จ๊ะจ๋าจะไม่ยอให้มีผลต่อการทำงานหรือความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานของจ๊ะจ๋าเด็ดขาด”

ที่เขาบอกว่าเราอายุ 30 ปีแล้ว อยากจะหาคู่แต่งงานแล้ว อันนี้จริงหรือเปล่า?
"โอ้โห…เจ็บปวดมาก ชี้แจงตรงนี้เลยนะคะ เรื่องของคนสองคน ชีวิตคู่อย่าเอาอายุมาเป็นอิทธิพลเลย ส่วนตัวจ๊ะจ๋าเอง 30 แล้วไง" 

เขาบอกว่าเพราะสาเหตุนี้ด้วย เราอยากแต่งแล้ว? 
"นานาจิตตัง ใครอยากมองอะไรก็ปล่อยให้เขามองไป จ๊ะจ๋ารู้เองว่า ณ วันนี้ถ้าอยากแต่งงานกับใครสักคน ก็ต้องเป็นความต้องการของคนสองฝ่าย ไม่ใช่มโนขึ้นมาเคนเดียว จ๊ะจ๋าไม่ใช่คนที่อยากแต่งงานแล้วก็คว้าใครก็ได้มาแต่งงาน เพราะฉะนั้นจะแซว ล้อเล่น พูดถึงเรื่องอายุ ไม่มีผลค่ะ"

ยืนยันว่าไม่ใช่มือที่สามอย่างแน่นอน?
“ยืนยันค่ะ สำหรับจ๊ะจ๋าเองบอกตรงนี้เลยว่าเราอยู่วงการนี้มานาน เห็นความเป็นไปของข่าว เข้าใจว่าการมีข่าว มีกระแส เล่นเรื่องความสัมพันธ์แบบนี้มันน่าสนใจ ขออนุญาตไม่อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ เอาไว้จ๊ะจ๋ามีแฟนหรือมีคนคุยอยู่แล้วจะบอก ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่ได้มีใคร ยังโสด ที่เคยประกาศหาคู่ไปก็อย่าเพิ่งเข้ามานะคะ ยังไม่พร้อมรับใครตอนนี้ ขออยู่นิ่งๆก่อน”

เสียใจไหมที่เราเป็นสาเหตุทำให้คู่นี้เลิกกัน?
“จ๊ะจ๋าไม่ทราบว่าความสัมพันธ์เขาเป็นยังไง ขอไม่ออกความเห็นนะคะ แต่ว่าพูดถึงความเสียใจ จ๊ะจ๋าเสียใจที่ทำให้คุณแม่ ครอบครัว น้องสาว คิดมากๆกว่า ก็อยากขอโทษครอบครัว คุณแม่ น้องจุ๊บแจง ญาติทั้งหมดที่ทำให้เป็นห่วง นอนไม่หลับ จ๊ะจ๋ายังแข็งแรง มีสติ หลักการใช้ชีวิตที่ถูกต้องตามศีลทุกประการ”

เรามีโอกาสได้คุยไลน์กับ “พี่จิ๊บ” ไหม?
“อยากจะให้พี่ลองถามพี่จิ๊บดูว่ามีไลน์ไหม ขอฝากคำถามเดียวเท่านั้นเอง และยืนยันว่าไม่มีรับส่งค่ะ”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts