วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

แม่'ไฮโซน้ำหวานกลัวลูกเครียด สั่งงดรับรู้ข่าวสาร

 แม่ไฮโซน้ำหวาน หวั่นลูกเครียดออกคำสั่งไม่ให้ลูกสาวรับรู้ข่าวสารใดๆ ทั้งสิ้น เผยยังมีอาการฟกช้ำเนื่องจากถูกของแข็งกระแทก และไซนัสกำเริบจนลูกสาวหายใจไม่ออก ตั้งข้อสังเกตุทำไมคู่กรณีถึงไม่ไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเหตุ แฉ จิน-จรินทร์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ไม่สมควรพูดกล่าวหากใดๆ ลั่นหลักฐานในภาพวงจรปิดของร้านอาหารอยู่ที่ทนายและตำรวจเรียบร้อยแล้ว ยันไม่ยอมความแน่นอน


เป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ และเป็นที่จับตามองอย่างมากกับกรณีของ ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น ได้ส่งทนายเข้าแจ้งความว่าถูก แนน ชุมพิชา พัฒนาหิรัญ น้องของดาราสาวชื่อดัง หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ใช้โทรศัพท์มือถือตบหน้า โดยยืนยันว่า ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้น แนน-ชุมพิชา ก็ได้เข้าแจ้งความกลับ ไฮโซน้ำหวาน ข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายทันที พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่ ไฮโซน้ำหวาน พูดไม่เป็นความจริงอีกด้วยนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปอัพเดตความคืบหน้าเรื่องอาการบาดเจ็บของไฮโซสาว น้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น จาก คุณแม่อำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น ซึ่ง คุณแม่อำไพพรรณ ก็ได้อัพเดตอาการเจ็บของลูกสาวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า
''เรื่องแผลตอนนี้ก็ทายาอยู่ค่ะ ยังคงเป็นรอยช้ำเป็นจ้ำๆ อยู่ ก็ต้องพยายามทายา แต่เมื่อคืนน้ำหวานหายใจไม่ค่อยออก คือต้องบอกก่อนว่าตัวน้องน้ำหวานเค้ามีอาการเป็นโรคไซนัส เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้วด้วย แล้วคุณหมอมาตรวจอาการก็พบว่าเหมือนอาการไซนัสกำเริบ เรื่องจากไปกระแทกโดนของแข็งจนอักเสบขึ้นมา ตอนนี้คุณหมอก็จะดูแลเรื่องอาการไซนัสที่กำเริบขึ้นมามากกว่าค่ะ แล้วก็จะมีตรงตาที่ยังช้ำอยู่ และข้างในตาน้องน้ำหวานก็ยังมองเห็นเป็นฝ้าๆ เป็นภาพซ้อนอยู่บ้าง เราก็รักษาไปตามอาการ ก็ทายา รักษาตามปกติ ตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ''

คุณแม่ยังกังวลในเรื่องอาการบาดเจ็บของลูกสาวตรงไหนอีกหรือเปล่า?
''ไม่กังวลอะไรเลยค่ะ คือคุณแม่เองก็ได้คุยกับหมอ คุยกับเพื่อนๆ ที่เป็นหมอบ้างแล้วนะคะ อย่างเรื่องอาการที่ตาที่จะเห็นเป็นภาพซ้อนอยู่แล้ว เพราะโดนกระแทก ก็จะต้องใช้ระยะเวลาการฟื้นตัวเอง แต่ในระยะยาวอาจจะมีเอฟเฟกต์จากอาการตรงนี้ก็ได้นะคะ ถ้าคุณแม่จะห่วงก็คงจะห่วงน้ำหวานเพียงอย่างเดียวแหละค่ะ ห่วงความปลอดภัยว่า ใครจะมาทำร้ายลูกเราอีกหรือเปล่า ตอนนี้คุณแม่ก็ไม่ให้น้ำหวานไปไหน หรือเจอหน้าใคร หรือคุยโทรศัพท์ เล่นโทรศัพท์กับใครทั้งนั้นเรียกว่า ปิดหูปิดตาเค้าหมดเลย ไม่ให้ดูข่าว ไม่ให้ดูทีวีเลยค่ะ เพราะไม่อยากให้เค้ากังวล ไม่อยากให้เค้าต้องมารับรู้กับเหตุการณ์ที่มันไม่เป็นความจริง ซึ่งเค้าจะรับไม่ได้อย่างแน่นอน โทรทัศน์ก็ไม่ให้ดูเลยค่ะ ให้เค้าดูแต่ซีรีส์เกาหลี เปิดวิดีโอให้เค้าเท่านั้นเอง''

สภาพจิตใจของ น้ำหวาน ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
 ''อย่างที่คุณแม่บอกไปนะคะว่า เราไม่ให้น้องน้ำหวานเจอหน้ากับใครเลย ไม่ให้รับโทรศัพท์ใครเลย เค้าก็มีความสุขดีอยู่ ก็ยังไม่ได้กังวลเรื่องอะไร เค้าก็นอนดูซีรีส์, ดูหนังที่คุณแม่เปิดให้เค้าดูไปค่ะ''

นอกจากนั้น คุณแม่อำไพพรรณ ยังได้ตั้งข้อสังเกตกับผู้สื่อข่าวอีกด้วยว่า
''วันเกิดเหตุทำไมเค้าถึงไม่ไปแจ้งความทันทีล่ะค่ะว่าถูกชิงทรัพย์ ถ้าเค้าถูกทำร้ายทำไมเค้าไม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลล่ะค่ะ ทำไมเค้าถึงกลับบ้านไปเลย ทั้งๆ ที่ร้านอาหารกับ สน.ทองหล่อ อยู่ใกล้กันนิดเดียวเองนะคะ นี่คือข้อสังเกตที่คุณแม่ตั้งขึ้นมาเฉยๆ มันแย้งกับสิ่งที่เค้าพูดออกมา ซึ่งมันผิดวิสัยของคนที่โดนทำร้าย โดนแย่งชิงทรัพย์ ว่า ทำไมเค้าไม่แจ้งความ คือถ้าน้ำหวานไม่แจ้ง เค้าก็คงไม่แจ้งใช่ไหมค่ะ อีกอย่างคำพูดของคุณจินที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ คุณแม่บอกเลยนะคะว่า คุณจินไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เพราะฉะนั้นคุณจินจะพูดอย่างนั้นไม่ได้''

เห็นว่ามีหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารดังกล่าวใช่หรือไม่?
''มีค่ะ...ทุกอย่างอยู่ที่ทนายความและตำรวจหมดเรียบร้อยแล้วค่ะ เห็นหมดว่า ใครเดินอยู่ทางไหน ใครเข้ามาด้านไหนทำให้น้ำหวานเขว ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนตามกฎหมายทั้งหมด เราแจ้งความครั้งนี้เราไม่มีประเด็นเรื่องชู้สาวนะคะ เราแจ้งความในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ถูกประชาชนอีกคนหนึ่งทำร้ายร่างกาย เราไม่ได้เอาความเป็นไฮโซ หรือความเป็นดารามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหลักฐานทุกอย่างมีครบ คุณแม่ไม่กังวลอะไรแล้วค่ะ เพราะหากแจ้งความเท็จก็เป็นคดีเหมือนกันนะคะ ถามว่า ทางคู่กรณีมีติดต่อเจรจาไหม...ไม่เลยค่ะ ถึงติดต่อมาคุณแม่ก็ไม่คุย ไม่ยอมอยู่แล้ว ขอเจอที่ศาลอย่างเดียวเลยแล้วกันค่ะ''

ที่มา สยามดารา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts