วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สเตฟาน รับขายขนมจีบ ทับทิม

หลังจากเกิดกระแสข่าวว่า นางเอกสาววิกหมอชิต "ทับทิม-อัญรินทร์'' กำลังกิ๊กกับพระเอกหนุ่มวิกเดียวกัน ทำเอาบรรดานักข่าวและขาเม้าท์ต้องตามสืบกันยกใหญ่ว่าพระเอกหนุ่มคนนั้นเป็นใคร โดยนางเอกสาวตาโตยอมรับว่ามีพระเอกหนุ่มของช่องมาตามจีบจริง แต่ยังไม่ยอมปริปากบอกว่าเป็นใคร    

ขณะที่พระเอกคาสโนวา ''สเตฟาน'' เผยคุยไลน์ ''ทับทิม'' มานาน 3 เดือนแล้ว ยันสถานะยังไม่ใช้แฟน ส่วนข่าวเรื่องแม่ของนางเอกสาวดุเป็นเรื่องปกติ ขอใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แค่นำอาหารเมนูเด็ดฝีมือตัวเองไปส่งให้ไม่ได้เทียวรับเทียวส่งกองถ่าย

 

ซึ่งล่าสุดเป้าหมายกลับตกไปที่พระเอกหนุ่ม ''สเตฟาน-ฐสิษฐ์'' ที่แม้ว่าจะมีข่าวเป็นคาสโนวาอยู่บ่อยๆ แต่ช่วงนี้เจ้าตัวก็ยังโสดสนิท และเพิ่งร่วมงานกับสาวทับทิมไปหมาดๆ กับละครเรื่อง ''แสบสลับขั้ว'' งานนี้นักข่าวเลยบึ่งไปถาม สเตฟาน ถึงงาน ''บีบีเค แฟชั่น ช็อค'' ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่จัดขึ้นเมื่อวันก่อน ซึ่งหนุ่มสเตฟานก็ออกมายืดอกรับว่า พระเอกหนุ่มปริศนาคนที่ว่านั้นก็คือตัวเอง โดยหนุ่มสเตฟานยอมรับว่าขณะนี้กำลังตามจีบ นางเอกสาว ''ทับทิม'' อยู่จริง โดยเผยว่าได้ติดต่อพูดคุยกับนางเอกสาวผ่านทางช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ''ไลน์'' ได้มากว่า 3 เดือนแล้ว
    

    ''ครับตอนนี้ผมก็คุยกับน้องอยู่คนเดียวครับ (คุยกันมานานแค่ไหนแล้ว) เริ่มคุยกันตอน ''แสบสลับขั้ว'' ครับ ก็ประมาณ 3 เดือนครับ ถ้าจำไม่ผิดครับ''
    

    พัฒนามาได้ยังไง ผู้สื่อข่าวถาม สเตฟาน โดยพระเอกหนุ่มแจงถึงสาเหตุที่ตนเริ่มรู้สึกเกินเพื่อนกับนางเอกสาวก็ตอนที่ถ่ายละครเรื่องเดียวกัน และยิ่งพอได้คุยก็เริ่มรู้สึกว่านักแสดงสาวเป็นคนนิสัยดี
    


    ''ครับ ก็ผมก็เล่นละครกับน้องใช่ไหมครับ ตัวละครของผมก็ต้องมีฉากกับทับทิมเขาครับ ก็เลยเริ่มคุยกับเขา ก็เริ่มคุยจากไลน์ ก็คุยมาเรื่อยๆ ครับ (ประทับใจน้องตรงไหน) เขาเป็นคนน่ารักครับ พอได้เล่นละครกับเขาก็รู้สึกว่าเขาน่ารัก พอได้เริ่มคุยไปก็รู้ว่าเป็นคนที่มีนิสัยน่ารักมาก''
    

    เราเป็นคนเดินหน้าเข้าหาน้องใช่ไหม ผู้สื่อข่าวถามหนุ่มสเตฟาน ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับแต่โดยดีว่าเป็นคนเข้าไปรุกจีบนางเอกสาวก่อน โดยตลอดระยะเวลาที่เริ่มคุยกันมา ตนเองจะไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสาร แต่ใช่การพูดคุยผ่านไลน์เท่านั้น
    

    ''อ๋อ ใช่ครับ ผมก็เดินเข้าไปขอไลน์น้องเขา ทีแรกเขาก็ไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอเราเริ่มคุยกับเขาบ่อยๆ เขาก็เริ่มตกใจครับ (เขาโอเคไหม เปิดรับไหม) ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้เราก็คุยกันเหมือนพี่น้องครับ เพราะเราไม่ค่อยได้โทร.ไปหาเขา เราก็คุยทางไลน์เฉยๆ ครับ''
    

    หนุ่มสเตฟานยังได้ปฏิเสธข่าวที่หาว่าเขาไปรับไปส่งนางเอกสาวเป็นประจำ ว่าไม่ใช่เรื่องจริง มีแต่ก็เดินทางไปหาบ้างตามกองถ่าย เพราะว่าทำอาหารไปส่งให้ทาน
    

    ''ไม่ได้ไปรับไปส่งครับ ผมเอากับข้าวไปให้เขาครับ (น้องเขาบอกว่าพี่ฟานดูแลดี มีทำอาหารไปให้ที่กองด้วย) ตอนที่ถ่ายละครด้วยกัน ผมก็ทำอาหารไปที่กองอยู่แล้วครับ (สเน่ห์ปลายจวักด้วยหรือเปล่า) ไม่หรอกครับผมเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว''
    

    รู้สึกว่าทับทิมจะประทับใจกับเมนู ''ข้าวหน้าปลาไหล'' ผู้สื่อข่าวถามแบบเจาะลึก ซึ่งหนุ่มสเตฟานก็ค่อนข้างงงเล็กน้อยว่า ผู้สื่อข่าวรู้ได้ยังไง แต่ก็ยอมรับว่าตนได้ทำเมนูข้าวหน้าปลาไหลไปให้ทานจริง พร้อมกับเผยว่าปกติตนจะไม่ค่อยได้ทำอาหารให้ใครทาน
    

    ''อันนั้นอันแรกครับ รู้ได้ไงเนี่ย คือตอนที่ถ่ายละครเราไม่ได้ออกไปไหนครับ เห็นเขาอยากทาน ผมก็เลยทำอาหารมาให้ทานครับ (ปกติเราทำอาหารให้ใครทานไหม) ปกติผมจะไม่ค่อยทำอาหารให้ใครทาน นอกจากน้อง คุณพ่อคุณแม่ เพื่อนก็ไม่ค่อยได้ทาน''
    

    ต่อข้อถามที่ว่า จริงๆ คุณแม่น้องก็ค่อนข้างดุ สเตฟานตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ต้องหวงลูกสาว ซึ่งตนก็เข้าใจในจุดนี้ และกับข่าวที่เกิดขึ้นในอดีตของตัวเองก็คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
    

    ''ครับก็ปกติครับ เขาก็ต้องหวงลูกสาวเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหมครับ แล้วข่าวที่ออกมาทางผมก็ไม่ค่อยดี ก็เลยจะต้องใช้เวลา ผมก็อยากรู้จักเขาดีขึ้น และก็อยากให้น้องเขารู้จักผมดีขึ้น''
           

    มีถามเรื่องข่าวของเราบ้างไหม?
    

    ''ก็มีบ้างครับแต่ไม่เยอะ ถามอะไรมาผมก็บอกไป (เริ่มใหม่รู้สึกเร็วไปไหมเพราะว่าเรื่องเก่าก็เพิ่งจบไป) อย่างที่ผมบอกครับผมไม่ได้คุยกับใครเลย เวลามันไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเท่าไหร่เจอใครตอนไหน บังเอิญผมมาเจอทับทิมแล้วคุยแล้วรู้สึกดีผมก็เลยจะคุยกับน้องครับ''
    

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีโอกาสพัฒนาไหม หนุ่มสเตฟานตอบว่า เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป เพราะต้องให้ฝ่ายหญิงนั้นมั่นใจตนด้วย นอกจากนี้หนุ่มสเตฟานยังได้ยืนยันสถานะระหว่างตัวเขาเองกับทับทิมว่ายังเป็นแค่เริ่มต้น ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่ตนจีบฝ่ายหญิงอยู่ ยังไม่ได้มีการตอบรับอะไรจากฝ่ายหญิง ซึ่งตนก็ทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกว่าตนนั้นเสมอต้นเสมอปลาย
    

    ''ก็คงต้องดูไปครับเพราะผมก็เพิ่งคุยกับน้องเขา ก็ต้องให้เขามั่นใจด้วยครับ (เรียกว่าเดินหน้าจีบน้อง) ครับๆ (สถานะ) ผมจีบเขาอยู่ครับ น้องเขาก็ยังไม่ได้ตอบรับอะไรผมครับ (น้องเขาบอกว่าอยากให้เราออกมาพูดก่อน) ผมเป็นคนเข้าหาเขา ผมเป็นคนจีบเขาด้วยครับ เขาก็ต้องศึกษาผมครับ เป็นผู้หญิงที่ผมคุยด้วยและอยากให้เขาเป็นแฟนครับ คนเราคงไม่ได้ขอเป็นแฟนเหมือนตอนเด็กๆ ครับ ก็ถ้าวันนึงเขารู้สึกว่าเขามั่นใจในตัวผมแล้วก็คงเป็นไปเองตามธรรมชาติ แต่ตอนนี้ผมก็เสมอต้นเสมอปลายกับเขาครับ''

ที่มา: สยามดารา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts