นางร้ายช่อง 7 คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ ช็อก! หลังถูกโยงเข้าข่าว "นางร้ายปากเจ่อขายบริการ" ชี้แจงไม่ใช่ตนเป็นข่าวที่ค่อนข้างแรง ยันไม่ใช่เรื่องจริง เผยมีคนโทรมาบอก พอได้ยินข่าว ก่อนตั้งสติว่าจะทำยังไงต่อและปรึกษาคุณแม่ แจงมีรถหรูขับตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ ได้มาจากการทำงาน ยังผ่อนอยู่ ส่วนที่เห็นมีรถหลายคันบอกเป็นของแฟน ไม่รู้มีรูปตนในเว็บขายบริการ เผยคุณแม่เครียดนอนไม่หลับ ออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของแม่ เผยมีธุรกิจหลายอย่าง ปัดมีของแบรนด์เนมเยอะ หวั่นกระทบงานในวงการ แต่สบายใจที่ผู้ใหญ่ในช่องเชื่อใจ สำหรับคนปล่อยข่าวหลังจากนี้ถ้ายังไม่หยุดขุดคุ้ยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด บอกเคสนี้ถือเป็นทบเรียนว่าควรจะทำตัวยังไง
สำหรับข่าวทำกองถ่ายล่ม ยอมรับไปทำศัลยกรรมจมูกที่เกาหลีแต่ไม่ได้หนีกองไป มีการเคลียร์คิวไว้เรียบร้อยแล้ว บอกหลังจากนี้จะเลิกเม้าท์คนอื่น เพราะเข้าใจแล้วว่าถูกเม้าท์เรื่องไม่จริงแล้วรู้สึกยังไง ฝากถึงคนปล่อยข่าวถ้าไม่หยุดจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

''มีรูปอยู่ในเว็บขายบริการ ไม่รู้ค่ะ ตอนนี้คุณแม่ก็เครียดช่วงที่มีข่าวก็นอนไม่หลับเลยค่ะ ส่วนที่มีคนแอบอ้างว่าเคยซื้อบริการจากหนู คือเขาคนนั้นเป็นใคร? คือข่าวนี้มันรุนแรงมากกับลูกผู้หญิงคนนึง คนที่ไม่รู้จักเราเขามองเข้ามาก็ต้องมองไม่ดีอยู่แล้วหรือแม้กระทั่งกับครอบครัวเรา จริงๆ ตอนแรกหนูไม่ได้คิดว่าจะแถลงข่าวกะว่าเงียบๆ ไปชิลล์ๆ อยู่แล้วเดี๋ยวข่าวก็หายไป แต่ว่ากระแสมันแรงขึ้น แม่หนูก็เครียดมากขึ้น พี่ต้องคิดว่าคนเป็นแม่โดนถามว่าลูกขายตัวเหรอ เขาจะรู้สึกยังไงหนูก็อยากจะเคลียร์เพื่อศักดิ์ศรีของแม่หนู อยากจะออกมาพูดเพื่อแม่หนู เลยต้องมาเคลียร์ว่าเราไม่ได้ทำนะ''

''กลัวข่าวกระทบภาพลักษณ์ ก็กลัวเหมือนกันค่ะ แต่ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องเข้าใจเขาค่อนข้างเชื่อเรา ไม่ได้เชื่อข่าว หลังจากวันนี้ที่เราเคลียร์แล้ว ถ้าคนที่ยังปล่อยข่าวออกมาทำให้เราเสียชื่อเสียงและยังไม่หยุดขุดคุ้ยและทำให้มีข่าวลักษณะนี้ออกมา เราจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดค่ะ เราไม่ได้แบบที่ข่าวเขียนค่ะ หลังจากมีข่าวพี่ใบเตย(ใบเตย อาร์สยาม)ก็โทรมาเป็นห่วง เขาก็ให้คำแนะนำ เพราะว่าพี่ใบก็เป็นคนมีประสบการณ์เนอะ(หัวเราะ) เขาก็บอก ลูกสาวเราต้องมีสตินะ คือหลังออกจากผู้จัดการคนเดียวกันอาจจะไม่เห็นเราแฮงค์เอ้าท์กันเหมือนเดิม แต่พี่ใบเตยยังเป็นพี่สาวที่หนูรักและเคารพเหมือนเดิม ยังรักและเป็นห่วงกันเหมือนเดิม''

"หลังจากนี้หนูบอกตัวเองเลยว่าจะเลิกเม้าท์คนอื่นเลย(หัวเราะ) พอเจอกับตัวเองเพิ่งรู้ว่าการโดนเม้าท์ในเรื่องที่ไม่จริงเป็นยังไง ความรู้สึกนี้มันเป็นยังไงและฝากถึงคนปล่อยข่าวด้วยว่าถ้ายังไม่หยุดที่จะปล่อยข่าวเสียๆ ถึงเรา ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดค่ะ'' คะน้า กล่าว
ที่มา : gossipstar
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น