หลังจากที่ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นางเอกร้อยล้าน จากภาพยนตร์เรื่อง “เอทีเอ็ม เออรักเออเร่อ” ของค่ายจีทีเอช ประสบอุบัติเหตุขับรถไปชนกับท้ายรถน้ำแข็ง บริเวณ ถนนรัชดาภิเษก แยกสุทธิสาร ขณะรีบไปถ่ายซิทคอมเรื่องดัง “เนื้อคู่เดอะไฟนอล แอนเซอร์” ที่จ.นนทบุรี ทำให้มีอาการบาดเจ็บบริเวณใบหน้า คิวแตก แก้มถลอก ไหปลาร้าหัก เนื้อตัวเขียวช้ำ และปอดฉีก โดยตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วแต่ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ทางสาว ไอซ์ กับ คุณแม่ของไอซ์ และ คุณหมอเจ้าของไข้ ได้เปิดโต๊ะแถลงอาการต่างๆ และวิธีการรักษาให้ฟังว่า
“วันเสาร์ตอนประมาณ 6 โมงน้องจะไปที่กองถ่ายเนื้อคู่ น้องกำลังขับถึงทางห้วยขวางตัดกับสุทธิสารซึ่งตอนแรกรถก็โล่งตลอดมาถึงตรงแยกก็ไฟแดงพอดีซึ่งตรงนั้นก็มีรถที่ติดไฟแดงอยู่ก่อนแล้วโดยที่ตอนมาน้องอาจจะมาเร็วไปนิดหนึ่งเพราะเบรกครั้งแรกไม่อยู่ พอเบรกครั้งที่ 2 น้องก็เลยเสียหลักชนกับรถ 6 ล้อที่ข้างในเหมือนกับห้องเย็นทำให้เหล็กของรถเขาหนานิดหนึ่ง คุณแม่ทราบเรื่องตอน 6 โมงกว่าๆ เพราะน้องเป็นคนโทรมาหาเองว่ามีอุบัติเหตุ วันนั้นน้องไปคนเดียวด้วยค่ะ"
ใครเป็นคนพามาส่งรพ.?
“เป็นรถจากทางมูลนิธิโดยเขาพาน้องไปส่งที่รพ.โชคชัย 4 ก่อน ตอนคุณแม่เห็นน้องครั้งแรกก็จะมีผ้าปิดหน้าตรงคิ้วซึ่องยังไม่ทราบว่าอาการเป็นยังไงบ้าง หลังจากนั้นแม่ก็ขอให้ส่งตัวมาที่นี่ (รพ. สมิติเวช) ค่ะ"
สภาพรถน้องไอซ์ |
"ก่อนอื่นก็ขอแสดงความเสียใจที่คุณปรีชญาได้รับอุบัติเหตุ ตอนแรกที่มาน้องเขารู้ตัวดีเหมือนน้องเขาไม่ค่อยมีอะไรแต่จริงๆ แล้วบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ อย่างถ้าเอาผ้าปิดหน้าออกเขาจะมีแผลยาวผ่ากลางคิ้ว ตรงใต้ตา ตรงแก้ม ซึ่งค่อนข้างน่าตกใจเหมือนกัน แต่ไม่ได้จบแค่ตรงนี้เพราะน้องมีอาการสลบในที่เกิดเหตุด้วยซึ่งพอได้แสกนสมองแล้วก็เรียบร้อยดีไม่มีอะไร และก็มีกระดูกไหปลาร้าข้างขวาหักและกระดูกซี่โครงที่ 2 หักในจุดนี้ก็คิดว่าพอหักแล้วเกิดแทงที่ปอดทำให้ปอดรั่ว ดูเผินๆ อาจจะไม่มีอะไรแต่ต้องตรวจให้ครบทุกอย่างทำให้เห็นว่าเยอะเหมือนกัน ก็อยากจะฝากไว้นิดหนึ่งว่าน้องคงเผลอลืมใส่คาดเบลท์ไว้เพราะไม่อย่างนั้นถ้ามีคาดเบลท์รวมกับแอร์แบ็กน้องจะโชคดีกว่านี้มาก จะเจ็บน้อยกว่านี้เยอะเลย ก็อยากจะฝากไว้กับทุกๆ คนนะครับ น้องเขาก็บอกว่าคราวหน้าจะไม่ลืมแล้ว"(หัวเราะ)
ตอนที่น้องมาถึงหมอนั้นเป็นวันเดียวกันเลยใช่หรือเปล่า?
"วันเดียวกันครับ ก็ได้รับแจ้งตอนเช้าประมาณ 8 โมงว่าจะขอมาที่นี่ ตอนผมขึ้นไปตรวจก็ตอนบ่ายๆ แล้วเนื่องจากต้องส่งน้องตรวจอะไรหลายๆ อย่างก่อน เรื่องหน้านี่ไม่ใช่เรื่องด่วน ที่ด่วนกว่าก็คือสมองกับปอดครับ อาการที่ปอดของน้องคุณหมอวิบูลย์ได้ใส่ท่อระบายเอาไว้ซึ่งตอนนี้ก็ได้เอาออกแล้ว ตอนนี้น้องต้องทำการบริหารการหายใจเพื่อป้องกันไม่ให้เขารั่วออกมาอีก ก็คงต้องทำประมาณ 4 สัปดาห์สำหรับอาการปอดแต่เรื่องซี่โครงนี่คงหลายเดือนเลยครับ ส่วนเรื่องไหปลาร้าประมาณ 4 สัปดาห์เขาก็ติดกันแล้วแต่จะยังมีอาการเจ็บหลงเหลืออยู่ ถ้าหากจะต้องวิ่ง เต้น หรืออะไรหลายๆ อย่างก็คงต้องพักนานกว่านั้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องพักสัก 6-8 สัปดาห์กว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้"
ตอนนี้จะให้น้องพักรักษาตัวที่รพ.ประมาณกี่สัปดาห์?
"อย่างน้อยก็สัปดาห์หนึ่งหลังจากนั้นก็แล้วแต่น้องเขาเพียงแต่ผ่านไป 1 สัปดาห์น้องก็จะกลับบ้านได้ ถ้าจะให้พักจนกว่าจะไปถ่ายหนังได้ผมว่าเขาต้องพักประมาณ 3-4 สัปดาห์ คือแผลเราเย็บแล้วก็จริงแต่พอตัดไหมแล้วก็จะยังมีรอยถลอกซึ่งรอยพวกนี้จะต้องรอเขาหายเอง แล้วกว่าจะแห้งจนสามารถแต่งหน้าได้ก็คงประมาณสัปดาห์ที่ 3 ครับ"
ตอนนี้มีอะไรที่ยังน่าเป็นห่วงอีกไหม?
"ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับ เพียงแต่ห่วงว่าเมื่อไรหน้าของเขาจะหายจนแสดงหนังได้ แผลเป็นก็คงมีปกติแต่ยังสวยเหมือนเดิมครับ ส่วนอาการแทรกซ้อนก็คงไม่ต้องระวังอะไรมากเพราะตอนนี้ต้องระวังแผลของน้องไม่ให้เกิดอาการติดเชื้อ แต่ถ้าพ้น 1 สัปดาห์ไปแล้วก็ค่อนข้างวางใจเรื่องแผลได้ครับ"
คุณแม่พูดเสริมว่า
ทางทีมงานได้บอกน้องพักงานได้แค่ไหน?
"อันนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะ"
แล้วไอซ์มีกลัวไม๊ว่าเราจะเสียโฉมหรือเปล่า?
"ตอนแรกที่เห็นแผลก็ตกใจเพราะมันค่อนข้างเยอะแต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ตอนนี้กังวลเรื่องงานว่าจะไม่ได้ทำอีกพักหนึ่งเพราะค่อนข้างจะขยับตัวยาก ตอนนี้ก็ยังมีเจ็บอยู่บ้างอย่างเช่นเวลายกแขนจะยกไม่ได้ เวลาเดินก็จะเดินเร็วไม่ค่อยได้เพราะระบมซีกขวาทั้งหมดเลย ถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดเลย เข็ดค่ะ ไม่เคยเจอหนักขนาดนี้ก็คงไม่ได้ขับรถอีกพักหนึ่งเลยค่ะ"
ตอนที่เกิดเหตุเราคิดยังไง?
"ตอนนั้นรีบมากเพราะมันจะตี 5 กว่าแล้ว ก็กลัวไปทำงานไม่ทันถึงได้รีบออกมา ก็อยากฝากบอกทุกคนในเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยเพราะมันสำคัญมากและช่วยได้เยอะจริงๆ ก็คิดว่าถ้าก่อนหน้านี้คาดเข็มขัดไว้อาจจะไม่เป็นเยอะขนาดนี้ ฝากไว้ด้วยถ้าเกิดขับรถก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน"
"คุณแม่อยากฝากขอโทษเจ้าของงานที่น้องต้องยกเลิกด้วยค่ะ และฝากขอบคุณพี่ๆ นักข่าวที่เป็นห่วงและแฟนคลับของน้องด้วยค่ะ หลังจากนี้ก็คงไม่ให้น้องขับรถไปสักพักหนึ่งค่ะ"
ที่มา rakdara
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น