วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

บี-น้ำทิพย์ โชว์จูบดูดดื่ม แพร-วทานิกา ญาญ่า-อุรัสยา เปลี่ยนลุกส์แซ่บเดินแบบจนรันเวย์ร้อนฉ่า

ในงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล แฟชั่น วีค 2017(BIFW2017) รันเวย์ร้อนฉ่า เมื่อเหล่าซุปตาร์คนดังระดับแถวหน้า ยกขบวนกันมาเดินแบบให้กับเสื้อผ้าแบรนด์ดัง 


ตั้งแต่นางเอกสาวญาญ่า-อุรัสยา ที่เปลี่ยนลุกส์แซ่บโชว์ขนาดนี้ แถมยังปิดท้ายเรียกเสียงฮือฮา เมื่อดาราสาว นางแบบคนดังตัวแม่ อย่างบี-น้ำทิพย์ สร้างความสยิวจูบปากดูดดื่มกับสาว แพร-วทานิกา ดีไซเนอร์คนดัง




เครดิตภาพ #BIFW2017 #vatinika , siamparagonshopping , magaret.gallery , beenamthipofficial

 ที่มา khaosod

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก บิ๊กกันตนา แจงเหตุ ‘มาช่า’หลุดเดอะเฟซ คริส หอวัง เสียบแทน

รายการเดอะเฟซ ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 เกิดข้อสงสัยขึ้นมากมายเมื่ออยู่ดีๆ ได้เปลี่ยนตัวเมนเทอร์ “มาช่า วัฒนพานิช” มาเป็น “คริส หอวัง” เมื่อสอบถามไปทาง “เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก” บิ๊กกันตนา ผู้ผลิตรายการ “เดอะเฟซ ไทยแลนด์” ถึงสาเหตุดังกล่าวได้รับคำตอบมาว่า


“อันนี้ต้องถามคนดูว่ารู้สึกอย่างไร เต้เตรียมรับสภาพแล้วล่ะ คงมีคนที่ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง ก็ไม่เป็นไร”

หลายคนตีความว่าเทปที่ผ่านๆมา มีปัญหาจริง มาช่า ถึงได้ออกไป?
“ต้องอธิบายให้ชัดเจน รายการเดอะเฟซ ไทยแลนด์ คิวที่จะออกอากาศ คือ เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ถูกเลื่อนมาเป็นเดือน ก.พ. ปีนี้ จริงๆรายการเดอะเฟซถ่ายจบไปตั้งแต่ปีที่แล้ว นั้นล่ะคือประเด็น มันเลยมีจังหวะที่ทิ้งห่างนานมาก”

ทำไมถึงเลือก “คริส หอวัง” กลับเข้ามาแทน มาช่า?
“เดิมทีแล้ว จะใครก็แล้วแต่ ขออนุญาตตอบแบบรวมๆว่า ตั้งแต่ซีซั่นที่ 1-3 เราจะให้เกียรติเมนเทอร์ที่อยู่กับเรามาเดิม แต่ซีซั่นนี้เดิมทีคริส เขาติดภารกิจหลายอย่าง เราเลยโอเค เมื่อคุณปฏิเสธ เราก็ทาบทามคนอื่น ในกรณีนี้ก็เหมือนกับว่าคิวเขาโอเค มันเลยตรงที่เขาไม่ว่างมาแล้ว ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น เคยร่วมงานกันมาแล้ว ไม่ต้องพูดเยอะ และเขาเข้าใจอยู่แล้วว่าเกมเล่นอย่างไร มาปุ๊บก็เล่นได้เลย”

เรียกว่าฟ้าผ่ากลางเดอะเฟซได้ไหม?
“ไม่รู้ครับ(หัวเราะ)”

ที่มาช่า ออกไป เพราะทนกับสภาวะการกดดันในเกมไม่ได้หรือดเปล่า ได้คุยกับมาช่าไหม?
“วันนี้มันยังสดอยู่ คุณเต้อยากให้พี่ช่าอธิบายดีกว่า เพราะว่าพี่ช่าเป็นพี่ด้วย และเราก็เคารพกัน บอกเลยว่าไม่มีอะไร เรายังรักและเคารพกันอยู่ ที่ผ่านมาลองสังเกตดีๆ เรายังไปออกรายการด้วยกันอยู่ ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ยังออกงานด้วยกัน ยังไปรายการทอล์กโชว์อยู่ มันไม่มีอะไร”

มันเป็นแผนของรายการใช่ไหม?
“อันนี้อธิบายยาก แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ล่ะคนที่จะคิด ถ้าเขารักรายการเขาก็จะคิดแบบนึงก็จะตีความอีกอย่างนึง คนที่รักพี่ช่า เขาก็จะตีความอีกอย่างนึง คุณเต้เลยไม่อยากพูดอะไร ปล่อยให้เป็นไป แล้วอยากให้เกียรติทางพี่ช่าอธิบาย”

ในฐานะที่เป็นผู้จัดอยู่ดีๆ เมนเทอร์มาเปลี่ยนตัวรู้สึกอย่างไร?
“มันเป็นการบริหารจัดการ มันไม่ได้อยู่ดีๆ รุ่งขึ้นคิดขึ้นมา มันมีที่มาที่ไป บอกได้เลยตรงนี้ เราคุยกันทั้งหมด ทั้งทีมงานและตัวศิลปินเอง เราได้คุยกันก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร”

บางคนก็จะมองว่า มาช่า ไม่ถูกกับ ลูกเกด-เมทนี จริงๆ ?
“อันนี้ไม่รู้ เราไม่อยากพูดถึงเรื่องของคนอื่น อยากพูดในฐานะที่เป็นเจ้าของรายการว่ามันไม่มีอะไรหรอก มันเป็นการทำงานที่เราได้คุยกันแล้วทุกส่วน อยากบอกว่ารายการเราไม่มีสคริปต์ มันเป็นไปตามธรรมชาติที่มันเป็น มันไม่ได้มีการจัดว่าต้องเปลี่ยนตอนนี้ เปิดตอนนั้น กลับมาตอนนั้น มันว่าไปตามอาทิตย์นั้นๆ รายการมันถ่ายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งออกตอนนี้ คนก็เลยมองว่าเขียนสคริปต์ให้เป็นแบบนั้น บอกให้ตายเท่าไหร่ ก็บอกว่าเราเขียนอยู่ดี(หัวเราะ) เอาเป็นว่าดูกันอย่างมีความสุขดีกว่า ไม่พอใจอะไรก็บอกได้ แต่ขอให้สุภาพนิดนึง บอกกันด้วยเหตุผลนะ”

พอเปลี่ยนเมนเทอร์ น้องๆทีมมาช่า เขาจะเข้ากับคริสได้ไหม?
“อันนี้ต้องดูในรายการเอาเอง ไม่ขอพูดเดี๋ยวเป็นการสปอยล์ ทุกคนมาเพื่อทำงาน เด็กๆมาเพื่อการแข่งขัน เพราะฉะนั้นไม่ได้มีอะไร ทุกอย่างดำเนินไปได้จนจบ แล้วตอนจบมันเป็นสด ซึ่งจะเกิดขึ้นวันที่ 29 เมย.นี้ อันนี้มันเป็นการวัดผลว่าเมนเทอร์จะทำอย่างไรให้เด็กของตัวเองออกมาดีที่สุด ตอนนี้ยิ่งยาก เพราะว่าเมนเทอร์มีเวลาให้เด็กเยอะมาก ถ้าเขาขยันตั้งใจจริงทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน”

รอบตัดสิน มาช่า จะมาร่วมงานด้วยไหม?
“อันนี้ไม่ยืนยัน มันไม่ได้แล้วแต่เรา มันเป็นการเตรียมงานอยู่ เวลาออกอากาศก็ยังมีการเลื่อนๆอยู่ แล้วเราก็พยายามขยายเวลาออกอากาศ เพราะรอบสุดท้ายเราทำเป็นสด จะมีคนดูซื้อบัตรเข้ามาดูด้วย มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เราต้องคุยก่อนที่จะถึงขั้นตอนว่าจะมีอะไรบ้าง”

หลังจากนี้จะมีเซอร์ไพรส์อะไรอีกไหม?
“วันนี้ไม่ได้เป็นเซอร์ไพรส์อะไร แต่สังเกตอย่างนึงว่าคนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแต่ละตอน ซึ่งคนทำก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเราจะเห็นก่อนเท่านั้น แต่ละตอนไม่เหมือนกัน ยิ่งเปลี่ยนยิ่งสนุกขึ้น เพราะเขาก็ต้องหาอะไรไม่ซ้ำมาเล่น ต้องไปดูในรายการเอา”

ดูมีอะไรให้ตื่นเต้นเรื่อยๆ ?
“ในแต่ละอาทิตย์ เราก็ทำไปตามเหตุการณ์ ที่เมนเทอร์เล่น เรามีหน้าที่วางกฎกติกามารยาท แล้วเขาก็เล่นกันเอง เราถ่าย 2 วัน มันมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย แต่เราตัดออกมาได้แค่นี้ เรายืนยังว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นตามนี้ เรามีหน้าที่ถ่ายทอดตามนี้ นี่เราตัดออกแล้วนะ”

ถามต่อว่ารู้สึกอย่างไรที่คนสปอยล์รายการจะทายถูกตลอด?
“คนบางกลุ่มก็รู้อยู่แล้วเพราะเป็นคนใกล้ชิด บางกลุ่มที่เป็นประชาชนปกติ เขาก็จะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แล้วแต่สถานการณ์ แล้วแต่กลุ่มคนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ สิ่งเดียวที่จะยืนยันได้ว่าอะไรเกิดขึ้นจริง ต้องดูรายการเท่านั้น แล้วดูว่าอะไรเกิดขึ้นจริง”

ที่มา ข่าวสด

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

โบวี่ ปลงเลิกถ่ายบิกินี หันมาปฏิบัติธรรม เตรียมออกจากวงการ

เปิดใจ โบวี่ ประกาศแขวนเต้าไม่ถ่ายหวิวแล้ว จากสาวเซ็กซี่ถ่ายบิกินี่ หันมาห่มขาว ถือศีล นั่งสมาธิ ยอมยกเลิกอีเวนต์ทิ้งเงินเป็นแสนๆ เพื่อไปปฏิบัติธรรม เผยธรรมะทำให้ตนไม่ใช่โบวี่คนเดิม เป้าหมายสูงสุดคือนิพพานไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ลั่นรอผ่อนหนี้หมด 10 ล้านจะออกจากวงการ เชื่อธรรมะจัดสรรทำให้ได้รักกับ “โอม อิทธิศักดิ์”


ถ้าพูดถึง “โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์” ก่อนหน้าคงนึกถึงสาวภาพลักษณ์แรงในวงการที่สลัดผ้าถ่ายแบบเซ็กซี่เป็นว่าเล่น โบวี่ ชื่อนี้ไม่ได้การันตีแค่ความเซ็กซี่แต่เรื่องหัวใจยังฮอตไม่แพ้กัน ตกเป็นข่าวกับหนุ่มๆ มากหน้าหลายตาจนได้ฉายาคาสโนวี่ไปเป็นโลโก้ประจำตัว เรียกว่าที่ผ่านมาชื่อเสียงของโบวี่นั้นค่อนข้างออกไปทางลบซะมากกว่า แต่อยู่ๆ โบวี่ก็ลุกขึ้นมาประกาศแขวนเต้าเลิกถ่ายเซ็กซี่ หันหน้าเข้าวัดนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมเปลี่ยนแนวไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว 1 ปีที่เจ้าตัวปฏิบัติธรรมจริงจัง วันนี้โบวี่ได้ค้นพบความสุขที่แท้จริง ปล่อยวางได้ ไม่อยากมีอยากได้เหมือนตอนเข้าวงการแรกๆ กลายเป็นโบวี่คนใหม่ ตั้งเป้าหมายสูงสุดคือนิพพาน หลุดพ้นไม่กลับมาเกิดอีก รอผ่อนหนี้หมด 10 ล้านจะออกจากวงการ

ทิ้งเงินเป็นแสนๆ ไปปฏิบัติธรรม แฮปปี้ที่ตัวเองไม่ใช่โบวี่คนเดิม

“ฝึกจริงๆ มา 1 ปีแล้ว จริงจังแบบไม่รับงานเลย ถ้าตรงช่วงที่เราเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมก็ต้องยอมตัดใจไม่รับงาน แล้วอย่างถ้าเราลงคอร์สไว้แล้วว่าจะไปแต่พอใกล้ๆ จะไปมีอีเวนต์หรือมีงานอื่นติดต่อมาหลายแสนก็ต้องตัดใจไม่งั้นเราก็จะไม่ได้ไป จริงๆ มันเป็นการฝึกเราอย่างนึงเรื่องของการตัดกิเลส ซึ่งมีหลายครั้งมากที่เป็นแบบนี้ พอจะไปจะมีงานติดต่อเข้ามาเราก็จะบอกผู้จัดการส่วนตัวไว้เลยว่าปฏิเสธไปเลยเพราะล็อกคิวไปปฏิบัติธรรมแล้ว เพราะคอร์สปฏิบัติธรรมมันต้องจองล่วงหน้าและต้องรอคิวนาน แล้วถ้าเราได้คิวแล้วแล้วไม่ไปกว่าจะไปจองใหม่มันใช้เวลาไงคะ ส่วนใหญ่จะไป 7 วัน แต่บางทีก็มีคอร์สเล็ก 3 วันบ้างค่ะ ถามว่าทิ้งเงินเป็นแสนๆ เสียดายมั้ย โบวี่ว่าแล้วแต่คนนะคะ เรื่องแบบนี้เอาที่พอดีที่ไม่เดือดร้อนตัวเองดีกว่า อย่างตัวเราเองความรู้สึกเสียดายจะมีน้อยมากเลย แปลกมากเลยค่ะ เรารู้สึกเห็นค่าของการที่เราได้ไปฝึกจิตมากกว่ามันมีค่ามากกว่าเงินมหาศาล ต้องไปลองฝึกค่ะแล้วจะเข้าใจว่าการฝึกจิตจนจิตมันคลายจากความยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง มันดีอย่างนี้นี่เอง”

“ก็มีทั้งไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมและจะนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านครั้งละ 1 ชั่วโมง 1 ชั่วโมงครึ่งแล้วแต่วัน พยายามทำให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพิ่งฝึกมาปีเดียวเราก็ยังต้องฝึกอีกเยอะยังไม่ถึงขั้นว่าปล่อยสละได้ทุกอย่าง แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเท่านั้นเอง จากที่เมื่อก่อนกิเลสอาจจะ 100 ตอนนี้มันเหลือ 70 เรายังแฮปปี้ขนาดนี้ แล้วคิดดูว่าถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตจะมีความสุขขนาดไหน ฝึกมา 1 ปีที่มันหายไปเยอะมาก อย่างเช่น เมื่อก่อนเราทำงานในวงการมันเครียดนะ เมื่อก่อนจะรู้สึกฉันอยากได้งานนี้ๆ มันเป็นเรื่องของการแข่งขัน และก็ไม่ใช่แค่วงการบันเทิงหรอก ทุกวงการไม่ว่าจะทำธุรกิจหรือทำงานอื่นก็จะมีการแข่งขันแก่งแย่งกันหมด แล้วในจุดที่เราต้องวิ่งไปกับโลกที่วุ่นวายแก่งแย่งมันเหนื่อยนะ จะไม่ไปก็ไม่ได้มันเหมือนบังคับให้เราวิ่งตลอดเวลา”

“พอได้รู้จักที่จะหยุดและวางทำให้รู้ว่านี่คือความสุขที่แท้จริง ตอนนี้โบวี่จะรู้สึกแค่ว่าเราทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่ได้รู้สึกว่าฉันจะต้องดังแบบนี้ จะต้องไปให้ถึงตรงนี้ ต้องรวยแบบนี้ๆ ทั้งที่เมื่อก่อนคิดเลยนะว่าจะทำธุรกิจให้รวยสิบล้านร้อยล้านอะไรแบบนี้ ทุกวันนี้ก็ทำงานปกตินะคะ ถ้าไปถึงจุดนั้นได้ก็ดีแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คือเราไม่ได้ตั้งเป้าอะไรที่มันจะทำให้เกิดความโลภเกิดกิเลสเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำงานแบบไม่ทุกข์ อย่างเวลามีข่าวก็ไม่เครียดแล้ว คิดแค่ว่าจะออกมาแก้ข่าวยังไงออกมาแก้ไขยังไง สุดท้ายผลจะเป็นยังไงเราก็ปล่อยวาง


มีบางคนบอกว่าเวลาฝึกไปขั้นสูงในระดับนึงจะถอดจิตได้ เราเคยทำแบบนั้นมั้ย?
“จริงๆ มันเป็นเรื่องปกติมากเลยนะของคนที่ปฏิบัติแต่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่โบวี่ยังไม่เคยเป็นค่ะ คนที่ฝึกเหมือนจิตมันมีกำลังมีความละเอียด เขาสามารถอ่านจิตคนได้ บางคนเห็นอดีตเห็นอนาคตได้”

เห็นว่าเป็นอาสาสมัครเผยแพร่พระพุทธศาสนา?
“ที่โบวี่มาทำมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะคิดว่าเราอยู่ในจุดที่สามารถพูดได้เพื่อให้คนอื่นรับรู้เรื่องธรรมะก็เลยอยากใช้ตรงนี้ให้เต็มที่ เด็กรุ่นใหม่ก็สามารถเรียนรู้ธรรมะได้นะ ธรรมะไม่ใช่เรื่องขอคนแก่ ไม่ต้องอายุ 60 หรือเกษียรก่อนค่อยไปเข้าวัด ธรรมะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อแต่เป็นเรื่องที่เจอไวยิ่งดี เพราะธรรมะคือธรรมชาติการที่เรารู้จักธรรมชาติแล้วเข้าใจมัน ไม่ยึด ปล่อยวาง ไม่ว่าจะมีเรื่องร้ายแรงเข้ามาในชีวิตแค่ไหนถ้าเรารู้ธรรมชาติตรงนี้ว่าทุกอย่างมันก็มีแค่นี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เราก็จะชิลล์ เราก็จะอยู่บนยุคดิจิตอลได้อย่างมีความสุข”

“ทุกวันนี้โลกมันวิ่งไปเร็วจริงๆ และมันเป็นสังคมของการแก่งแย่ง มันทุกข์นะ และก็เหนื่อยด้วย ซึ่งต้องอาศัยการฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ พอจิตมีกำลังเวลาต้องเจออะไรก็จะชิลล์มาก วาง ไม่สนใจ มันจะทำให้มีความสุขง่ายขึ้น ไม่ต้องวิ่งตามโลกทุกอย่าง ไม่มีความรู้สึกที่ว่าฉันจะต้องรวยเท่านั้นเท่านี้ ฉันจะต้องมีรถยี่ห้อนี้ๆ ถึงจะมีความสุข ไม่มีเลย แค่อยู่ในบ้านหลังธรรมดาๆ อยู่แบบนี้ก็มีความสุขได้แล้ว ถ้าเรื่องของจิตใจก็ปล่อยวางได้มากขึ้น อย่างถ้าตอนที่โดนข่าวมือที่สาม(ชาคริต-วุ้นเส้น) ยิ่งพวกคอมเมนต์นี่แรงมาก ขนาดคนที่ดูแลเราไปอ่านยังประสาทเสียขนาดเขาไม่ได้เป็นเรา บางคนส่งแมสเสจมาในเฟซบุ๊กส่วนตัวเราด่าอี_อกแย่งผัวเพื่อน เราเห็นก็อืมตลกดีเนอะ เมื่อก่อนถ้าโดนเยอะๆ ก็อาจจะนอยด์ ส่วนนึงเป็นเพราะเราปฏิบัติธรรมทำให้ไม่รู้สึกอะไรอย่างที่บอก และอีกอย่างคือไม่ใช่เรื่องจริงก็เลยเฉยๆ เวลามีเรื่องมากระทบก็ยังมีอารมณ์โกรธแต่จะวางไวขึ้น โกรธปุ๊บตัดเลย”

“ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองไว้ว่าในชาตินี้จะลดกิเลสของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เป้าของโบวี่คือปรารถนา มรรคผล นิพพาน การหลุดพ้นไม่ต้องกลับมาเกิดอีก เป็นจุดมุ่งมายสูงสุดที่พระพุทธเจ้าได้บอกไว้ โบวี่ก็อยากไปให้ถึงตามแบบท่าน ในชาตินี้ก็เลยตั้งใจจะทำให้มากที่สุด การฝึกจิตทางธรรมมันดีกว่าทางโลกตรงที่ว่า เงินทองที่หามาได้จากทางโลกเวลาเราตายไปมันเป็นศูนย์ ชาติหน้าคือต้องมาเริ่มทุกอย่างใหม่ แต่ว่าการฝึกจิตในทางธรรมมันเป็นสกิลที่เราเห็นเลเวลไว้ได้ สมมุติในชาตินี้เราทำไว้ที่ 60 ในชาติหน้าเราไปต่อที่ 61 ได้ จนกว่าเราจะไปถึงเลเวล 100 โบวี่เคยได้ยินพระอาจารย์ท่านพูดว่าเวลาเราปฏิบัติภาวนาแล้วเราจะมีเทวดามาเป็นพวก เพราะเทวดาท่านก็อยากได้บุญท่านก็จะอยู่ใกล้คอยช่วยเหลือคนที่ทำกุศลแล้วท่านก็จะได้บุญด้วย บางคนป่วยมาแต่พอมาปฏิบัติธรรมเขาหาย อันนี้เคยเห็นจริงๆ ไม่ลองไม่รู้จริงๆ นะ ต้องมาลองปฏิบัติธรรมเอง บางคนเป็นโรคกรรมโรคเวรพอมาปฏิบัติแล้วแบ่งบุญให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วหาย”

รอหมดหนี้สิน 10 กว่าล้าน เตรียมหันหลังให้วงการเข้าสู่ทางธรรม
“ส่วนอนาคตในวงการ ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่าจะออกจากวงการบันเทิง สำหรับโบวี่งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่มีอายุงาน เราคงไม่ทำจนตลอดชีวิต อย่างตอนนี้ต้องผ่อนบ้าน ต้องดูแลที่บ้านอยู่ ยังต้องทำงานหาเงิน แต่พอสักจุดนึงอยากออกจากวงการบันเทิงอยู่แล้ว พอมาปฏิบัติธรรมมันทำให้เราเห็นเค้าโครงชีวิตว่าเราจะเป็นยังไง ความตั้งใจอีกอย่างนึงคืออยากมีเวลาช่วยเหลือมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้าฯ ให้มากกว่านี้ ตอนนี้โบวี่เป็นอาสาสมัครอยู่ก็จริงแต่กลับยังทำได้ไม่เต็มที่มากนัก แต่ถ้าเกิดอนาคตไม่อยู่ในวงการบันเทิงแล้วแต่อาจจะขายของนิดๆ หน่อยๆ ของเราไปเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ได้ และมีเวลาช่วยเหลือองค์กรและมีเวลามานั่งปฏิบัติภาวนามากขึ้นกว่านี้”

“ชีวิตในอนาคตเราสามารถอยู่เรียบๆ ติดดิน ธรรมดาๆ ได้ ไม่ต้องรอให้รวยร้อยล้านก่อน ขอแค่หมดหนี้หมดสินและมีเงินดูแลที่บ้านได้ทุกเดือนเพราะพ่อแม่ไม่ได้ทำงานแล้ว แค่นี้โบวี่ก็อยู่ได้แล้วนะ”

มีกำหนดมั้ยว่าเมื่อไหร่จะเฟดตัวออกจากวงการ?
“อยากเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ มันอยู่ที่ว่าจะผ่อนบ้านให้หมดได้เร็วแค่ไหน ราคาบ้าน 20 กว่าล้าน แต่ผ่อนมาจนเหลือ 10 กว่าล้านแล้วค่ะ ถ้าหมดหนี้บ้านก็อยากจะละวางแล้วอ่ะ ไม่รู้ว่าถึงวันนั้นจะเป็นยังไงนะแต่นี่คือสิ่งที่ตั้งใจไว้ ส่วนเรื่องถ่ายเซ็กซี่ไม่ถ่ายแล้วเพราะการถ่ายเซ็กซี่มันขัดจริงๆ ค่ะ เราเป็นอาสาสมัครองค์กรเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยมันขัดมาก แต่ถ้าเป็นงานอื่นเล่นละครหรือถ่ายแฟชั่นปกติเราถ่ายนะ”

เชื่อธรรมะจัดสรรทำให้ได้ปิ๊งรักกับ “โอม อิทธิศักดิ์” หวานใจคนล่าสุด
“อย่างเรื่องความรักเราก็ตั้งจิตตลอดว่าอยากเจอคนที่ศีลเสมอกัน ธรรมเสมอกัน เกื้อกูลกันทั้งทางโลกทางธรรม ที่ผ่านมาเจอก็ไม่ใช่ๆ แต่โอมกลับเป็นสิ่งที่เราตามหา สมมุติมี 20 ข้อ เราชอบเขา 18 ข้อแล้วอ่ะ(ยิ้ม) ถ้าเป็นสเปกคือถูกสเปก 90% จากที่เมื่อก่อนคิดว่าแค่ถูกใจแค่ 60% ก็โอเคแล้ว โบวี่ชอบโอมเพราะไลฟ์สไตล์เขาอยู่บนความพอเพียงและเรียบง่าย ไม่ตะเกียกตะกาย เราชอบเพราะเราอยากมีชีวิตแบบนั้น อยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าสบายใจนี่แหละคือชีวิตที่เราอยากมี”

“ในความคิดโบวี่การอยู่ง่ายๆ ติดดินชีวิตยิ่งแฮปปี้ โบวี่ใช้ชีวิตหวือหวามาเป็น 10 ปีแล้ว อยู่ในจุดที่หวือหวาเหลือเกิน ถ่ายเซ็กซี่(หัวเราะ) มีข่าวนั่นนี่ แต่ไม่ได้บอกว่าที่ผ่านมาไม่ดีนะคะเพียงแต่พอเรามาเจอจุดที่มันสงบแล้วมันดีกว่า อย่างโอมก็เรียกว่าศีลเสมอกันได้เพราะเขาก็เป็นคนที่มีธรรมในใจ รู้สึกว่าเขาใช่ ณ เวลานี้แต่ก็ต้องใช้เวลาในการค่อยๆ ดูไปว่าในระยะยาวเป็นยังไง เราไปพูดแทนอนาคตไม่ได้ ถ้าสิ่งที่เขาเป็นมันไม่เที่ยงก็คือไม่เที่ยง ถ้าเขาเปลี่ยนไปก็คือเปลี่ยนไป อยู่กับปัจจุบันดีกว่า กับคนนี้โบวี่คิดเอาเองว่าเป็นธรรมะจัดสรร(ยิ้ม)”

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

เก้า ฮอร์โมน โต้ข่าวโกงสอบ ยันไม่ใช่หนู

เก้า สุภัสสรา ธนชาต งงข่าวเพื่อนในคณะแฉ โดนพักการเรียนเพราะลอกข้อสอบ ยันปกติอยู่มหาวิทยาลัยน้อยมากไม่เคยเห็นหน้าใคร บอกเกรดเทอมล่าสุดได้ 3 กว่า เผยที่ยอมดร็อปเรียนปี 4 เพราะไม่พร้อม และไม่อยากให้เกรดตก คาดจบช้า 1 ปี 


อยู่ดีๆ งานก็เข้า หลังมีข่าวลือออกมาว่านักแสดงจากแก๊งฮอร์โมน โกงข้อสอบเลยถูกสั่งพักการเรียน โดยบอกใบ้ว่า ไม่มีสังกัด เลิกรากับแฟนหนุ่ม แล้วก็เพิ่งเปิดตัวแฟนคนใหม่ ทำให้หลายรายพุ่งเป้ามาที่ ''เก้า'' สุภัสสรา ธนชาต โดยเจ้าตัวออกมาเคลียร์แล้ว และยอมรับว่าดร็อปเรียนจริง แต่เกิดจากความไม่พร้อมของตนเองมากกว่า
   
''ตอนแรกที่เห็นข่าวยังคิดว่าใคร สุดท้ายแล้วทำไมมาเป็นเรา ก็คงเป็นเราคนเดียวที่ดร็อปอยู่ ตอนนี้ดร็อปมา 1 เทอม ต้องบอกว่าเราดร็อปเรียนจริง แต่ดร็อปจากความไม่พร้อมของเราเอง''
     
''ปัญหาเรื่องเรียน ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา แต่เก้าคิดว่าตัวเองไม่ไหวตั้งแต่ปี 2 แล้ว เพราะมันทรมานมาก เนื่องจากคณะเก้ามีเรียนเสาร์-อาทิตย์ ด้วย ตัวเก้าเองก็เลือกที่จะไปเรียนตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ด้วย ซึ่งวันเสาร์-อาทิตย์ เก้าติดถ่ายละคร ที่บอกว่าเป็นเราก็ไม่รู้มาจากไหน ไม่รู้มูลมาจากไหนนะ คนที่รู้เรื่องเราเป็นคนสุดท้ายก็เป็นตัวเรา ก็เลยงงว่ามันมาจากไหน ยังไง''
   
มีข่าวว่าเราถูกคนในคณะออกมาแฉ ?
''(มองบน แล้วหัวเราะ) อันนี้ก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน เรื่องมันเกิดมาจากยังไง เพราะอินเตอร์มีอยู่ไม่กี่คน ตัวเก้าเองไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเพื่อนที่เรียน เวลาเรียนวันๆ เก้าแทบจะอยู่มหาวิทยาลัยน้อยมาก คนในมหาวิทยาลัยจะไม่ค่อยเห็นหน้าเก้า ไปเรียนเสร็จ 3 ชั่วโมงกลับ กลับมาเรียนเสร็จก็กลับ เก้าไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร ถ้าเก้าไปทำอะไรให้ไม่พอใจก็ขอโทษด้วยแล้วกันค่ะ คนเราก็ต้องมีคนที่ทั้งชอบและไม่ชอบเรา สิ่งที่ตอบไปวันนี้ ก็ไม่รู้ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราก็ตอบความจริงในส่วนของเรา''
   
''จริงๆ ตอนนี้เหลือ 12 ตัวค่ะ ลงเทอมละ 6 ตัว 2 เทอมก็จบแล้ว เก้าเองก็มานั่งคำนวณดู คงไม่ถึงขั้นต้องลงซัมเมอร์ ตอนนี้ก็ปี 4 แล้ว ปีสุดท้าย ก็จะช้ากว่าเพื่อน 1 เทอม แต่ก็ต้องตีเป็น 1 ปี เพราะเขารับปริญญากันปีต่อปี ตอนแรกที่เข้ามาเรียนก็คิดว่ามันจะบาลานซ์ได้ทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน แต่ด้วยเก้าอินเตอร์ และคณะก็เรียนยาก มันไม่สามารถจะสลับโยกย้ายอะไรได้เลย''
     
''ก็มีถามเพื่อน เพื่อนก็ไลน์มาถามว่าโอเคมั้ย เรามีโทร.ไปถามมหาวิทยาลัย ว่าเรื่องมันเกิดมาได้ยังไง ทางมหาวิทยาลัยก็งงๆ เหมือนกัน ทางมหาวิทยาลัยก็บอกให้เราสู้ๆ เขาก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้ออกมา ตัวเก้าเองไม่ได้มีใครมาถามนะคะ ว่ามันเกิดขึ้นจริงรึเปล่า''
     
''ไม่เกี่ยวกับเราไม่ช่วยงานเพื่อน บางทีงานกลุ่มทำคนเดียวด้วยซ้ำ (หัวเราะ) แต่ถ้ามีปัญหาแบบนี้ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราก็เต็มที่กับเพื่อนอยู่แล้ว เรารู้สึกว่า ถ้าเราไปเรียน ไม่ดร็อป พยายามจะจบพร้อมเพื่อน แล้วงานกลุ่มจะเยอะมาก ถ้าเราไม่ได้ไปช่วยเพื่อนทำ เราจะรู้สึกผิดมาก''
     
ข่าวที่ออกมาดูเหมือนว่าเป็นเพราะเราเหมือนมีสิทธิ์มากกว่าคนอื่น?

''เรื่องนี้ต้องปฏิเสธมาก เพราะมหาวิทยาลัยไม่เคยให้อภิสิทธิ์อะไรเราขนาดนั้นเลย ด้วยความที่เป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล และคณะเก้าเป็นคณะที่เข้มงวดพอสมควร อาจารย์ช่วยแค่ให้คำปรึกษาสำหรับบางอย่าง ส่วนเรื่องเวลาการเข้าเรียนเก้าก็พยายามขาดไม่เกิน 3 ครั้ง เพราะถ้า 3 ครั้ง ก็ได้เอฟ เหมือนมาตรฐานมหาวิทยาลัยทั่วไปค่ะ ครอบครัวไม่มีใครมาถามอะไรเก้าเลย เขาคงรู้ว่าความจริงเป็นยังไง''

''มันเหนื่อยตรงที่เราต้องเข้าเรียนตลอด บางทีเราเข้าไม่ได้ เวลาเรียนเราก็จะขาดไป ไหนต้องตามเนื้อหาด้วย ก็ค่อนข้างหนักอยู่ เรื่องกลับไปเรียนแล้วเจอปัญหาเหมือนเดิม ตรงนี้ก็เครียดอยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามลงเรียนเท่าที่จะทำได้ แต่ทางช่อง 3 เขาค่อนข้างเข้าใจในเรื่องการเรียน เขาก็พยายามให้เราแบ่งได้''

แล้วผลการเรียนของเก้าเป็นอย่างไรบ้าง?
''เก้าเป็นคนเรียนกลางๆ มาก เทอมที่แล้ว 3.14 เก้าก็ไม่ได้เก่งมาก ก็พอไปรอดสำหรับคนคนหนึ่ง ที่ดร็อปส่วนหนึ่งก็เพราะไม่อยากให้เกรดมันดาวน์ด้วย เพราะทางผู้ใหญ่อย่างคุณพ่อคุณแม่ก็คงอยากให้เราได้เกรดดีๆ''

''มีข่าวแบบนี้ก็แอบเฟลเหมือนกัน เพราะเราทำงานมาตลอด แต่อยู่ดีๆ ทำไมมีข่าวแบบนี้ขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้โกรธ และคงไปตามหาคนที่ปล่อยข่าวไม่ได้หรอก เพราะเรายืนอยู่จุดนี้ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราเป็นนักแสดง เป็นนักศึกษา เราก็ทำหน้าที่และพัฒนาการทำงานของเราในทุกๆ วันดีกว่า แค่นี้ก็พอใจแล้ว''

''ได้คุยกับ ปันปัน (สุทัตตา อุดมศิลป์) เขาก็โทร.มาเล่าว่าโดนถามเรื่องนี้ แต่ปันก็เฉยๆ ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะความจริงก็คือความจริงค่ะ'' 

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทริปภูเก็ตของ กิ๊บซี่ วนิดา ไร้บิกินี่ แต่เซ็กซี่หนักมาก

แม้นักร้องนักแสดงสาวเซ็กซี่ กิ๊บซี่ – วนิดา เติมธนาภรณ์ จะไม่ได้มีหุ่น อวบอึ๋ม สะบึม เท่าคนอื่นๆ แต่มีเสน่ห์มัดใจชายมากๆ แล้วถ้าให้ไล่ชื่อสาวเซ็กซี่ของวงการบันเทิงไทยแล้วเชื่อเลยว่าต้องมือชื่อ กิ๊บซี่ ติดอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน


อย่างล่าสุดที่สาว ‘กิ๊บซี่ วนิดา’ ไปพักผ่อนที่ศรีพันวา ภูเก็ต แม้จะไม่ได้ใส่บิกินี่อวดหุ่นเซี้ยะเหมือนใครๆ แต่ก็ยังไม่วายเซ็กซี่สุดๆ ไม่เชื่อลองชมตัวอย่างได้ที่นี่ได้เลย






แต่ถ้ายังไม่จุใจก็ไปติดตามดูต่อได้ที่อินสตาแกรมของสาว กิ๊บซี่ ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย

ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม gybzygirlyberry
ที่มา matichon


วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

น้ำตาล ชลิตา ไม่สน แก้ม กวินตา ลงรูปหมากระเป๋า จิกกัดใคร

หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวงการนางงามอ้างว่า น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ อาจจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง กระทั่งเจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่รู้เรื่องอะไรและยังคงดำรงตำแหน่งเป็นสาวงามอยู่เช่มเดิม จนกว่าจะหมดหน้าที่ในช่วงกลางปีนี้


ดูเหมือนจะยังมีดราม่าโชยมาเรื่อยๆ เมื่อ แก้ม กวินตรา โพธิจักร นางงามสาวรุ่นพี่ที่ถูกจับโยงมาใส่ประเด็นนี้ด้วย เพราะมีข้อความที่เจ้าตัวโพสต์ลอยๆ เอาไว้ในโซเชียลมีเดียหลุดออกมาเผยแพร่ ทำให้คนวิเคราะห์ไปต่างๆ นานาว่า จิกกัดใครหรือไม่ แม้กระทั่ง สาวน้ำตาล ก็ออกมาบอกว่า รุ่นพี่คงไม่ได้โพสต์หมายถึงตัวเองหรอก


แต่ล่าสุดดูเหมือนจะยังไม่จบ เพราะ สาวแก้ม โพสต์อินสตาแกรมภาพสุนัขกับกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง Victoria’s Secret พร้อมกับแคปชั่นนัยๆ ชวนขบคิด
“ไปไม่ไปไม่รู้ แต่หนูจะอยู่ในนี้ หมากระเป๋าของแท้ เนียนๆ ปรับตัวได้ตามสภาพแวดล้อม อ่ะๆ คิดว่าเป็นพวงกุญแจก็ได้”

โพสต์นี้ของ สาวแก้ม ก็ถูกโยงไปสู่ประเด็นดราม่านางงามอีกเช่นเคย หลายคนมองว่า..จิกกัด สาวน้ำตาล อีกหรือไม่ เพราะรายหลังก็เพิ่งกลับมาจากอีเวนท์ Victoria’s Secret Angel Event ที่สิงคโปร์ หลังถูกรับเชิญให้ไปร่วมงาน แต่ไม่นานนัก ภาพหมากระเป๋าดังกล่าวก็ถูกลบออกไป แต่ก็ยังมีคนมือดีแคปเก็บเอาไว้ได้


ทำเอาชาวเน็ตโยงไปถึงคู่กรณีเก่าอย่าง น้ำตาล ชลิตา เพราะเธอเพิ่งจะถูกรับเชิญไปร่วมงาน Victoria’s Secret Angel Event ที่สิงคโปร์ มาหมาดๆ เมื่อสอบถามไปทางด้านสาว น้ำตาล ชลิตา ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า "เธอไม่ทราบจริงๆ ว่าอีกฝ่ายต้องการสื่อถึงเรื่องอะไร และคงไม่สนใจ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้จักกันเลย แต่เคยเจอตอนประกวดคัดเลือก MUT เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น"


หลังจากมีกระแสข่าวออกมาอย่างมากมายสำหรับ น้ำตาล ชลิตา Miss Universe Thailand 2016 ล่าสุด ในงาน MThai Top Talk-About  2017 ณ ลาน Park Paragon ศูนย์การค้าสยามพารากอน คุณแม่กิ๊ฟ ชุติกานต์ และ คุณพ่อโต้ง สรนนท์ ได้ขึ้นเวทีรับรางวัล Top Talk-About Lady แทน น้ำตาล ชลิตา โดยคุณแม่กิ๊ฟ เปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ว่าไม่มีอะไร คุณแม่และ น้ำตาล ก็ยังคุยกับคุณอร (คนดูแลจาก MUT) ตามปกติ ส่วนเรื่องสัญญายังเหมือนเดิม ไม่ได้มีการฉีกสัญญาอย่างที่เป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด และยังดำรงตำแหน่ง เป็นเวลา 1 ปี และมีสัญญาละคร 2 ปี ก็จะหมดสัญญา โดยสัญญาต่างๆ น้ำตาล แทบจะไม่ได้ดูเลย ส่วนใหญ่คุณพ่อและคุณแม่จะเป็นฝ่ายช่วนดูสัญญามากกว่า ตอนนี้ น้ำตาล ก็ยังทำงานปกติ ตอนแรกก็งงเหมือนกันที่มีกระแสข่าว ซึ่ง น้ำตาล ก็มีเครียดบ้าง แม่ก็ได้แต่ให้กำลังใจน้อง ซึ่งเราก็ไม่สามารถห้ามให้ใครคิดอย่างไรได้


ขอบคุณเฟซบุ๊กเพจ ใต้เตียงดารา, Gavintra Photijak, IG gavintra, namtanlitaa

ที่มา: sanook, gossipstar.mthai.com

วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560

ต้นหอม ยอมรับผิดไม่ขอใช้คำว่า เลิก เดินหน้าง้อ ซัน

ดีเจต้นหอม ศกุนตลา ออกมาเปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงเรื่องความสัมพันธ์กับหนุ่ม ซัน ประชากร หลังทะเลาะกันครั้งใหญ่ว่าสาเหตุหลักมาจากการตั้งกฎเกณฑ์ที่ไม่ตรงกันเพราะคนละมุมมอง ยอมรับว่าตนเองเป็นคนผิด ปัดมีมือที่ 3 ตามที่เป็นข่าว ณ ตอนนี้ยังไม่ขอใช้คำว่าเลิกและจะเดินหน้าพิสูจน์ตัวเองพร้อมกับง้อจนถึงที่สุด


ทำเอาหลายคนรอลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ถึงสถานะความสัมพันธ์ของดีเจสาวอารมณ์ดี “ต้นหอม ศกุลตลา” กับหวานใจหนุ่ม “ซัน ประชากร” ที่เพิ่งเปิดตัวว่าคบกันได้ไม่นานเท่าไหร่ก็ส่อแววเลิกกันเสียแล้ว

โดยทางด้าน ดีเจต้นหอม ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าตัวได้ยอมรับว่าเป็นช่วงที่เกิดปัญหาขึ้นจริง แต่ตอนนี้ยังไม่ขอใช้สถานะว่าเลิกกัน เพราะเธอพยายามง้อเต็มที่ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่เธอไม่สามารถทำตามกฎที่ให้ไว้ แต่ยืนยันไม่เกี่ยวกับเรื่องนอกใจอย่างที่มีกระแสข่าวลือแน่นอน




หลังจากที่ ต้นหอม ได้เปิดใจยอมรับผิดพร้อมกับขอปรับปรุงตัวเอง และเดินหน้าง้อฝ่ายชายอย่างเต็มที่ ต้นหอม เธอก็ได้ระบายความในใจอีกครั้งในอินสตาแกรมส่วนตัวเป็นการให้กำลังใจตัวเองว่า   
“ไหวมั้ย ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นประโยคห่วงใย สู้ๆนะหอม #ให้กำลังใจตัวเองในวันที่เหนื่อย”

ล่าสุดทางด้านของ หนุ่มซัน ประชากร ก็ได้มีความเคลื่อนไหวผ่านไอจีเช่นกัน โดยโพสต์ภาพตนเองพร้อมระบุข้อความให้น่าคิดว่า   
“thinking”   

งานนี้ทำเอากองเชียร์ต้องลุ้นกันตัวโก่งที่เห็นว่า หนุ่มซัน เริ่มจะใจอ่อนแล้ว ต่างเข้ามาให้กำลังใจพร้อมกับเชียร์ให้ ซัน ประชากร ยกโทษให้ ต้นหอม และกลับมาคืนดีกัน




ขอบคุณภาพจาก IG djtonhorm, sun_prachakorn

ที่มา : gossipstar.mthai.com

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

แนท เกศริน โชว์อาบน้ำถอดชุดชั้นใน ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์

อดีตนางเอกหนังเอวี “แนท เกศริน ชัยเฉลิมพล” ที่เลิกแสดงหนังแล้วหันไปแต่งงานกับมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน แต่ยังคงโพสต์ภาพเซ็กซี่ผ่านสื่อโซเชียลฯ อยู่เป็นประจำ ล่าสุุดโชว์ความเซ็กซี่ให้ฮือฮาด้วยการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กของตัวเอง


โดยเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวทำเฟซบุ๊กร้อนเป็นไฟ เมื่อไลฟ์สดโชว์ถอดชุดชั้นในทีละชิ้น และค่อยๆ บรรจงเทครีมอาบน้ำลูบไล้ร่างกาย งานนี้ คอมเมนท์กระจาย ไม่รู้ว่าเหงาหรืออะไร แต่หนุ่มๆ ที่ได้อานิสงค์นี้ คงชอบใจไม่น้อยเลยล่ะ


อดีตนางแบบสาวสุดเซ็กซี่ “แนท เกศริน ชัยเฉลิมพล” จะแต่งงานแล้วกับ “แฮโรลด์ เจนนิงส์ เนสแลนด์” สามีมหาเศรษฐีต่างชาติ วัย 70 ปี สถาปนิกพันล้าน ชาวเมืองซีแอตเทิล วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังไว้ลายความเซ็กซี่ ด้วยการโพสต์ภาพเซ็กซี่อยู่เนืองๆ


ที่มา sanook



วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

“ใหม่” เมินข่าว “นางเอกดังทำงานอีเว้นท์ป่วน” มองข่าว “มาริโอ้” เป้าตุงเป็นสีสัน

นางเอกหน้าสวย "ใหม่ ดาวิกา” ที่ล่าสุดภาพยนตร์ที่เธอแสดงอย่าง “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” ก็มีชื่อเขาชิงในหลายๆ รางวัล และยังมีแพลนฉายที่ต่างประเทศอีกด้วย ไม่รู้ว่างานนี้สาว “ใหม่” จะรู้สึกยังไงบ้าง ด้านที่หลายคนจับผิดภาพของพระเอกหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ถ่ายคู่กับเธอแล้วเป้าตุงนั้นเธอได้เผยให้ฟัง พร้อมทั้งเคลียร์เพจดังลงข่าว “นางเอกดังชอบทำอิเว้นท์ป่วน"


ใหม่ ดาวิกา ได้เปิดใจถึงเรื่องข่าว "นางเอกดังชอบทำอิเว้นท์ป่วน" ทำเอาหลายคนมองว่าเป็นตนว่า
"ไม่หรอกเพราะช่วงนี้ไม่มีอีเว้นท์ ต้องทำตัวน่ารัก ส่วนตัวยังไม่เห็นเลยว่าเพจไหนเขียนถึง ยังไม่ได้เข้าไปอ่าน อยากออกอีเว้นท์มาก แต่ช่วงนี้ถ่ายละครหนัก ไม่เสียดายเม็ดเงินจากงานอีเว้นท์ เพราะโฆษณาเงินดีอยู่ ไม่คิดว่าเป็นเรา ไม่คิดจะไปหาข่าวนี้ เพราะข่าวแบบนี้มีเยอะ ตนชิลมาก"


ด้านภาพถ่ายคู่พระเอกหนุ่ม "มาริโอ้ เมาเร่อ"  ริมทะเล แต่ฝ่ายชายเป้าตุงตรงมือตนพอดี ก็ตามที่พี่ “มาริโอ้” ตอบไป ก็ไม่มีอะไร อยากให้โฟกัสหน้าตนบ้าง อยากให้โฟกัสที่อื่นดีกว่า พี่ “โอ้” เขินแล้ว มันแล้วแต่คนโฟกัส เพราะปกติถ่ายรูปคู่กันบ่อยอยู่แล้ว แล้วแต่มุม แล้วแต่คนจะมอง ไม่ได้คุยกับเขาหลังภาพออกมา ไม่รู้จะคุยให้พี่เขาเขินทำไม ถือว่าข่าวนี้เป็นสีสัน


สำหรับเรื่องภาพยนตร์ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” ได้เข้าชิงหลายรายการ พร้อมมีแพลนจะไปฉายในญี่ปุ่น ก็รู้สึกดีใจ ไม่คาดหวังรางวัลสุพรรณหงส์ แค่มีชื่อเข้าชิงก็ภูมิใจแล้ว ภาพยนตร์ก็จะมีไปต่างประเทศ แต่ไม่ได้คาดหวังกับเงินหรือรายได้แต่อย่างใดเลย

ด้านซีรีส์เรื่อง “ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์” กระแสตอบรับดี เพราะเป็นบทบาทใหม่ที่ฉีกกฎออกไป ดีใจที่ฟีดแบ็คออกมาดี เป็นนักแสดงตนอยากทำอะไรให้มันได้หลากหลาย ไม่ใช่เเค่บทนางเอกต้องคีฟลุคเสมอไป ตอนได้รับบทมาแรกๆ ตนก็มีคุยกับพี่ “เติ้ล” ว่าต้องขนาดนี้เลยหรอ  ก็มีแฮชแท็กแล้วไงใครแคร์มาเรื่อยๆ ก็ถือว่าฉีกบทนางเอกได้ทำอะไรใหม่ๆ เป็นนักแสดงก็อยากทำอะไรให้ดีที่สุด


ที่มา www.daradaily.com, Nineentertain



วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

เบียร์ เดอะวอยซ์ โพสต์ภาพในชุดว่ายน้ำ สวมหางเป็นเงือกสาวสุดเซ็กซี่ริมทะเล

นับวันก็ยิ่งสวยแซ่บขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักร้องหน้าหวาน ภัสรนันท์ อัษฎมงคล หรือ เบียร์ เดอะวอยซ์ หวานใจของนักร้องหนุ่ม อารมณ์ โพธิ์หาญรัตนกุล หรือ คัทโตะ ลิปตา ที่เคยสร้างความฮือฮาให้กับหนุ่มๆ ด้วยการขึ้นปก นิตยสาร mars ใช้ลุคสุดเซ็กซี่ จนทำให้หนุ่มๆ หลายคนรู้สึกอิจฉาตาร้อน คัทโตะ ถึงขนาดสร้างเพจ ‘ทวงคืนเบียร์เดอะวอยซ์จากคัตโตะวงลิปตา’



ล่าสุด เบียร์ ก็ทำให้หนุ่มๆ ใจระทวยอีกครั้ง เมื่อเธอได้ไปเที่ยวทะเลหัวหิน พร้อมโพสต์ภาพในชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่มาให้ได้ชมทางอินสตาแกรม แถมยังมีการสวมหางนางเงือกดูเซ็กซี่น่ารักมากๆ



เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังได้ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก Beer Passaranan ขณะที่เธอกำลังเล่นฟองสบู่พร้อมกับร้องเพลงให้ได้ฟังเสียงใสๆ แฟนคลับเลยพากันกดไลค์ ส่งหัวใจให้เพียบ


ขอบคุณภาพจาก beerpassaranan, Beer Passaranan

ที่มา : มติชน ออนไลน์