วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วุ้นเส้น ใจกว้างไม่ก้าวก่าย ชาคริต-อ้อม ถ่ายแบบแรง

คงต้องยกให้เป็นภาพยนตร์อีโรติกที่วาบหวิวที่สุดแห่งปี สำหรับ “แม่เบี้ย” ฉบับ 2015  เพราะแค่ทีเซอร์ที่ปล่อยออกไปชิมลางก็เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคอหนังได้มากทีเดียว ทั้งยังตอกย้ำกระแสความแรงด้วยการจับคู่พระนางอย่าง ชาคริต แย้มนาม และ อ้อม-กานต์พิศชา เกตุมณี มาถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร Volume และที่ฮือฮาคงจะเป็นการโพสท่าที่ฝ่ายชายต้องเอามือไปกุมหน้าอกของฝ่ายหญิง ทำเอาตื่นตาตื่นใจกันทั้งเมือง ก็ไม่รู้ว่าภรรยาสาวคนสวยอย่าง วุ้นเส้น-วิริฒิพา จะว่ายังไงบ้าง 



ล่าสุดมีโอกาสได้เจอสาว วุ้นเส้น-วิริฒิพา ที่ห้อง President 1-2 ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ ที่ได้มาร่วมงาน “สาวสวยประชันผิวขาวใสไปกับฟิล์ม VOX”  ซึ่งสาววุ้นเส้นก็ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวให้ฟังว่า

“วันนี้พี่คริตติดถ่ายงานยังไม่เสร็จก็เลยมาไม่ทัน แต่ยืนยันว่าไม่มีการงอนกันเรื่องถ่ายแบบ เพื่อนๆก็มีการส่งรูปมาให้ดูว่าขนาดนี้เลยเหรอ พี่ๆหลายคนก็ถาม แต่พี่คริตโทรมาบอกเราแล้วว่าจะมีการถ่ายแบบอย่างนี้เกิดขึ้น มีการถอดเสื้อแต่ไม่ได้บอกว่าต้องทำท่าไหนเพราะเราก็ไม่ได้อยากรู้ พอภาพออกมาเป็นแบบนี้ก็โอเค สวยดี มันก็ผ่านไปแล้วจะให้เรามีปัญหากันก็เสียเวลา เราสองคนทำงานยุ่งทั้ง 7 วันเลย ฉะนั้นเวลาที่คุยกันก็ไม่อยากคุยเรื่องแบบนี้ อยากคุยแต่เรื่องดีๆและเรื่องที่จำเป็นมากกว่า แต่จริงๆวุ้นโอเคนะ ถ้าไม่โอเคก็คงไม่ให้ไปเล่นหนังแล้วล่ะ น่าจะเชียร์หนังกันมากกว่า เราเป็นคู่รักกันน่าจะซัพพอร์ตงานของกันและกันค่ะ”

“ภาพที่ออกมาเขาก็อธิบายว่าเป็นยังไง เราก็ไม่ถึงขนาดแซวนะ เขาเป็นคนส่งรูปมาให้วุ้นดูก่อน เราก็เห็นจากคนอื่นแล้วแต่ไม่ได้พูดอะไร พอเขาส่งรูปมา ก็มีแค่รูปเดียวที่มันแรง ความรู้สึกเรามันก็ไม่ถึงขนาดงอน วุ้นไม่ได้เป็นคนงี่เง่าแบบนี้ มันก็ผ่านไปได้ง่ายๆ แต่พอคนถามเยอะๆ พี่คริตก็บอกให้เข้มแข็งไว้นะ รู้ว่าช่วงนี้ต้องผ่านอะไรเยอะ”

ไม่ได้มาด้วยกัน คนเลยมองว่างอนหรือเปล่า? 
“ก็แยกย้ายกันทำงานบ้าง เวลาไม่ได้ตรงกันจริงๆ ช่วงนี้เจอกันน้อยมากแต่ก็ยังเจอกันเหมือนเดิม ไม่ได้มีงอนหรือทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะก็ต้องเคลียร์กันให้จบ”

“สำหรับเรื่องงานของพี่คริตทุกอย่าง วุ้นเคารพการตัดสินใจของเขาเพราะเขาทำงานในวงการมานาน ก็จะรู้ว่างานอะไรที่มันเหมาะสมและจะทำออกมาได้ดี เราไม่เคยห้ามอะไรอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ก็ชิลๆกันหมด”

ดูเป็นภรรยาผู้ใจกว้าง? 
“ใจกว้างจริงๆค่ะ ยอมรับ วุ้นคุยกับคนนอกวงการก็จะออกแนว ปล่อยให้สามีไปทำอย่างนั้นได้ยังไง เราทำงานในวงการก็เข้าใจว่าบางงานก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนังเขาเป็นแนวอีโรติกดราม่า ฉะนั้นการถ่ายแฟชั่นก็ต้องมีภาพที่เซ็กซี่ออกมา ซึ่งไม่ได้คาดหวังว่ามันจะออกมาเป็นยังไง วุ้นไม่สามารถบอกเขาได้ว่าควรเพิ่มหรือลดอะไรได้ วุ้นอยากให้ทุกอย่างเป็นงานของเขา ซึ่งวุ้นไม่เคยก้าวก่ายอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนดูที่ผลงานของเขามากกว่าดูเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ แต่กับเรื่องนี้เขาก็บ่นเยอะเหมือนกันว่าที่สุดของเขาแล้ว เขาคงไม่กล้าทำอะไรเยอะไปกว่านี้ แต่เราก็ไม่ได้ห้ามอะไรค่ะ”

พักหลังมีเวลาให้กันมากขึ้นไหม? 
“ไม่เลยค่ะ น้อยมาก ตอนนี้วุ้นถ่าย 2 รายการ มันเลยเป็นช่วงที่เราทำงานหนัก เดี๋ยวรอว่างตรงกันน่าจะเป็นวันแม่ที่จะได้เจอกัน อยู่บ้านเดียวกันก็ได้คุยกันบ้างก่อนนอน วุ้นจะนอนก่อนเขา เขาจะนอนดึกหน่อย งานเราสองคนมันเหนื่อยจริงๆกลับมาก็ดึกแล้วก็เลยกลายเป็นว่าช่วงนี้คุยโทรศัพท์กันเยอะกว่า ซึ่งเราก็เข้าใจกันแต่ลึกๆก็อยากมีเวลาเหมือนคู่รักทั่วไป กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวแต่เราบังคับไลฟ์สไตล์และการทำงานของเราไม่ได้จริงๆ ช่วงปลายปีพี่คริตบอกให้เคลียร์คิวไว้แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน”


วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ปั๋ง-ประกาศิต ยันไม่ใช่พ่อ มีผลตรวจดีเอ็นเอชี้ชัด

นักร้องและคอมเมนเตเตอร์หนุ่มหนวดงาม ปั๋ง-ประกาศิต โบสุวรรณ ยืนยันไม่ใช่พ่อของเด็ก ระบุมีผลตรวจดีเอ็นเอชัดเจน พร้อมโชว์แมน ให้การดูแลเด็ก อีกฝ่ายก็รับรู้ แต่ยอมรับที่ผ่านมาจัดการไม่เด็ดขาด ที่ไม่อยากพูดเพราะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย แต่กลับต้องตกเป็นจำเลยสังคมซะเอง ได้แต่แจ้งแม่ฝ่ายหญิงต้องชี้แจงเพื่อให้เรื่องจบ เชื่อน้องทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์


หลังจากที่มีเฟซบุ๊กของหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่า Tonpalm Trakanta ออกมาแฉ ปั๋ง-ประกาศิต ทำหญิงสาวคนหนึ่งท้องจนคลอดลูกออกมาได้ 2 เดือนแล้วก็ไม่รับผิดชอบ กระทั่งทุกวันนี้ยังไม่ไปรับรองเป็นลูก เรื่องนี้ได้แพร่กระจายในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ขณะที่นักร้องหนุ่มใหญ่ยังคงนิ่งเงียบ และพยายามหลบลี้หนีหน้าสื่อ ไม่ไปทำหน้าที่คอมเมนต์เตเตอร์รายการ “ทรู อคาเดมี แฟนเทเซีย ซีซั่น 12” อีกด้วย

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีมือดีปล่อยภาพเหมือนเป็นใบสูติบัตรของเด็กชายคนหนึ่งระบุว่าคลอดที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย.2558 เวลา 12.32 น. น้ำหนัก 2,960 กรัม สูง 60 ซม. และระบุชื่อคุณพ่อว่า ประกาศิต โบสุวรรณ พร้อมกับมีภาพเด็กเบลอบริเวณใบหน้า และภาพของปั๋งประกอบอยู่ด้วย เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ยิ่งทำให้กระแสข่าวว่า ปั๋ง-ประกาศิต เป็นพ่อของเด็กวัย 2 เดือน กระหึ่มหนักขึ้น

โดยที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนักร้องหนุ่มหนวดเครางามตลอดทั้งวัน กระทั่งตอนเย็นวันเดียวกัน “เดอะปั๋ง” จึงตกลงนัดให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว “นสพ.ไทยรัฐ” ที่สนามคริสตัลปาร์คฟุตบอลคลับ โดยกล่าวว่า ความจริงตนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลย จึงพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด แต่ตนว่ามันเริ่มหนักขึ้นๆ ถึงกับเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ อีกทั้งยังมีการปล่อยภาพกรอบรูปที่ระลึกของโรงพยาบาลระบุตนเป็นพ่อออกมาอีก ตรงนี้ทำให้ตนรู้สึกว่ากลายเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี จึงรู้สึกว่าต้องออกมาพูดบ้าง ตนก็รู้ว่าการออกมาเช่นนี้ไม่ดีต่อใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตนหรือว่าอีกฝ่ายก็ตาม

ปั๋ง-ประกาศิตกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ขอเคลียร์ว่า น้องคนนั้นที่จริงไม่ใช่เป็นเด็กมัธยมปลายแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เมื่อตอนที่เป็นข่าวช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ความจริงตนรู้เรื่องน้องท้องแล้วและตอนที่น้องบอกตนก็ยืนยันว่าไม่ใช่พ่อของเด็กแน่นอน เพราะตนกับน้องเลิกกันมาพักหนึ่งแล้ว และที่มั่นใจว่าไม่ใช่พ่อเด็กนั้น จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ทำให้ตนรู้ว่าควรควบคุมและป้องกันเรื่องแบบนี้อย่างไร แต่ถึงตนมั่นใจ ตนก็บอกกับน้องไปว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องคำนึงถึงหรอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก ตนจะให้การดูแลเด็กเอง และเห็นใจน้องด้วยว่าจะผ่านปัญหาชีวิตหนักๆนี้ไปได้อย่างไรตัวคนเดียว ซึ่งตลอดมาก็ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องเด็กให้ตลอด จนกระทั่งเด็กคลอดเมื่อเดือน มิ.ย. ทั้งที่ก็รู้ว่าไม่ใช่ลูก

เมื่อถามว่า ทำไมอีกฝ่ายทำเหมือนปั๋งเป็นพ่อของเด็ก นักร้องรุ่นเก๋ากล่าวว่า เป็นความเห็นใจมากกว่า ตนช่วยเหลือตรงนี้ก็อาจเป็นไปได้ว่า กลายเป็นการทำให้น้องเชื่อว่าตนเป็นพ่อของลูก จนกลายเป็นข่าวขึ้นมาอีก เมื่อเร็วๆนี้มีการเผยแพร่ข้อความระบุตนเป็นพ่อ ทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่จบ และกำลังจะถูกกระพือไปกันใหญ่ ทำให้ได้คิดว่าการทำอะไรไม่เด็ดขาดที่ผ่านมาของตนกลับเป็นการทำร้ายตัวเองและทำร้ายน้องเขาด้วย จึงตัดสินใจทำอะไรให้ทุกอย่างมันกระจ่างไปเลยดีกว่า เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจและชัดเจนไปเลย

นักร้องคนดัง บอกด้วยว่าสิ่งที่ทำคือ ติดต่อแล็บฯ ตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งมีมาตรฐานสากลแห่งหนึ่งให้มาดำเนินการตรวจทั้งตนทั้งแม่ของเด็กและก็เด็ก ผลออกมาชัดเจนว่าตนไม่ใช่พ่อเด็กจริงๆ น้องเขาก็รู้ผลแล้วเช่นกัน ที่จริงตนไม่อยากออกมาพูด เลือกที่จะนิ่งซะดีกว่า แต่เห็นแล้วว่ามันไม่จบจริงๆ แจ้งไปทางคุณแม่น้องเขาแล้วว่าตนจะออกมาชี้แจงแล้วนะ เพื่ออยากให้มันจบจริงๆ เชื่อว่าน้องเขากระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ วุฒิภาวะยังน้อย ไม่โกรธอะไร แค่อยากให้ทุกอย่างมันจบเท่านั้น และอยากวอนให้สังคมยุติการพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายไหนทั้งนั้น


ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ณเดชน์-ญาญ่า ป้องแฟนคลับยี้ มิว-แต้ว แจงเหตุไม่รับงานคู่ เจมส์ จิ

แม้ช่วงนี้ไม่ได้เล่นละครด้วยกัน แต่ยังคงเป็นคู่จิ้นที่ฮอตสุดๆ สำหรับ ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ที่มีกระแสข่าวออกมาว่าแฟนคลับ NY นั่นออกมาโจมตีสาว มิว นิษฐา และ แต้ว ณฐพร แถมสาว ญาญ่า เองก็มีคนบอกว่าเธอไม่ยอมรับงานคู่กับหนุ่ม “เจมส์ จิรายุ” ทั้งๆ ที่เล่นละครด้วยกัน ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า

ล่าสุดได้เจอคู่จิ้น ณเดชน์-ญาญ่า ที่ลาน เอเทรี่ยม 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในงานแถลงข่าวเปิดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “เลย์ เปิดครัว ชวนปรุง – Lay’s Open Kitchen” โดยสาว ญาญ่า ได้แจงถึงเรื่องนี้ว่า

“จริงๆ เราทำงานกับใครก็ได้แต่บางทีคิวมันไม่ตรงกัน แล้วที่บอกว่าเราไม่ยอมไปโปรโมทละครเอาจริงๆ เท่าที่ช่องติดต่อมาเราไปกันหมดเลย พอมีข่าวแบบนี้ก็ก็เข้าใจนะ เพราะร่วมงานกันแต่ยังไม่เคยออกอีเว้นท์ด้วยกัน แต่มันขึ้นอยู่กับโอกาสและเวลาด้วย น้องเขาถ่ายละครไม่ตรงกับเรา ก็ไม่แน่ใจว่ามีงานคู่ติดต่อมาเยอะไหมแต่ที่ติดต่อมาก็ทำกันไปหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เลือกไม่ออกงานคู่น้องเขาจริงๆ เราคิวไม่ตรงกัน ถ้าเป็นไปได้ออกงานคู่กันก็ดีเพราะทำงานกับน้องสนุกอยู่แล้ว”

ขณะที่ทางด้าน ณเดชน์ ก็ชี้แจงว่า
“เรื่องการทำงานมันคนละเรื่องกับเรื่องส่วนตัว เราก็ทำงานกับคนอื่นมาเยอะ จะไปทำงานด้วยกันบางทีคิวมันยากจริงๆ เราต้องทุ่มเทให้กับงานละครมากกว่าด้วย ไม่มีหึงอะไรกันหรอก”

แล้วข่าวที่ว่าแฟนคลับ NY โจมตี มิวกับแต้ว ไม่เลิก?
อันนี้อย่าโยงไปเป็นแฟนคลับNYเลย ผมว่าน่าจะเป็นคนๆหนึ่งที่ไม่พอใจในการทำงานของแต่ละคนมากกว่า อันนี้ห้ามความคิดกันไม่ได้ พวกที่แต่งเป็นเรื่องเป็นราวช่อง3กำลังหาคนเขียนบทอยู่มาสมัครได้ แต่ยังไม่ได้ตอบซักทีว่ามันไม่ใช่ความจริง ก็สงสารเขานะ บางทีคนอยู่ภายนอกไม่รู้อะไรต้องมาตอบคำถามแบบนี้มันก็เหนื่อยนะ อีกอย่างถ้าเป็นความอคติส่วนตัวไม่ชอบก็เก็บไว้คุยกับคนที่บ้าน จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นต้องมาตามแก้ อันนี้ไม่ทราบว่าคนไหน แต่ไม่ใช่ NY แน่นอนเพราะถ้าเป็นแฟนคลับจริงเขาจะต้องติดตามผลงานเราด้วยความสุข กับแต้วและมิวก็มีคุยกันขำๆ บ้าง ไม่ใส่ใจกับเรื่องตรงนี้ จริงๆ เดี๋ยวจะมีละครคู่กับญาญ่าเรื่อง “คู่รักสลับร่าง” เร็วๆ นี้ จะฟิตติ้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

โดยสาว “ญาญ่า” ก็เสริมว่า
“คือมันห้ามความคิดของแต่ละคนไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ชอบอะไรเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ขอร้องอย่ามาเกี่ยวให้เป็น NY”

กับล่าสุดลงรูปเซ็กซี่ เห็นว่ากระแสตอบรับดีมากๆเป็นอย่างไรบ้าง?
”ก็เป็นครั้งแรกที่ต้องอาบน้ำให้คนอื่นดู เป็นครั้งแรกที่แต่งตัวโป๊ที่สุดออกมาข้างนอกด้วย เป็นการพลิกบทบาทตื่นเต้นและท้าทาย ดีใจที่ทุกคนให้กำลังใจ จะมองว่าปรับลุคก็ได้ คือเป็นจุดประสงค์ของเราเลย อยากให้คนดูแล้วบอกว่าแซ่บเพราะตัวบทแซ่บมาก นี่เบาๆ นะ มีเยอะกว่านี่อีก ที่รับเพราะเราโตขึ้น เป็นการเปลี่ยนในชีวิตการทำงานของเรามาก เพราะไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ก็แปลกตาดีไม่คิดว่าตัวเองจะมีมุมนี่”

ทางด้าน “ณเดชน์” ก็เสริมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“เขาดึงความเซ็กซี่ของเขาออกมาได้เยอะ สวยดี เต้นเต็มที่มาก ถามว่าห่วงไหมก็ก็ห่วงนะ แต่ตามงานเขาก็ดูแลตัวเองได้ดีอยู่แล้ว ไม่มีข้อห้ามอะไร แค่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆดีกว่า”


วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พระ-นางแม่เบี้ย ชาคริต อ้อม-กานต์พิศชา โพสท่าสุดซี๊ดขึ้นปก VOLUME

กำลังเป็นภาพยนตร์ที่ถูกจับตามองอย่างมากในเวลานี้สำหรับ “แม่เบี้ย เวอร์ชั่น 2015” ที่“หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” นำมารีเมคใหม่โดยมีนักแสดงนำอย่าง  ชาคริต แย้มนาม ประกบคู่กับนางเอกใหม่แกะกล่องอย่าง อ้อม กานต์พิศชา เกตุมณี โดยเพียงแค่ทีเซอร์แรกออกมาก็เป็นที่พูดถึงกันอย่างถล่มทลายแล้วจริงๆ 


มาล่าสุดนิตยสารดังอย่าง VOLUME ได้เชื้อเชิญคู่พระ – นาง ของเรื่องให้มาเป็นแบบขึ้นปก ฉบับเดือนกรกฎาคม ที่เห็นแค่รูปแรกก็ต้องร้องอือหือ เพราะลีลาโพสท่าสุดสยิวไม่แพ้ทีเซอร์ของหนังเลยทีเดียว เห็นทีว่าคงต้องรีบจับจองนิตยสาร VOLUME ฉบับเดือนกรกฎาคม มาเป็นเจ้าของเสียแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พีค เตรียมผ่ากระดูกหน้าผาก เหตุใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัด

เมื่อก่อนกระดูกงอกที่หน้าผากของ พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ เห็นแค่บวมเล็กน้อย แต่มาตอนนี้เห็นได้ชัดขึ้นมาก งานนี้เลยทำให้เจ้าตัวคงตัดสินใจผ่าออกแล้วแน่ๆ แต่บางคนก็สงสัยว่าที่เพิ่งจะผ่าเอาตอนนี้เป็นเพราะเลิกกับ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี หรือเปล่าเนื่องจากตอนที่คบกันหนุ่ม เต๋อ เคยบอกว่าไม่อยากให้ผ่าออก

พอได้เจอ พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “เทวดาตกสวรรค์” ณ บริษัท ทาเลนต์วัน (ซ.สุขุมวิท 36 แยกนภาศัพท์ 2) เจ้าตัวก็เผยให้ฟังว่า

เรื่องผ่ากระดูกหน้าผากก็ไม่ได้กังวลอะไรเลยเพราะไม่ได้เป็นอันตราย แต่แค่บางทีเราเล่นละครแล้วมันเห็น เขาก็ต้องหลบให้ คอยหามุมให้ เราก็เกรงใจ เราไปปรึกษาคุณหมอมาล่าสุดแล้ว ก็คุยกันว่าจะหาเวลาทำ คือตอนแรกว่าจะทำปลายปี ช่วงปีใหม่วันหยุดยาว แต่ถ้าเกิดมีจังหวะที่ทำก่อนก็จะลองหาดู คุณหมอบอกแค่เปิดบริเวณที่กระดูกงอก ส่องกล้องลงไป เจียร์ให้เรียบ และปิดแผลประมาณ 2-3 วันเท่านั้นเอง ไม่เป็นแผลเป็น ก็มีไปบอกเพื่อนๆ ไว้แล้วว่า ถ้าเราไปทำต้องมาให้กำลังใจกันนะ

แล้วเกี่ยวไหมว่าเลิกกับ เต๋อ เลยตัดสินใจผ่า? 
”ไม่เกี่ยวกับการเลิก คือจริงๆ ที่บ้านคุณพ่ออยากให้ทำนานแล้วเพราะท่านรู้สึกว่าทำไมไม่ทำให้มันเรียบร้อยไป นี่ก็ทำให้เขาสบายใจ ส่วนว่าพี่เต๋อมีขออาสาไปเฝ้าไข้ไหม อันนี้ไม่รู้”

เรื่องความรักมีหนุ่มคุยบ้างไม๊?
”ตอนนี้ก็ยังไม่มีหนุ่มคุย เพื่อนๆ ไม่มีแนะนำเลย กับเพื่อนๆ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเจอเท่าไรหรือเจอกันก็ไม่ค่อยคุยเรื่องความรักเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไรบ้างในช่วงนี้ ก็ไม่ได้ปิดใจอะไร ถ้าจะมีก็พร้อม เพียงแต่ยังไม่เจอ ส่วนรูปที่คนเห็นเป็นรูปซองจดหมายหัวใจที่ลงแคปชั่นเดียวกันนั่น ก็ไม่ได้ส่งให้ใคร คือเป็นแคปชั่นไม่ได้มีอะไรเลย”


วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เกรท-วรินทร โร่แจ้งความถูกโกงค่าตัวงานอีเว้นท์ เผยเสียความรู้สึก

ช่วงนี้มีข่าวดาราถูกโกงค่าให้ได้เห็นกันบ่อยๆ  ล่าสุดก็เป็นคิวของหนุ่ม เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ ที่มีข่าวว่าถูกโกงค่าตัวออกงานอีเว้นท์งานหนึ่งที่ดิโอสยามเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยจ่ายเช็คเด้งเป็นจำนวนเงิน 104,000 บาท


โดยวันนี้(13 ก.ค.)หนุ่ม เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ ได้หอบหลักฐานเข้าแจ้งความต่อบริษัทที่ว่าจ้างในข้อหาฉ้อโกงที่ สน.วังทองหลาง โดยเจ้าตัวเผยว่า

”ตอนแรกเราก็ไปอีเว้นท์ปกติที่ดิโอสยามนี่แหละแต่สุดท้ายก็มีปัญหาเพราะเขาจ่ายเช็คเด้งมาให้ จริงๆ เขาให้เงินมาแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง ส่วนเช็คนี้เขาจ่ายให้ในวันที่ออกงานซึ่งในวันต่อมาที่เราเอาไปเข้าก็มีปัญหา หลังเกิดเรื่องผู้จัดการได้โทรไปหาเขาซึ่งรอบแรกเขาบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้แต่หลังจากนั้นมาก็ยังติดต่อเขาไม่ได้เลย คือเราพยายามติดต่อไปยังคู่กรณีหลายครั้งแล้ว ในใจเราก็อยากให้โอกาสเขาก็พยายามไลน์ไปบอกให้เขาติดต่อมาจนกระทั่งเพิ่งคุยกับผู้จัดการว่าวันนี้เราจะมาแจ้งความซึ่งเป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว จริงๆ หลังจากที่เราให้เวลาผู้จัดการเราก็คุยกับนักแสดงที่เขารู้จักกับคนนี้ เขาก็บอกว่าคนๆ นี้ยังอยู่นะ ยังติดต่อได้ แต่เขาไม่ยอมติดต่อเรา

พูดตรงๆ เราก็รู้จักเขามาก่อนซึ่งค่อนข้างรู้สึกไม่ดีเท่าไร ตามจริงเราไม่อยากให้เรื่องราวมันใหญ่โต จริงๆ วงการเราก็ไม่ได้กว้างอะไรหลายๆ คนก็น่าจะเคยได้ร่วมงานกับเขา ก็อยากจะให้รู้ว่าคนๆ นี้เขาคิดไม่ซื่อ ถามว่ามีคนโดนแบบเราบ้างไหมจริงๆ ก็มี 2-3 คนแต่ขอไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน ไม่ใช่งานเดียวกับเรา ตอนส่งรูปเขาให้ตร.ดูพี่เขายังบอกเลยว่าเพิ่งจะเคลียร์คดีของคนนี้ไปเอง

สำหรับที่อีกฝ่ายออกมาแฉว่าตอนทำงานเราเป็นคนเรื่องเยอะเกินเหตุนั้นจะเล่าให้ฟังเลยว่าเวลาทำงานเราไม่เคยจู้จี้จุกจิก เราทำงานอย่างเต็มที่ แล้วไปทำงานวันนั้นอยากจะบอกเลยจบงานใครอยากถ่ายรุปเราก็ยังให้เวลาทุกคนไม่เคยบ่นอะไรเลย แต่จะแจ้งหมิ่นประมาทเขาก็คงไม่หรอกเพราะนี่ก็เพิ่งรู้ว่าเขาออกมาแฉแบบนี้เหมือนกัน เขาจะดิสเครดิตอะไรก็ไม่เป็นไรเพราะเรามั่นใจว่าเราทำงานด้วยใจ เชื่อว่าทุกคนที่เคยทำงานด้วยกันก็น่าจะรู้ดี

ส่วนเขาถ้าติดต่อมาขอเคลียร์เอาจริงๆ ตัวเราเองสามารถมาไกล่เกลี่ยได้ แต่พูดเลยว่าอยากให้เรื่องนี้เป็นคดีตัวอย่างเพราะเขาเล่นไม่มีติดต่อเราเลย ถ้าติดต่อเรามาสักนิดมันคงไม่เป็นแบบนี้ ก็ถ้าเขาฟังอยู่มีอะไรก็มาคุยกัน แต่หากไม่ยอมมาเจรจาก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ถามว่าซีเรียสเรื่องเงินไหมเอาจริงๆ เสียความรู้สึกมากกว่า เราไม่คิดว่าเราจะมีเรื่องต้องขึ้นโรงพักแบบนี้เลย


วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เบลล่า เมิน คนมองภาพหน้าสดสวยด้วยแอพ

เมื่อเร็วๆ นี้สาว เบลล่า โพสต์รูปหน้าสดขณะออกกำลังให้ขึ้นอินสตาแกรม แต่ก็มีคนสังเกตว่าภาพดูสวยมากแม้จะหน้าสดเลยสงสัยว่าสาว เบลล่า ใช้แอพช่วยแต่งภาพหรือเปล่า แถมช่วงนี้เห็นฟิตหุ่นอยู่ตลอดสงสัยจะมีโปรเจกต์อะไรดีๆ หรือเปล่า

ล่าสุดได้มาเจอดาราสาว เบลล่า ราณี เคมเปน ที่ ลานเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ในงาน “รวมน้ำใจ ซับน้ำตา” เพื่อโครงการ “พัฒนาโรงเรียนและเด็ก ในชุมชน ของเด็กไทยให้กลับคืนสู่ชุมชนอย่างมีชีวิต” เลยได้สอบถามเรื่องสวยด้วยแอพ เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยให้ฟังว่า

”ช่วงนี้ออกกำลังกายบ่อยก็ไม่ได้เตรียมตัวถ่ายแบบหรอก ปกติถ้ามีโอกาสก็จะไปออกกำลังกายอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพ เรื่องหน้าสด คนไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น ออกกำลังกายหน้าก็สดไป ที่ชมว่าหน้าสดแล้วสวยก็ขอบคุณ ใช้แอพไหมก็ไม่หรอก ถ้าผ่านแอพมันจะดูออกนะ แต่ไม่ซีเรียสอะไรหรอก

สำหรับละครตอนนี้ถ่ายไป 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว เร่งถ่ายทำกันอยู่ ฉากจิ้นๆ ฟินๆ ก็มีอยู่แล้ว พอเปิดเรื่องมาก็แต่งงานกันเลย ตอนนี้งานก็แน่น 7 วันเวลาเจอพี่เวียร์ไม่มีเลย ได้คุยบ้าง แต่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้ถ่าย “ปดิวรัดา” และ”วิมานเมขลา” เล่นกับพี่แอนดริวก็สนุกดี พี่แอนดริวเขาจะขี้เล่นชอบอำชอบเล่นมุข

เรื่องเรียนปริญญาโทตอนนี้ก็กำลังจะจบปี 1 ต้องเรียนอีก 2 ปีรับว่ายากมาก ตอนแรกไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้ การบ้านค่อนข้างเยอะแต่เน้นเป็นรายงานกลุ่มเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไร เราพยายามแบ่งเรื่องเรียนกับเรื่องงานไม่ให้กระทบกัน ว่างๆ ก็รีบทำการบ้านแต่เนิ่นๆ รับว่าเหนื่อยแต่ก็สู้

เรื่องขึ้นบ้านใหม่ จริงๆ ก็ทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ไปแล้ว ตอนนี้กำลังย้ายของจากบ้านเก่าไปบ้านใหม่ ยังไปๆ มาๆ กับ 2 บ้านอยู่ พอไปอยู่แล้วรู้สึกดีใจภูมิใจมากๆ เลย เรื่องฮวงจุ้ยไม่ได้ซีเรียสถึงขั้นนั้นแต่ก็มีเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าบ้านให้เป็นมงคลบ้าง ที่ไม่ซีเรียสเรื่องนี้เพราะบ้านหลังนี้เขาดูมาอยู่แล้วประมาณหนึ่ง”

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ซี-ศิวัฒน์ สำนึกผิดเหตุหลุดหยาบในคลิปแจงดราม่า เอมมี่ยี่สิบห้าตั๋วคอนเสิร์ต

เป็นเรื่องดราม่าที่กำลังอยู่ในกระแสทีเดียวสำหรับกรณีที่สาว เอมมี่ มรกต กิตติสาระ เป็นคนโพสต์รูปบัตร “มารูน ไฟฟ์” ทั้งสิ้น 25 ใบแล้วประชาชนเข้ามาโวยว่าจองได้ยังไงในเมื่อบัตรขายหมดตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่เปิดจอง ทำให้หลายๆ คนปักใจว่าต้องมีการล็อกบัตรหรือไม่ก็ซื้อบัตรโก่งราคามาแน่ๆ ทำให้เพื่อนสนิทอย่าง เอมี่ กลิ่นประทุม และ ซี ศิวัฒน์ ออกมาโต้กับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยที่หนุ่ม ซี อัดคลิปชี้แจงบน Youtube ด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างแรงพอสมควรเนื่องจากโกรธที่ถูกหาว่าโกงชาติ ทำให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิม


ล่าสุดหนุ่ม ซี ก็ได้เปิดโต๊ะที่สตูดิโอ JSL ลาดพร้าว 107 แถลงประเด็นที่อัดคลิปดราม่า “เอมมี่ มรกตกับตั๋วคอนเสิร์ต25 ใบ” โดยเจ้าตัวได้กล่าวว่า


”กับเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เราได้รู้ว่าเราไม่ควรไปโกรธคนที่โพสต์เรื่องซื้อบัตร “มารูน ไฟฟ์” เลย เพราะถ้าเราทำถูกต้องตั้งแต่แรกทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น เขาคงไม่มาตำหนิเรา ภรรยา และบุพการี ดังนั้นเรื่องทุกอย่างมันก็ย้อนกลับมาว่าเราเป็นคนผิดเองตั้งแต่แรกที่เราปล่อยให้ความโกรธไปยึดติดกับคำว่า “โกงชาติ” ซะจนลืมมองว่าประชาชนต้องการจะบอกให้เราปรับทัศนคติในเรื่องนี้ ก็ยอมรับผิดที่ใช้ชีวิตแบบนี้ซะจนชินในความอยากได้อยากมี ทำในสิ่งที่ผิดซะจนเชื่อว่ามันถูก อยากได้อะไรพอมีคนหิ้วเข้ามาขายในราคาที่แพงกว่าก็ยอมซื้อ ก็วอนขอให้ทุกคนอย่าด่าถึงพ่อแม่เลย ส่วนเรื่องบัตรที่หลายๆ คนมองว่าเราล็อกตั๋วก็ขอยืนยันว่าพวกเราไม่ได้ล็อกบัตรแน่นอน หลังจากนี้ก็คงไม่ไปดูคอนเสิร์ตแล้ว อาจจะแจกบัตรให้คนอื่นแทน”


วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ป้อง ยันสถานะโสด เคลียร์ภาพหลุด มะนาว นั่งเฝ้าขอบสนาม

ทำเอาพระเอกหนุ่ม ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ต้องรีบออกมาเคลียร์ข่าวเม้าท์ที่ว่า มีสาวดีกรีนางเอกวิกหมอชิต มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์ ตามไปเฝ้าถึงขอบสนามฟุตบอล งานนี้เจ้าตัวได้ชี้แจงให้ฟังว่า


ผมร่วมงานกับสยามกีฬาบ่อย แล้วได้เป็นคอลัมนิสต์ให้อยู่ปีนึง มะนาวก็เป็นมิสทีนสายของสยามกีฬาอยู่แล้ว เวลาไปเตะก็ไปที่สนามเอสซีจีเมืองทองฯ เวลามีจัดทุกครั้ง เมื่อผมว่างก็ไปเสมอถือเป็นทีมสยามกีฬา แล้วมะนาวก็เป็นผู้จัดการทีมเลยได้เจอกัน ยืนยันว่าน้องไม่ได้ไปเฝ้าครับเพราะน้องเขาสนิทกับพี่ๆที่นั่นทุกคนเลย ส่วนตัวไม่ได้จีบครับ เดี๋ยวจะหาว่ากินเด็กอีก น้องเขาก็สวยน่ารัก สเปกทุกคนก็คุยกันเป็นเพื่อนกันไปก่อน เราไม่ได้อะไรขนาดนั้น ไม่อยากการันตีอนาคตเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น


ปกติคุยไลน์กันไม่เยอะ ถ้าช่วงไหนกีฬาเยอะ ข่าวช่วงไหนแรงๆ มันๆ นักเตะย้ายตัว น้องเขาเองก็คอกีฬา แฟนทีมแมนยูฯ ผมก็อาเซน่อล ก็คุยบลัฟกัน ถามว่าชวนไปกินข้าวไหม ส่วนใหญ่ไปเป็นกลุ่มกับพวกพี่ๆ

ส่วนภาพกับสาวน่าจะเป็นเพื่อนกัน เวลาเดินก็เดินธรรมดาไม่มีการจับมือถือแขนเพราะเราคบทุคนเป็นเพื่อนหมด บางทีแค่ช็อตเดียวมันไม่ได้เล่าเรื่องราวได้ทุกอย่าง ยืนยันสถานะตอนนี้โสด



ที่มา รักดารา สยามดารา