วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ตาล กัญญา ปลงโดนแฟนคลับ อั้ม จวกเลียนแบบแหกขาลงรถ

ตาล กัญญา ลั่นไม่คิดเลียนแบบและไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้กับ อั้ม เซ็งเจอแฟนคลับอั้มจวกแหลกเป็นแค่นางเอกละครเย็นดังไม่เท่า หวังเกาะกระแสดังเลยแหกขาลงรถเลียนแบบ อั้ม พัชราภา 


   
หลังจากที่ ตาล กัญญา รัตนเพชร์ นักแสดงช่อง 7 ถ่ายคลิปในไลโปทวิน ซึ่งช่วงหนึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นตอนที่ตาลนั่งอยู่บนรถและก็ก้าวลงจากรถ จังหวะที่ก้าวลงนั่นเองที่ขาก็ดันไปแหกเกือบเห็นหวอ ซึ่งเป็นท่าเดียวกับที่ อั้ม พัชรภา ซูเปอร์สตาร์คนดังเคยพลาดโชว์ลิงมาแล้ว แถมคู่นี้ยังเป็นคนเคยรักของ แอมป์ พิธาน คนนึงแฟนเก่า คนนึงแฟนปัจจุบัน งานนี้เลยกลายเป็นประเด็นเลยทีเดียวว่า ตาลอยากเลียนแบบเกาะ อั้ม ดัง ทำเอาแฟนคลับอั้มเข้ามาโพสต์จวกแหลกกันเลยทีเดียว
     
"ก็นาง อยากเป็นซุปตาร์บ้างไง เป็นดารามาตั้งหลายปี เล่นละครมาตั้งหลายเรื่อง ไม่เห็นดังสักที ล่าสุดเป็นแค่นางเอกละครเย็น ทำยังไงก็ขึ้นมาเป็นนางเอกหลังข่าวไม่ได้หรอก เชื่อเหอะ"
     
ส่วนอีกคอมเม้นท์นึง บอกว่า
" อย่ามาเทียบกับ อั้ม และ เจนี่ เลย สองคนนั้น เขาลอยลำไปแล้ว ไม่ใช่เขาจะสวยอย่างเดียว เขาฉลาด เขาเก่ง เขาดัง ข้อหลังนี้สำคัญมาก เลยมีแต่ผู้ชายวิ่งมาประเคนให้เขาเอง ถ้าเขาจะอวดคงไม่แปลกมั้ง"
     

โดยสาว ตาล กัญญา ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า    
"เรื่องคลิปนี้จริงๆ มันคืองานชิ้นนึงของตาล ไม่ได้คิดว่าจะไปเลียนแบบใครอะไรเลย มันคงบังเอิญตรงที่ท่านั่งรถลงจากรถ แล้วมันดูแว๊บๆ แล้วไปเหมือนพี่อั้ม ที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว แต่ความเป็นจริงถ้ามองดีๆก็จะรู้ว่า ผู้หญิงท่าจะก้าวขึ้นรถลงจากรถมันก็จะเหมือนๆ กัน ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”
     

“ยืนยันค่ะไม่เคยเลียนแบบพี่อั้มค่ะ ตาลจะเอาอะไรไปสู้พี่อั้ม ตาลก็เป็นแบบฉบับของตาลไม่ได้เลียนแบบใคร แต่คนชอบจับตามองว่าตาลชอบเลียนแบบพี่อั้ม เราต่างคนต่างมีสไตล์ของตัวเอง ส่วนเรื่องที่ตาลเคยคบกับพี่แอมป์ พิธาน แฟนพี่อั้ม อันนี้คือสิ่งที่ตาลไม่เข้าใจเหมือนกัน เรื่องตาลจบไปตั้งนานแล้วจนพี่อั้มกับพี่แอมเค้ามาคบกันแล้ว ตาลเองก็ไม่เคยติดต่อกับพี่แอมเลยเป็นชาติแล้วมั้ง เรื่องนี้มันก็ควรจะจบได้แล้ว ตาลเองก็มีแฟนแล้ว ไม่น่าจะโยงเรื่องมาถึงกันแล้ว ก็แอบเหนื่อยใจนิดๆ ว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เคยคิดไม่เลียนแบบใคร แต่เราดับโดนว่าเสียๆ หายๆ ก็ได้แต่ทำใจ ปลงๆ ค่ะ คงไม่ออกความเห็นอะไรมากไปกว่านี้ เพราะพูดออกไปก็เหมือนไม่มีใครได้ยินอยู่ดี”
   
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โดม ผวาสาวใหญ่บุกบ้าน เผยทำใจคดีเพจแอนตี้ เมทัล ไม่คืบ

ทำเอาหนุ่มหล่อขั้นเทพ โดม ปกรณ์ ลัม ตกอกตกใจกันทั้งบ้าน เมื่อจู่ๆแฟนคลับสาวใหญ่วัย 40 กว่าบุกเข้ามานั่งรอถึงในบ้าน แถมยังตามไปทุกที่ที่มีงาน โดยหนุ่ม โดม เผยว่าหญิงสาวรายดังกล่าวน่าจะมีอาการไม่ปกติเพราะมีแววตาขวางเหมือนคนเมา อีกทั้งยังพูดจาวกวนว่าตนเป็นคนไลน์ชวนให้มาหา ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่ได้แจ้งความไว้แล้ว


พอมีโอกาสได้เจอหนุ่มโดมมาร่วมกิจกรรม “แชทได้บุญ แชร์ได้กุศล” หรือ “Chat & Charity” ณ สภากาชาดไทย เจ้าตัวได้เผยถึงเพจแอนตี้หวานใจสาว “เมทัล สุขขาว” ที่นับวันยิ่งใช้ถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย
“ช่วงหลังไม่ได้ดูแล้ว ช่วงแรกที่ดูก็ปะปนกันหลายอารมณ์ บางอารมณ์ก็สงสัยว่าทำไมว่างจัง โกรธเหมือนกันเพราะเราก็มนุษย์คนนึง หลังๆก็ไม่ได้ตามแล้วเพราะรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ ที่ปล่อยไม่ใช่ว่าเพื่อให้น้องมีกระแส ถ้ากระแสจากการที่มีเพจมาว่า ผมว่ามันน่าจะใช่กระแสที่ดี แต่การที่จะจับคนที่สร้างเพจขึ้นมาก็ลำบากครับเพราะอย่างเฟซบุ๊กหรืออย่างอื่นก็พอเป็นไปได้ ยังมีหมายเลขของเครื่องอย่างแน่นอน พอมาเป็นแอพพลิเคชั่นอย่างไอจีมันยากมาก กระทรวงเทคโนโลยีเองก็บอกเองว่ายังไม่เคยมีเคสไหนในเมืองไทยที่จับได้เลย จริงๆเรื่องนี้ผมแจ้งไปนานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่คืบอะไรท้ายที่สุดแล้วจะจับได้หรือไม่ได้ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือใจเราต่างหากที่เป็นสุขหรือเปล่า ถ้าเรายังโกรธต่อให้จับได้ก็ไม่จบเพราะพวกนี้สร้างขึ้นมาได้เรื่อยๆ ผมก็ให้อภัยไป”

“สำหรับเมทัลเองก็ใจเย็นขึ้นเยอะ ไม่ได้โกรธอะไร ในฐานะที่เขาเป็นลูกผู้หญิง มีคุรพ่อคุณแม่ ผมก็เห็นใจ บางทีเขาก็แคร์ครอบครัวเขามากกว่า ที่ผมลงไอจีปกป้องน้องเพราะผมรู้สึกว่าคนบางคนตัดสินคนผ่านจากมือถือหรือดูจากไอจีของเขาโดยที่ไม่ได้พูดกันสักคำเลย มันตลกจริงๆ ก็อยากทุกคนได้ลองสัมผัสกับตัวน้องจริงๆเหมือนกับที่ผม ครอบครัวและคนอีกมากมายที่เคยได้สัมผัส ผมก็เขียนไปกลางๆไม่ได้จี้ไปทางไหน ในฐานะที่เราเป็นคนใกล้ชิดและมองเห็นเขาในอีกมุมนึง ก็รู้สึกว่าอยากจะเขียน คนที่เข้ามาคอมเม้นท์ก็รู้จักเราในมุมที่เราเห็น”

“สำหรับเพจแอนตี้ ถ้าผมจะฝากอะไรไปก็เหมือนต่อความยาวอีก ทุกวันนี้ผมปล่อยเลยครับ อยากให้เขาใช้คำที่หยาบที่สุด เพราะทุกคนมองเขาด้วยความรู้สึกว่าน่าสมเพชมากกว่า อยากให้เขาเขียนมาเยอะๆเลย เพราะนั่นคือไฟที่เผาใจเขาเอง เขาต้องทนทุกข์ทรมานแน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่ตามมาเฝ้าผม เฝ้าน้อง ดูว่าเราทำอะไรแล้วก็คิดคำหยาบคายมาตลอด”

ทำให้ความรักมั่นคงขึ้นไหม? 
“เราคบกันด้วยเหตุผล มองด้วยความจริง อะไรผิดก็ตักเตือนกัน อะไรที่ดีอยู่แล้วหรือว่าใครสร้างเรื่องให้เราก็ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งตาม”

ช่วงแรกที่คบกันก็มีหมอดูออกมาทำนายว่ารักจะไปไม่รอด จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่? 
“อย่าเพิ่งพูดไปขนาดนั้น (หัวเราะ) แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ นี่ก็คบกันมาเกือบ 2 ปีเราก็ยังคบกันอยู่ เริ่มมองถึงอนาคตมากขึ้นแต่ขอทำงานเก็บเงินอีกสักปีนึงก่อนครับ ถ้าทุกอย่างโอเคก็อาจจะไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่เขา แต่ก็อยากให้น้องได้ใช้ชีวิตก่อน เพราะเขาก็เพิ่งเรียนจบไม่นาน”

กับกรณีที่มีแฟนคลับสาวใหญ่ขับรถตามไปถึงบ้าน?
“พี่คนนี้เพิ่งรู้จักกัน ไม่ใช่แฟนคลับรุ่นเดอะในอดีตนะครับ ได้เจอพี่เขาที่กองมิวสิควิดีโอก็ไม่นึกอะไร คิดว่าทราบข่าวแล้วมาร่วมถ่าย ครั้งที่ 2 เขามานั่งอยู่ข้างในบ้านของผมเลยซึ่งคนในบ้านเปิดประตูให้เพราะนึกว่าเป็นญาติคุณแม่ เราก็ตกใจเพราะตอนนี้ประมาณ 3 ทุ่มแล้ว เราเองก็กำลังซ้อมดนตรีกับพี่ๆ อีกวันนึงเขาตามผมไปงานบิ๊กเม้าเท่น ผมลงมาจากที่พักที่โบนันซ่าก็เจอเขานั่งอยู่ที่ล็อบบี้เลย ทุกครั้งเขาจะมีการพูดวกวนว่าผมไปไลน์ชักชวนเขามา เราตกใจว่าไปชักชวนได้ยังไง มาทราบทีหลังว่ามันเป็นออฟฟิศเชียลไลน์ของผม ที่เขาพิมพ์หาแล้วมีออโต้เท็กซ์ในการตอบกลับไป ผมก็เลยพยายามสาธิตให้เขาดูว่าเวลาผมพิมพ์หาออฟฟิศเชียลไลน์ของผมก็มีการตอบกลับ เขาก็ไม่พยายามยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง”

“ครั้งสุดท้ายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขามาดักรอหน้าบ้านผมประมาณตี 1 แล้วคุณแม่เพิ่งไปงานกลับมา แล้วเจอผู้หญิงคนนี้เปิดประตูแล้วตรงปรี่มาหาคุณแม่เลย ตาก็แข็งๆ ไม่รู้ว่าเมาอะไรหรือเปล่า คุณแม่เลยถอยรถยาวออกมาปากซอยเลย แล้วโทรเรียกผม สุดท้ายเราก็ไปเจอเขาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ด้วยว่าคุณมาบ้านผมตอนนี้มีจุดประสงค์อะไร เขาก็มีปฏิกิริยาที่แปลกๆมาก เราก็พูดตักเตือนไปเลยว่าทำแบบนี้อีกเพราะมันคือการบุกรุกยามวิกาล ผมก็บอกจะแจ้งความและก็ต่อว่าคนที่ขับรถแท็กซี่พาเขามา แต่เขาก็พูดเรื่องเดิมว่าไลน์ชวนเขามา คุณแม่ก็ไปแจ้งความแล้ว เรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ที่บ้านก็ติดไว้เยอะมากเลย เพราะคุณแม่ก็ระวังเรื่องนี้ บ้านก็ค่อนข้างเปลี่ยวเหมือนกัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ยังไม่มาอีกครับ”

“ผมว่าเขาไม่ปกติครับหรือจะแกล้งวกวนก็ไม่รู้ ถามเหมือนกันว่าเขาต้องการอะไร ในมุมที่เขาเผลอตอนไปกองเอ็มวี เขาก็มีแววตาเหมือนชื่นชมเรา พอบางช่วงอย่างตอนกลางคืน ตาเขาก็เหมือนเมาอะไร แฟนคลับของผมทุกคนกลัวครับ บอกให้เราระวัง เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วเคยเกิดเรื่องมากแล้วทีนึงกับแฟนคลับลักษณะนี้ สุดท้ายจบด้วยการเอาอาวุธมา”


วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หมาก ไม่ติดใจ แม่มิ้นต์ โป๊ะแตกตามด่าในไอจี บอกเรื่องจบไปนานแล้ว

ดูเหมือนรอยบาดหมางระหว่างพระเอกหนุ่ม หมาก-ปริญ สุภารัตน์ และนางเอกร่วมช่อง มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ยังคงไม่จางลงง่าย ๆ เมื่อล่าสุดมีชาวเน็ตแคปหน้าจอไอจีออกมาแฉว่า แท้จริงแล้วแอคเคาท์ไอจีปริศนาที่ตามไปคอมเมนต์ต่อว่าหนุ่มหมากในไอจีส่วนตัวนั้นเป็นฝีมือของ แม่เมย์ แม่ของนางเอกสาวจริง เนื่องจากอีกฝ่ายโป๊ะแตก ไปคอมเมนต์ไอจีตอบโต้แฟนคลับที่ปกป้องหนุ่มหมาก โดยใช้ชื่อ @maysayaa ซึ่งเหมือนชื่อไอจีเก่าแม่ของมิ้นต์ ทำให้หลายคนมองว่า แม่เมย์ ลืมสลับชื่อไอจี 


โดยล่าสุดหนุ่มหมากเปิดเผยถึงประเด็นนี้ให้ฟังว่า
“สำหรับเรื่องนี้เอาเป็นว่าผมได้ข่าวมาเหมือนกันครับ มีคนมาเล่าให้ฟัง ส่วนตัวเราก็ไม่ค่อยได้สนใจตรงนั้น คือเราจบเรื่องนั้นไปแล้ว ตอนนี้เราก็เดินเลยมาไกลมากเกินกว่าที่เรามองกลับด้วย ถามว่าผมรู้สึกว่าทำไมฝ่ายนั้นไม่จบสักทีรึเปล่า คือสำหรับผมมันจบไปแล้ว ไม่โกรธแล้วครับ เราทำอะไรอยู่กับตัวเอง ทำอะไรที่เรามีความสุข ดีกว่าที่เราจะไปมองว่าทำไมเขายังไม่จบ ทำไมเขาทำแบบนั้นแบบนี้ เรามาทำอะไรที่เรามีความสุขดีกว่า ผมอยากบอกทุก ๆ คนนะว่าการใช้ชีวิตประจำวันเราต้องคิดถึงตัวเองว่าสิ่งไหนที่เราทำแล้วมีความสุขโดยที่ไม่เบียดเบียนใครก็ทำไปเถอะ ซึ่งตอนนี้ผมก็ทำอะไรที่มันมีความสุข และไม่ได้สนใจเรื่องที่มันมาทำร้ายจิตใจแล้ว ณ วันนี้ผมสบายใจมากครับ”

“ส่วนเหตุการณ์นี้จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับมิ้นต์กลับมาเป็นเหมือนเดิมยากขึ้นรึเปล่า สำหรับผมเหมือนเดิมนะ อย่างที่บอกเราเคยคุยกันแล้วว่ามีปัญหาอะไรกัน และตอนนั้นเราก็เคลียร์หมดแล้ว และพอเคลียร์เสร็จผมก็โทรฯ ไปหาน้องเลย บอกเขาว่าคราวหลังถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้โทรฯ มาคุยกันได้เลย ณ วันนี้ผมไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับมิ้นต์นะ ผมว่าน้องเขาก็คงถ่ายละครของเขาไป ส่วนที่บอกว่ามิ้นต์ไม่อยากร่วมงานกับผม จริง ๆ ผมไม่เคยได้ข่าวเลยว่าจะได้เล่นละครกับน้องมิ้นต์ครับ”

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ใหม่ ดาวิกา เชื่อ เอ-ศุภชัย ไม่ได้โพสต์เหน็บตน ยังร่วมงานกันได้แน่นอน

นึกว่าเรื่องของ ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ กับอดีตผู้จัดการส่วนตัว เอ ศุภชัย จะจบไปแล้วซะอีก แต่หลังจากที่สาว ใหม่ ไปร่วมงานอีเว้นท์หนึ่งร่วมกับ อั้ม พัชราภา ก็ทำให้เกิดประเด็นขึ้นอีกเพราะ เอ ได้โพสต์รูปสาว อั้ม และเขียนแคปชั่นใต้ภาพไว้ว่า "สวยจริง สวยจัง สวยทรงพลัง สวยจากข้างใน ไปถึงข้างนอก สวยขึ้นตลอด ไม่เคยพยายามข้ามหัวใคร จิตใจดีจัง จะฝันถึงเธอ555" แถมในเวลาเดียวกัน พี่เกล้า ผู้จัดการส่วนตัว ใหม่ ก็โพสต์รูปภาพของสาว ใหม่ ขึ้นอินสตาแกรมด้วยเช่นกัน ทำเอาหลายคนจับโยงว่าทั้งคู่มีปัญหากันหรือเปล่า 


ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอ “ใหม่” ในงาน “Friends for Friends” ณ เอเทรียม 2 ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า

”มีคนเอามาให้ดู เข้าข้างตัวเองก่อน ไม่ใช่ตัวเองหรอก ก็ยังไม่คิดอะไรค่ะ ที่บอกไปเจอพี่อั้มก็ใช่ค่ะ ไปร่วมงานนั้นก็เจอพี่อั้มด้วย แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ ก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเราก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่เรา ถึงใครจะคิดยังไงก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับพี่เอเลยค่ะ กับคำที่ว่า “สวยไม่ข้ามหัวใคร” ก็เพราะคำนี้แหละเลยรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง(หัวเราะ)”

”ที่พี่เกล้าขึ้นรูปหนูหลังจากที่ฝั่งโน้นขึ้นจริงๆ พี่เกล้าเขาอัพรูปเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ เป็นผู้จัดการหนูก็ต้องลงรูปหนู ส่วนจะเหน็บแนมไหมอันนี้ต้องไปถามพี่เกล้าเองค่ะ แต่พี่เกล้าจะลงรูปหนูเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งรูปดีและไม่ดีค่ะ ที่บอกว่าเหมือนพี่เกล้าออกมาปกป้องหนูคนเลยมองว่าทะเลาะกันก็ไม่น่าจะใช่นะคะ พี่เกล้าเขาอยู่เคียงข้างหนูอยู่แล้ว”

”ส่วนที่บอกว่าแฟนคลับหนูไม่ชอบฝั่งพี่อั้มอันนี้หนูว่ามันผ่านไปแล้วค่ะ อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นเลยค่ะ ตอนนี้ก็ทำงานและแฮปปี้กับชีวิตดี เราก็มาในสเต็ปที่เราตั้งใจทำงานมากๆ เพื่อให้มีวันนี้ เรื่องอดีตเลยไม่อยากเอามาคิดแล้วค่ะคือหนูไม่อยากพูดขึ้นมาอีก เพราะเรื่องมันไม่มีอะไรเลย การที่เราสนใจเรื่องนี้เดี๋ยวมันจะทำให้เป็นเรื่องขึ้นอีก ก็ปล่อยให้มันผ่านไปดีกว่าค่ะ กับพี่อั้มก็ไม่ได้คุยค่ะ แต่วันนั้นคุยกับพี่อั้มแป๊บเดียว ถามเรื่องน้องหมาด้วย”

ต่อไปถ้ามีงานกับพี่อั้มอีก กล้ารับงานไหม? 
"กล้ารับนะ ก็หนูรับไปแล้ว(หัวเราะ) เอาจริงๆ กับเรื่องเก่าหนูเคลียร์แล้วนะ หนูไม่มีอะไร ถ้าเจอพี่เอก็เจอกันได้ปกตินะคะ คือไม่มีอะไร มันผ่านไปแล้ว"


วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สิบฉายาดารา โดยสมาคมนักข่าวบันเทิง ประจำปีนี้

10 ฉายาดารา ประจำปี 2557 ที่คัดเลือกโดย 30 สำนักข่าวบันเทิงทั้ง หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ ต่างๆ โดยให้ความสนใจเสนอฉายาดารา 71 คน รวมทั้งสิ้น 327 ฉายา โดยใช้เวลาประชุมลงมติกว่า 2 ชั่วโมง คัดเลือกได้ 10 ฉายา ดังนี้


1. หมาก ปริญ  สุภารัตน์  "ฉายา ป๋าหมากกระชากหงอก"
จากการแถลงข่าวยอมรับว่าต่อว่าคุณแม่ของ "มิ้นต์ ชาลิดา  วิจิตรวงศ์ทอง" ผ่านการสนทนาแอพพลิเคชั่นไลน์จนกลายเป็นมหากาพย์วิวาทะสร้างรอยร้าวให้แก๊งสี่หัวใจแห่งขุนเขาเป็นอันต้องแยกย้าย และจากเหตุการณ์ดังกล่าวพระเอกหนุ่มยังถูกวิจารณ์ว่าเป็นคนก้าวร้าวขัดกับหน้าใสๆ

2. คิม คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ  "ฉายา แบ๊วเอชดีเบอร์รี่สี่มิติ"
ใช้ความแอ๊บแบ๊วใสๆ ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธในช่วงแรกเรื่องรักซ้อน ขัดแย้งกับพฤติกรรมที่หลายคนเห็นแววตาแห่งความสุขระหว่างร่วมงานกับพระเอกคู่ขวัญ "หมาก ปริญ" พร้อมกับสะบั้นรักกับแฟนหนุ่มผู้จัดละคร "เจ็ท ณัฐพงศ์" ขณะที่ทั้งสองหนุ่มทำงานร่วมกันในกองถ่ายละคร "ต้นรักริมรั้ว" และในที่สุด "หมาก – คิม" ก็โชว์ความหวานออกสื่อแบบไม่ยืนยันด้วยคำพูดแต่แสดงออกผ่านพฤติกรรมสุดหวานที่คมชัดสัมผัสได้เหมือนดูหนังสี่มิติ

3. วาววา ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด  "ฉายา ดาวเทียมไม่เจียมตัว"
หลายพฤติกรรมสุดเอือมระอา จนผู้จัดละครและผู้ใหญ่ในวงการถึงกับเอ่ยปากผ่านสื่อเรื่องวินัยและมารยาทในการทำงาน จนถูกเปรียบเทียบว่าขนาดเพิ่งเข้าวงการยังสร้างวีรกรรมไว้ขนาดนี้  ทั้งที่ยังไม่ทันเป็นดาวจรัสแสงก็แสดงความเป็นตัวตนออกมาจนทำให้เพื่อนร่วมงาน และทีมงานเมินหน้าหนี

4. เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์  "ฉายา มือฉกตกสวรรค์"
หลังเป็นข่าวใหญ่เมื่อปีที่แล้วด้วยการจดทะเบียนสายฟ้าแลบกับ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" ขึ้นแท่นเป็นมาดามปากน้ำ พร้อมมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง จนทุกคนมองว่าเป็นคุณนายนักการเมืองสามารถใช้ชีวิตเหมือนขึ้นสวรรค์ แต่ผ่านไปไม่ถึงปีเจนี่ต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ ถึงขั้นหนีความจริงไปพักใจไกลถึงเมืองนอก หลังจดทะเบียนหย่าเป็นแม่ม่ายพ่ายรัก กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ อีกครั้ง

5. เสก เสกสรรค์ ศุขพิมาย  " ฉายา ร็อกไวเลอร์"
จากกรณีวิวาทะกับภรรยา "กานต์ วิภากร" ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คจนกลายเป็นขี้ปากสังคม พร้อมยืดอกรับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนและเคยลงไม้ลงมือกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงที่ฟ้องหมอที่เคยรักษากับภรรยา และตอบโต้คู่กรณีทุกเม็ดชนิดกัดไม่ปล่อย เปรียบเสมือนสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสายพันธุ์โหดที่กัดไม่ปล่อยเช่นกัน


6. โฬม พัชฏะ นามปาน " ฉายา หล่อลิ้นรัว"
ปล่อยเนื้อปล่อยตัวออกงานขณะที่ร่างกายไม่พร้อมทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อพระเอกมาดเนี้ยบปล่อยอาการรั่วหลุดคุมกิริยาไม่อยู่จนพูดไม่เป็นคำ สร้างความขำและเหวอให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ สุดท้ายเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาแก้อักเสบและพักผ่อนไม่เพียงพอ


7. บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี  " ฉายา ซือเจ๊สั่งลุย"
ไม่ว่าจะเกิดปัญหาสังคมเรื่องไหน "บุ๋ม" ก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างเสมอต้นเสมอปลาย ล่าสุดได้ใจสังคมกับกรณีรณรงค์ล่ารายชื่อแก้กฎหมาย "ข่มขืนต้องประหาร"  ทำให้สังคมตื่นตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมเอ่ยปากชมว่า "ปนัดดา" เป็นนางงามแถวหน้าที่กล้าชนทุกสถานการณ์

8. โย ยศวดี หัสดีวิจิตร – บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์   "ฉายา เพื่อนซี้บัญชีเดือด"
ความสัมพันธ์สุดซี้ของทั้งคู่ต้องทลายลงจากปัญหาธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่ทำร่วมกัน โดยมุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่ลงตัว จนในที่สุดทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อ ถึงขั้น "บี" ประกาศกร้าวว่าไม่ขอสุงสิงเป็นแค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น


9. ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล  "ฉายา คุณพ่อจนมุมซุ่มกิน"
ปล่อยให้ภาพปริศนาฝ่ายหญิงอยู่บนเตียงคลอดและอุ้มทารกน้อยเป็นกระแสข่าวลือทำงานอยู่หลายวัน จน "ไมค์" ทนกระแสรุมเร้าไม่ไหวประกอบกับหลักฐานมัดตัวแน่นถึงยอมตั้งโต๊ะแถลงข่าวยอมรับว่าทำนางแบบสาว "ซาร่า คาซิงกินี" ท้อง ขณะที่ครอบครัวของ "ไมค์" ยังแคลงใจจนมีการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ชัดว่าทารกน้อยเป็นลูก "ไมค์" จริง

10. บอม ธนิน มนูญศิลป์ – ริชชี่ อรเณศ  ดีคาบาเลส   " ฉายา คู่จิ้นหินแกรนิต"
เพราะผลงานการแสดงของทั้งคู่ที่เล่นได้เป็นธรรมชาติสุด ๆ ชนิดที่หินและต้นไม้ต้องหลีกทางให้เลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ "บอม" โดนวิจารณ์เละเรื่องการแสดงในละคร "คิวบิก" ส่วน "ริชชี่" ก็โดนตำหนิกับผลงานหนังเรื่องแรก "คู่กรรม" ครั้นพอสองคนนี้โคจรมาเจอกันในละคร "สวยร้ายสายลับ" ทำเอาคนดูกุมขมับว่าจะเป็นอย่างไร แล้วก็ไม่ต่างจากที่คิดไว้เพราะทั้งคู่ผนึกกำลังความแข็งยกกำลังสอง เหมือนเป็นหินแกรนิตที่มีเนื้อแน่นเสมอแข็งแรงทนทาน เช่นเดียวกับการแสดงของทั้งคู่ที่แข็งทนทานจริง  ๆ

ที่มา สยามดารา

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เอม ยอมรับเป็นคนในภาพหลุดล่อนจ้อนทำสปา จ่อฟ้องคนปล่อยภาพ

หลังมีภาพหลุดของหญิงสาวรายหนึ่งขณะนอนเปลือยบนเตียงจนเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล จนชาวเน็ตต่างวิจารณ์กันไปว่าหญิงสาวคนดังกล่าวมีใบหน้าคล้ายดาราสาว "เอม" เจษยา  เวียงเกตุ


ล่าสุดวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสยามดารารายวันได้ต่อสายตรงไปสอบถามความจริงกับดาราสาว เอม เจษยา เวียงเกตุ  เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าบุคคลในภาพนั้นใช่เธอหรือไม่ ? ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า


"เรื่องภาพหลุดทราบแล้วค่ะ ยอมรับว่าคนในรูปคือหนูเอง  คือภาพอันไหนที่หนูเป็นคนถือกล้องนั้นคือหนูถ่ายเอง  อันไหนที่ไม่ได้ถือกล้องคิดว่าน่าจะโดนแอบถ่าย  ซึ่งภาพหลุดที่ออกมาเป็นตอนที่หนูไปสปาแห่งหนึ่งกับน้องผู้หญิงอีกคนซึ่งรู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่นัก วันนั้นสปาห้องมันเต็มน้องคนนั้นก็เลยย้ายมาทำสปาในห้องเดียวกันกับเอม  และน้องคนนั้นก็ได้มายืมโทรศัพท์หนูไปเปิดฮอตปอตร์ขอแชร์สัญญาณไว-ไฟ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร  แต่พอมามีภาพหลุดเอมก็ได้ถามน้องคนนั้นแล้วว่ามันหลุดออกมาได้ยังไง น้องเค้าก็บอกว่าเค้าเพิ่งทำไอพอต หรือไอแพด  อะไรสักอย่างนี่แหละหายไป ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ภาพมันหลุดออกมา  และมาถึงวันนี้หนูก็ติดต่อน้องคนนั้นไม่ได้แล้ว เหมือนปิดมือถือหนีไปแล้ว"


แล้วจะดำเนินคดีกับน้องคนนั้นหรือไม่?เพราะมีแนวโน้มว่าเป็นคนแอบถ่ายแล้วนำภาพไปปล่อยในโลกโซเชียลก็เป็นได้

"หากภาพที่หลุดไปนั้นมันสร้างความเสื่อมเสียไปมากกว่านี้ก็คงต้องฟ้องร้องกัน เพราะเอมก็เป็นคนไม่ยอมคน เรื่องผลกระทบกับงานตอนนี้มีละครต้องถ่ายอยู่สองเรื่อง ก็คงต้องเข้าไปขอโทษผู้ใหญ่ที่มีภาพหลุดแบบนี้ออกมา ก็คงต้องขอโอกาสทางผู้ใหญ่" 

ที่มา  สยามดารา

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิว ปัดถูก แพทริเซีย เขม่น ยัน สน แค่เพื่อน

หลังมีภาพคู่กันในงานปาร์ตี้วัดเกิดผู้จัดการส่วนตัวหนุ่ม สน ทำเอาข่าว วิว วรรณรท สนธิไชย กับ สน ยุกต์ ส่งไพศาล ที่เงียบไปสักพักกลับมามีข่าวคู่กันอีกจนได้ โดยเหล่าแฟนคลับจับตามองว่าสาว วิว จะมีปัญหากับ แพทริเซีย กู๊ด หวานใจของหนุ่ม สน หรือเปล่า 


ล่าสุดได้เจอ วิว วรรณรท สนธิไชย ในงาน เจ้าตัวก็พูดถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า            
“ตัววิวชอบน้องแพทมาก เห็นเขาจิ้นกันก็โอเค น่ารักดี วิวกับแพทเราเคยทำงานด้วยกัน ก็รู้จักแม่เขาด้วย เราก็ตามเขา น้องน่ารักมาก ขอร้องอย่ามีข่าวมาชงกันเลยค่ะ กับสนเราก็คือเพื่อนกัน เจอกันก็ทักทายตามปกติ เรื่องจิ้นกันนั้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เราก็ไม่ได้ไปถามอะไร สำหรับตัววิวไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน สนคือเพื่อนจริงๆ”

“ความสัมพันธ์กับ หน่อง ธนา ยังไม่มีอะไรคืบหน้าค่ะ ไม่หวานกว่าเดิม เจอกันน้อยลงด้วยซ้ำ ต่างคนต่างทำงานเนอะ มีไปกินข้าวกันสองคนบ้างแต่ก็ไม่อะไร คือเราอยู่กันเป็นเพื่อนแบบนี้มันสบายใจดี วิวเองก็ไม่เคยเริ่มกับใครด้วยการเป็นเพื่อน มันก็วินๆ เราจะได้ไม่หน้าแหกด้วย ตอนนี้มันยังไม่มีอะไร หลังๆ ไปคอมเม้นต์เขาน้อยลงเพราะไม่อยากจะเป็นข่าว มีไปไลค์บ้างก็พยายามจะไม่ทำอะไรให้มันเป็นประเด็น เราไม่อยากถูกจับตามองเยอะด้วยความที่มันยังไม่มีอะไร หน่องเองเขาก็อยากให้อยู่ตรงนี้กันไปก่อน ก็โตๆ กันแล้วมากกว่า เราเองก็ต่างคนต่างชิลๆ สบายๆ ไม่ได้มาระบุว่าจะต้องคุยกันแบบไหน ก็สบายใจดี เหมือนเราโดนข่าวมาเยอะมากแล้วก็เลยระวังตัว”

 หน่องบอกว่าเราเป็นผู้หญิงในสเปกเขา?
"ก็ขอบคุณที่เป็นสเปกดีกว่าเขาเกลียดเรา ให้เขาชอบเราดีกว่า ก็เหมือนเป็นเพื่อนกัน ถ้ามันไม่มีอะไรที่เข้ากันได้มันก็คงคุยกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราก็ยังคงสถานะเพื่อนกันเอาไว้"

“กับ พุฒ พุฒิชัย เราไม่ได้มีอะไรหรอก แต่มีข่าวที่ชงบางทีมันทำให้งานเข้าเพิ่มขึ้น ได้มีอะไรที่มันเกินเลย เราเลยรู้สึกว่าโอเคงั้นเราตั้งหลักของเราให้ดีๆ เผื่อมีข่าวอะไรออกมาก็จะได้รับได้ เราเองก็กลัวว่าการเป็นข่าวจถ้ามีงานเราก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว ก็น่าจะมีโอกาสได้วนมาเจอกันอีก เราก็ไม่ได้อะไร แค่อยากจะทำให้มันชัดเจนขึ้น ข้างนอกเราก็ไม่ะทำให้เขามีผลกระทบกับแฟนของเขาด้วย วิวเองร่วมงานกับพระเอกหลายคนที่เขามีตัวจริงของเขาอยู่แล้วสิ่งที่ทำได้คือพยายามไม่ยุ่งอะไรไปมากกว่านั้น ที่กองละครเราก็คุยทำงาน ข้างนอกเราก็ไม่ได้ติดต่อ เราก็ไม่ยุ่งเกี่ยวเพราะมันก็ยังไม่มีอะไรมาถึงเรา เราก็ทำแค่ตัวงานของเราพอ เราเกรงใจคนของเขา เราไม่อยากยุ่ง เราก็วางตัวเป็นผู้ร่วมงาน พยายามคุยกันเป็นกลุ่มไม่แยกไปคุยกันสองคน”

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

มิ้นต์ อ้างไม่รู้เรื่อง แม่โพสต์ด่าแฟนคลับ หมาก

หลังจากที่มีแฟนคลับ หมาก ปริญ สุภารัตน์ แคปข้อความที่มือดีโพสต์อินสตาแกรมด่าแฟนคลับหมาก “มึงนี่ติ่งงิ้ว” โดยอินสตาแกรมดังกล่าวบังเอิญมีชื่อตรงกับของ แม่เมย์ รัชนก วิจิตรวงศ์ทอง แม่ของ มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ที่เคยมีเรื่องราวกันจนฉาวสะเทือนวงการ โดยหลังจากที่ข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปว่อนเน็ตก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์แรง โดยเฉพาะ “แม่เมย์” ที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ 


ล่าสุดได้เจอ มิ้นต์ ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ในงาน “เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “12Plus Love Spell – Minnie Collection” เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า

“ได้เห็นแล้วค่ะ แต่เราไม่เข้าใจรายละเอียดอะไรมาก เท่าที่อ่านดูคือยังไม่เข้าใจว่าปลอมอินสตาแกรมอะไร ด้วยมิ้นต์ไม่ได้เก่งโซเชียลแล้วเราไม่ได้ทำการปลอมอะไรทั้งนั้น ส่วนที่มีหลักฐานออกมาต่างๆ นานาก็เห็นแล้วค่ะ ซึ่งมิ้นต์ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอย่างแท้จริง ซึ่งมิ้นต์เองก็พยายามอ่านแล้ว ด้วยความที่มิ้นต์เพิ่งรู้เรื่องเพราะกลับมาจากเขาใหญ่เมื่อวาน อ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ เอาจริงๆ เรื่องนี้มิ้นต์ก็ไม่รู้นะ ก็จริงอยู่แม่มิ้นต์ใช้ชื่อนั้นจริงๆ แต่เราไม่รู้รายละเอียดว่ามันเป็นยังไง มิ้นต์ยังไม่ค่อยเข้าใจ ทั้งคุณแม่ตัวมิ้นต์และครอบครัวมิ้นต์เองเราไม่สบายใจ เรื่องมันก็นานมาแล้ว ตัวมิ้นต์ก็ยังงง ไม่รู้ว่ามันเป็นอินสตาแกรมที่สร้างขึ้นมาอีกหรือเปล่า มิ้นต์เลยยังไม่ขอลงดีเทลอะไรเพราะตัวมิ้นต์เองยังไม่เข้าใจอะไรเลยจริง”

“แม่ยังไม่ได้พูดคุยกับสำนักไหนแน่นอน ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอีกค่ะ ปัญหานี้มันมีมายาวนานมาก เราเองไม่ได้ติดใจอะไรอยู่แล้ว เราก็ได้พูดคุยกัน แต่เราก็ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดชัดเจน”


เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแม่ที่ไปคอมเม้นต์แฟนคลับหมาก?
"ใช่ค่ะ มิ้นต์ไม่รู้รายละเอียดจริงๆ อย่างอินสตาแกรมปลอมที่ทำขึ้นมาตัวมิ้นต์เองไม่เก่งโซเชียลเลย การตั้งอินสตาแกรมใหม่ขึ้นมา มันยากหรือมันง่าย แต่การปลอมอินสตาแกรมนี่ไม่มีแน่นอน"

“กับช่องยังไม่เรียกคุยค่ะ ตัวมิ้นต์กับพี่หมากเราเป็นเพื่อนกัน ปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องเคลียร์เหมือนคราวที่แล้ว มันสามารถยกหูหากันได้ หรือไลน์ถามกันได้ แต่ก็ยังไม่มีถามกัน เท่าที่คุยกับที่ช่องเขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย พอข่าวกลับมาอีกมิ้นต์เองก็ลำบากใจ มิ้นต์กับแม่ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว อย่างมีข่าวมาตลอดว่ามิ้นต์จะไม่ร่วมงาน เราเองแบบ…เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่มีละครติดต่อมาให้เล่นร่วมกัน จากปากมิ้นต์ไม่มีแน่นอน มิ้นต์ยินดีร่วมงานได้ เราไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป คิดว่าเรายังมองหน้ากันติด”

คุยกับหมากหรือยัง?
"ยังค่ะ"

 ”เรื่องนี้มิ้นต์ยังไม่ขอพูดจริงๆ เพราะมิ้นต์กับแม่รู้จริงๆ ถ้ามีอะไรข้องใจก็ถามมาทางมิ้นต์ได้ มิ้นต์ยินดีที่จะตอบ ถ้าทางเขาไม่สบายใจก็คุยกันได้ ถามว่าถ้าจับได้ว่ามีคนปลอมอินสตาแกรมแล้วจะฟ้องไหมก็คงไม่มีหรอกค่ะ คือมิ้นต์อยากให้มันจบ เพราะปัญหานี่มีมานานมากแล้ว เท่าที่คุยกันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันแล้ว คิดว่าต่างฝ่ายต่างอยากจบ”

”กับอาการป่วยปอดรั่วตอนนี้ต้องไปหาหมอ ไปเอกซเรย์ทุกอาทิตย์ คือตอนนี้ปวดยังไม่สมานดี คุณหมอบอกไม่มียารักษา ที่ไปนอนโรงพยาบาลคุณหมอก็ไม่ได้ให้ยาอะไร แค่พักผ่อนให้แผลมันสมานเอง ต้องค่อยเช็กด้วยการเข้าเอ็กซเรย์ทุกอาทิตย์ ดูว่าปอดฉีกเพิ่มหรือเปล่าหรือสมานดีแล้ว ฉะนั้น เราต้องดูแลตัวเอง พักผ่อน ห้ามใช้แรงเยอะ ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ แบบหายใจลึกๆ แล้วยังเจ็บอยู่ บอกเลยว่าตกใจมากไม่คิดว่าตัวเองจะมาเป็นโรคอะไรแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าจุกธรรมดา ตอนนี้ออกกำลังกายไม่ได้ คุณหมอห้ามฮัดชิ้วแรง ไอแรงเพราะมันมีผลกระทบกับปอด กีฬาที่เคยเล่นอย่างขี่ม้า ดำน้ำนี่คืองดไปเลย เราก็กลัว กังวลไม่อยากจะต้องโดนเจาะปอด เพราะมันพักฟื้นนาน ตอนนี้เลยต้องดูแลตัวเองมากพอสมควร พักผ่อนเยอะ”

“ยอมรับว่ามีผลกระทบกับงานนิดหน่อยค่ะ อาทิตย์ที่แล้วก็ต้องแคนเซิลกองไป การพูดดัง เดินเยอะมันก็กระทบกระเทือนสุขภาพเรา”

ภูผาดูแลดีไหม?
"เขาไม่ได้มาเยี่ยมเพราะตรงกับบิ๊ก เมาน์เท่น พอดี แต่เขาก็ดูแลดีค่ะ มีส่งของมาเยี่ยม"

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พอร์ช อุบสถานะ เกรซ น้องสาว กีฟ-อรลีฬห์ งงถูกแฉหักอก

หลังจากที่หนุ่ม พอร์ช ยอมรับว่ากำลังสานสัมพันธ์กับ เกรซ น้องสาวของเพื่อนนักแสดงร่วมช่องอย่าง กีฟ-อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์ แต่อยู่ดีๆ ก็มีกระแสข่าวเม้าท์ออกมาว่า หนุ่ม พอร์ช ไปหักอกสาวเจ้า หยุดสถานะเหลือแค่พี่น้องซะงั้น 


ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอ พระเอกหนุ่มมาดทะเล้น พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์ มาร่วมงานเปิดศูนย์การค้าสยามแสควร์วัน ณ ศูนย์การค้าสยาม สแควร์วัน เจ้าตัวก็ก็รีบแจกแจงให้ฟังว่า


“หักอกที่ไหน ไม่ได้หักอกเลยครับ เรายังคุยกันอยู่ครับ ยังคุยอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีทะเลาะ เรายังคุยกันอยู่นะครับ คือเรารู้จักกันมานานแล้ว รู้จักกันมาเป็นปีแล้วนะครับ น้องเขาก็เป็นเพื่อนผม เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันครับ เดี๋ยวถ่ายรูปคู่ลงเลย คือตอนนี้ความสัมพันธ์มันยังไม่ชัดเจนนะครับ ผมเลยรู้สึกว่ายังไม่อยากพูดอะไรมาก ขอให้มันชัดเจนก่อน ก็คุย ๆ กันไปก่อนครับผม ผมไม่อยากรีบมากไป เพราะอะไรที่มันรีบมากไปก็คงไม่ดี”

“ถามว่าเคยไปทานข้าวกันสองต่อสองบ่อยหรือเปล่า จริง ๆ ปกติเราก็ไปกันหลายคนนะ ไปกับพี่สาวเขาผมก็เคยไปครับ”

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โดนัท ปัด อนันดา ช่วยสแกนหนุ่ม เชื่อแค่ห่วงในฐานะเพื่อน

ตั้งแต่สาว โดนัท ประกาศตัวโสดมานี่ ดูเหมือนจะเนื้อหอมสุดๆ เพราะได้ยินมาว่าหนุ่มๆ รุมขายขนมจีบไม่ขาดสาย จนอดีตแฟนอย่างหนุ่ม อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ยังออกปากแซว แถมล่าสุดดูจะหันมาเอาดีด้านเบื้องหลังแบบเต็มตัวแล้วเพราะเห็นว่ากำลังลุยถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกในชีวิตอยู่


ล่าสุดในงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์สั้น “ไทยนิยม” ณ โรงภาพยนตร์เอสพลานาด ชั้น 5 ได้มีโอกาสเจอ โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

“ตอนนี้นอกจากกำกับหนังเฉลิมพระเกียรติ โดนัทก็กำลังทำเรื่อง Lovesucks รักอักเสบ เป็นหนังยาวเรื่องแรกของตัวเอง ตอนนี้ถ่ายไปประมาณ 6-7 คิวแล้ว ก็เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ปีหน้าน่าจะได้ชมกันค่ะ แล้วเดี๋ยวจะมีโปรเจ็กต์พิเศษที่ทำกับนูโว แล้วก็จะมีละครของช่อง 3 ที่ได้รับโอกาสให้เป็นผู้จัดและกำกับด้วยค่ะ (ยิ้ม) ซึ่งงานทุกอย่างน่าจะได้ชมปีหน้าค่ะ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนโปรดักชั่นอยู่ค่ะ แต่ละครปีหน้าก็ยังเล่นอยู่นะคะ (ยิ้ม)”

“ละครที่เป็นผู้จัดเองชื่อเรื่องเดือนประดับดาวค่ะ ตอนนี้บทเสร็จเกือบ 24 ตอนแล้ว กำลังคุยเรื่องตัวแสดงกับทางช่องอยู่ว่าคิวนักแสดงเป็นยังไง แต่ตอนนี้ก็เริ่มฟอร์มทีมแล้ว เริ่มมีวันที่แน่นอน (ยิ้ม) โดนัทถือว่าเป็นโอกาสนะ และบ้านเรามีทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น ก็เลยคิดว่าเปิดโอกาสให้กับผู้จัดหรือว่าผู้กำกับหน้าใหม่ให้ได้เข้ามาทำงาน แต่จริงๆ โดนัทว่าจะทำตอนนี้หรืออีก 5 ปีค่อยทำทุกคนก็กดดันเหมือนกันหมดแหละ แต่แค่บังเอิญช่วงนี้มันมีงานกำกับมาให้เราทำหลายอันค่ะ”

“พระเอกนางเอกก็มีขอไปเหมือนกัน ตอนนี้กำลังดูอยู่ค่ะ แล้วก็กำลังดูว่านักแสดงจะเป็นรุ่นกลางหรือรุ่นโต เพราะด้วยบทนางเอกมันยาก เขาก็เลยกำลังดูอยู่ แล้วมันดันมีพระเอก 2 คนก็ต้องสรุปก่อน แต่ว่ากำลังคุยค่ะ (ยิ้ม) แต่ยังบอกไม่ได้จริงๆ ว่าเล็งใครไว้ เดี๋ยวไม่ได้ (หัวเราะ)”

“ก็คิดว่าปีหน้างานแสดงน่าจะน้อยลง เพราะว่าปีนี้ถ่าย 3 เรื่อง แล้วมันยังไม่เสร็จเลยสักเรื่องหนึ่ง ปีหน้าก็เลยคิดว่าน่าจะโฟกัสเรื่องกำกับมากกว่า ตอนนี้เวลาต้องมาทำงานเบื้องหน้าก็งงเหมือนกัน ก็ต้องจูนตัวเองเหมือนกันว่าวันนี้ต้องทำตัวยังไง (หัวเราะ) แต่ตอนนี้พอได้ทำเบื้องหลังรู้สึกเรามีความสุขมาก ได้อยู่ในกอง ได้ทำสิ่งที่เราอยากทำ รู้สึกแฮปปี้มาก (ยิ้ม) ก็เริ่มคิดเหมือนกันว่าอาจจะรับงานลง แต่ถามว่ารักไหมก็รักมากนะ แต่บังเอิญว่าบริษัทมันกำลังเริ่มโตน่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าทำมันตอนนี้แหละ (ยิ้ม) เสียดายกับงานเบื้องหน้าไหม โดนัทว่าโดนัทโชคดีที่บทที่ได้รับไม่ค่อยมีคนเล่น (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าถึงเรารับงานน้อยลง มันก็ยังจะเป็นบทที่เรารู้อยู่แล้วว่าตัวละครที่เราเล่นจะเป็นแบบไหน”

“ที่บอกอนันดาแซวเรื่องหนุ่มจีบเยอะอันนี้เขาบอกเหรอ เขารู้ได้ไง เขาไม่รู้เรื่องหรอก แต่ถามว่ามีไหมก็มีคุยค่ะ(ยิ้ม) นอกหรือในวงการก็ไม่บอก(หัวเราะ) โดนัทว่ามันก็ปกตินะ ก็ต้องมีบ้าง ถ้าไม่มีเลยก็ต้องพิจารณาตัวเองนะ (ยิ้ม) กี่คนเหรอ (หัวเราะ) คือคนเข้ามาจีบก็มี แต่บางทีเราก็ไม่รู้ตัวว่าจีบหรืออะไรยังไง ไม่ได้เนื้อหอมหรอก ช่วงนี้เหม็นมากเลย เพราะทำงานวิ่งออกกองตลอด แต่โดนัทว่ามันก็เป็นปกติแหละ พอคนเริ่มรู้ว่าโสดนะ จีบได้ ก็เริ่มมีคนมาคุย”

“อนันดาพูดเพราะหวงไหม อันนี้ต้องไปถามเขานะ แต่ไม่หรอกค่ะ โดนัทมากกว่าที่จะไปวีนเขาเวลาเขามีข่าวแปลกๆ ก็จะไปถามว่าคืออะไรเหรอเธอ(หัวเราะ) แต่เขาก็ถามเหมือนกัน ถามทุกครั้งที่คุย คือคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้เสร็จแล้วก็ตบท้ายว่าแล้วยังไงโด ก็เลยบอกว่าก็มีบ้าง ฉันก็ไม่ใช่ธรรมดา(ยิ้ม) แต่ยังไม่มีใครมาวินค่ะ เดี๋ยวก่อน คือถ้ามีก็ดีนะ จะได้เปลี่ยนเรื่องถามโดนัทกันบ้าง เพราะโดนัทก็รู้สึกว่าถามเรื่องคนอื่นบ้างเถอะ(ยิ้ม)”

“แต่ถามว่ายังห่วงเขาไหม มันห่วงในความเป็นเพื่อนสนิทกันมากกว่า คือเรารู้จักกันดีน่ะค่ะ เขาก็คงกังวลเหมือนกันว่าจะไปเจอใครอะไรยังไง หล่อกว่าเขาก็คงไม่เจอหรอก แต่เขาก็รู้สึกว่ามันจะดีไหม มันจะโอเคหรือเปล่า ในขณะที่เราก็รู้สึกว่าสวยกว่าฉันก็คงมี แต่ให้มันดีกว่านะอะไรอย่างนี้(หัวเราะ) แต่คงไม่ถึงกับต้องพาไปให้เขาสแกนหรอก ตอนนี้โดนัทขอทำงานก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะมีมันก็มีของมันเองแหละ”



วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปิ่น เก็จมณี รูดซิปปาก ขอเป็นกำลังใจให้พี่อ่ำ จอย และแอลลี่

ทำเอาหลายๆ คนอดเป็นห่วง น้องแอลลี่ ไม่ได้ หลังจากที่ อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน ประกาศแยกทางกับ จอย อัจฉริยา เพราะทั้งคู่ถ้าแยกกันอยู่ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป


ล่าสุดในงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์สั้น “ไทยนิยม” ณ โนงภาพยนตร์เอสพลานาด ชั้น 5 ได้เจอ ปิ่น เก็จมณี วรรธนะสิน เพื่อนสนิทก็เลยสอบถามสักหน่อยว่าตอนนี้เรื่องเป็นยังไงบ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็ออกปากก่อนเลยว่า

”ไม่อยากพูดเรื่องนี้เลยอะ เอาจริงๆ ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนนะ ถ้าพูดเป็นกลางๆ มันก็เป็นเรื่องของครอบครัวซึ่งไม่มีรู้อะไรมากกว่าไปคน 2 คน ตัวเราเองก็มีครอบครัวเราก็รู้เพราะบางทีเราก็มีปัญหากันบ้างแต่ก็หาทางออกที่มันสวยงามได้ แต่แบบนี้มันไม่ได้เป็นกันทุกครอบครัว ถ้าทางออกของน้องกับพี่ชายเขาคิดว่าออกมาอย่างนี้ดีเราก็สนับสนุนค่ะ”

”ก็ให้กำลังใจทั้งพี่อ่ำ จอย และแอลลี่ คือให้กำลังใจทุกคนเพราะเจก็เป็นเพื่อนสนิทพี่อ่ำแล้วจอยก็เป็นภรรยาพี่อ่ำส่วนแอลลี่ก็เหมือนเป็นลูกสาว พวกเขาอยู่ที่บ้านด้วยกันมาเป็น 10 ปีแล้วก็เลยรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องน่าเสียใจแต่ก็นับถือในน้ำใจของแต่ละคร ทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันค่ะ มันไม่ได้ช็อคกับข่าวเพราะอยู่ด้วยกันมาตลอด เหมือนเติบโตมาด้วยกันเลยพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

”เขาก็ไม่ได้ปรึกษาอะไรเพราะส่วนมากจอยจะเป็นคนไม่ค่อยพูด เขาไม่ค่อยปรึกษานอกจากมีอะไรมากมายจริงๆ ถึงจะพูดค่ะ กับพี่อ่ำเขาก็จะคุยกับพี่เจนานๆ ทีเพราะเขาไม่ได้เจอกันบ่อยๆ เขาก็คุยกันประสาผู้ชายแมนๆ ไม่ได้เศร้าเสียใจแบบงอแง ก็เห็นเขาคุยปลอบใจกันอยู่ค่ะ”

”ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันอาจจะเป็นเพราะหนุ่มๆ เริ่มโตขึ้น ตัวแอลลี่ก็เป็นสาว เขาอาจจะมีปัญหาอะไรที่ใช้เวลาส่วนตัวกัน เท่าที่เจอล่าสุดแอลลี่เป็นสาวแล้ว เขาก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เราก็ถามว่าหนูโอเคไหมเขาก็บอกว่าโอเคเราก็โอเค กับหนุ่มๆ เขาก็ดูแลตลอดค่ะ เห็นเขายังแชทหากัน หนุ่มๆ เขาก็บอกว่าแอลลี่ทักมาว่าเขายังโอเคอยู่นะเพราะพวกเขาก็เป็นห่วง ล่าสุดก็มีทานข้าวด้วยกัน หลังจากนี้ก็ชวนเที่ยวด้วยกันอยู่ กะว่าจะไปหัวหินกัน ไปเล่นสวนน้ำเปิดใหม่ค่ะ(ยิ้ม)”


วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หญิง กัญญาพัชญ์ โต้ซุ่มแต่งงาน ที่แท้โปรโมทท่องเที่ยว

กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล สำหรับข่าวแต่งงาน ฟ้าแล่บ! จนสาว หญิง กัญญาพัชญ์ ธนันต์ชัยกานต์ ต้องออกมาเคลียร์ให้หายสงสัยว่าเป็นอย่างไรกันแน่


ล่าสุดวันที่ 7 ธ.ค ที่ผ่านมา หญิงกัญญาพัชญ์ ธนันต์ชัยกานต์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องดังกล่าวในงานอีเว้นท์ เป็นการทำงานโปรโมทวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซีย รับตกใจข่าว ยันไม่ถือเพราะไม่ใช่เรื่องจริง บอกแฟนหนุ่มคนรู้ใจไม่ว่า เข้าใจเป็นการทำงาน รอชัดเจนค่อยพามาเปิดตัว เป็นคนนอกวงการ ปัดแม่ห้ามเปิดตัว

"ไม่ใช่คะ ก็เหมือนที่ผ่านมาหญิงไปประเทศมาเลเซียมา แล้วก็มาเลเซียเขาเปิดงานท่องเที่ยวซึ่งเขาเชิญตัวแทนจาก 10 ประเทศเป็นอาเซียน ซึ่งประเทศไทยก็มีตัวแทนไป 2 คน หญิงก็มีโอกาสได้ไปที่นู้น แล้วได้ไปร่วมกิจกรรมก็ไปโปรโมทประเทศมาเลยเซีย และเผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศไทยที่นู้นด้วย  แล้วในงานก็มีการแต่งงานเกิดขึ้นจริงๆ  ประเพณีทุกอย่าง  และประเพณีของบ้านเขาก็ไม่เหมือนของบ้านเรา  คือจู่ๆเขาก็บอกวันนี้มีงานแต่งงานนะแล้วเขาก็เลือกเอาประเทศไทยกับตัวแทนประเทศเวียดนามมาแต่งงานกัน

คือเขาก็มีแจ้งก่อนว่าวันนี้จะมีงานแต่งงานนะ  เหมือนเขาอยากจะเซอร์ไพรส์และเผยแพร่วัฒนธรมของประเทศมาเลเซียด้วย ว่าการแต่งงานของประเทศเขาเป็นยังไง  มันไม่เหมือนของประเทศไทย  ถามว่าถือไหม ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะอย่างเวลาถ่ายละครก็มีหลายๆฉากที่เราแต่งงาน รดน้ำสังข์  มันกลายเป็นเรื่องที่ชินไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเราไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย ก็ตกใจนิดหน่อยคะ แต่พิธีเขาอลังการมาก คือในงานมันเหมือนจริงมาก 

ตอนแรกก็มีเกร็งๆ มีผู้ใหญ่มาสู่ขอ  มีแห่  แล้วชุดบ้านเขากับบ้านเราก็ไม่เหมือนกัน ก็แปลกๆดีคะ สนุกดี ตอนเข้าพิธีก็ตื่นเต้นมาก ไม่กลัวคนคิดว่าแอบแต่งงาน กับคนที่คุยอยู่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรคะ จริงๆก็เป็นเหมือนพี่ๆเพื่อนๆกันมากกว่า เขาก็รู้ว่าเราไปทำงาน ก็ไม่มีอะไร ถามว่าเป็นใครยังไงก็ขออุบไว้ก่อนได้ไหมคะเพราะมันยังไม่ค่อยชัดเจน  ไว้ชัดเจนเมื่อไหร่ก็คงได้เห็นเอง เป็นคนนอกวงการคะไม่ใช่คนที่มหาวิทยาลัย  เป็นรุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกัน  จริงๆก็ไม่ได้ปิดนะคะ เวลาเราไปไหนมาไหนก็ไม่ได้แอบ แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้ออกมาพูออย่างเต็มปากว่าคบกับคนนี้  ช่วงนี้ก็ขอเน้นเรื่องเรียนเพราะจะต่อปริญญาโทมากกว่า 

สถานะตอนนี้ก็เป็นพี่คนสนิทคะ  ยังไม่ถึงขั้นคนรู้ใจ  โอเคเราเองก็อายุ 23  จบปริญญาตรีแล้วแต่อนาคตมันยังอีกไกลก็ยังไม่อยากโฟกัสเรื่องนี้ อยากโฟกัสเรื่องงานมากกว่า ส่วนเรื่องความรักก็ค่อยๆตามมาล่ะกันถ้างานดี เงินดี เดวความรักก็คงดีคะ  ทางคุณแม่ก็ไม่ได้ห้ามมีแฟนคะ  เคยเจอกันบ้างแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะผ่านด่านหรือเปล่า"

ที่มา สยามดารา

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ญาญ่า ไม่แคร์หมอดูทักไม่ใช่เนื้อคู่ ณเดชน์

มีคนลุ้นอยู่ตลอดเวลา สำหรับคู่จิ้นเอ็นวาย ที่ฮอตสุดๆ แต่ดันมีหมอดูมาทักให้ใจเสียว่าทั้งคู่ไม่ใช่เนื้อคู่กันซะงั้น จนพ่อหนุ่ม แบรี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า ขอเชื่อสายตาจากคุณแม่ฟันธงจะดีกว่า เชื่อหมอดู


ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.คที่ผ่าน สาว ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก็ออกมาตอบบ้างว่า
"เรื่องหมอดู ไม่รู้ค่ะ สำหรับหนูอะไรที่เป็นหมอดูก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ถ้าจะเป็นเนื้อคู่หรือเปล่ามันขึ้นอยู่กับคนมอง มากกว่า ที่พี่ณเดชน์ให้สัมภาษณ์ก็ได้ดูบ้างค่ะ เขาก็ตอบดีนะคะ อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับคนสองคนมากกว่าค่ะ  หมอดูก็รู้ไว้เป็นคติเตือนใจ กับพี่ณเดชน์ก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันค่ะ  ปีใหม่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแพลนก็จะไปค่ะ อันนี้ไปกับครอบครัว ไปนอร์เวย์ค่ะ  ส่วนพี่ณเดชน์เขาก็อยู่กับครอบครัวเขาค่ะ ช่วงคริสมาส ปีใหม่ก็เป็นช่วงที่ต้องอยู่กับครอบครัวค่ะ พี่ณเดชน์ก็ไม่ได้ชวนไปขอนแก่นด้วยค่ะ  ก็เคลียร์คิวไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วนะคะ กะจะไปซัก2อาทิตย์ค่ะ  ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ให้สื่อสัมภาษณ์ คงเป็นเรื่องของผู้ใหญ่อันนี้ไม่รู้เลยค่ะ  ยังไงนักแสดงก็ต้องพึ่งนักข่าวอยู่แล้วหวังว่าจะไม่มีอะไรค่ะ"


ที่มา สยามดารา

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เต๋อ ขอบคุณคนรอบข้างช่วยเป็นกาวใจรีเทิร์น พีค

หลังจากที่หนุ่ม เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ประกาศยุติความสัมพันธ์กับสาว พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ จนเฮิร์ทน้ำหนักลดลงถึง 8 กก. ทำเอาหลายคนแอบเป็นห่วงกลัวหนุ่ม “เต๋อ” จะล้มป่วยเอาง่ายๆ มาตอนนี้ดูเหมือนความรักมีเค้าว่าจะลมหวนแล้ว


ล่าสุดก็มีลุ้นเมื่อได้ยินว่าทั้งคู่ต่างมีคนมาเป็นกาวใจให้รักกลับมาหวานเหมือนเดิม พอมีโอกาศได้เจอหนุ่ม “เต๋อ” ในงาน “Shell: The Ultimate Excitement” ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยเจ้าตัวก็เปิดใจให้ฟังว่า

”ช่วงนี้กำลังถ่ายละคร “ผู้กองยอดรัก” ครับ เล่นกับน้อง “มาร์กี้” คิดว่าจะออนแอร์ประมาณปีหน้าและก็มีเขียนบทภาพยนตร์กับทีมเดิม ทีมที่เขียน “พี่มาก” ด้วยกัน น้ำหนักตอนนี้ขึ้นมา 2 กก.แล้วแต่อาจจะต้องใช้เวลานิดหนึ่งครับ ตอนนี้ก็กินเยอะเป็นปกติ แต่อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เล่นกีฬาเยอะและตอนถ่าย “ผู้กองยอดรัก” ต้องใช้พลังงานสูง มันต้องฝึกทุกอย่างเหมือนที่ทหารเขาทำเป็นการเบิร์นไปในตัว ไม่รู้ว่าจะไปบำรุงด้วยอะไร ถ้ามีอะไรบำรุงก็ดีครับ คือจริงๆ กะว่าถ้าน้ำหนักขึ้นอีกสัก 2 กก.ก็จะดีเพราะตอนนี้ผอมไปหน่อย”

”ยอมรับว่าช่วงแรกๆ คนรอบข้างเขาก็เป็นห่วงเยอะแต่ตอนหลังเขาเห็นว่าเราคงแข็งแรงดี คือผอมแต่ไม่ได้สุขภาพเสีย เราก็ยังปกติเพียงแต่น้ำหนักลงไปเฉยๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไรแต่ก็จะมีคนทักว่าผอมเกินไปนะ พยายามให้มันขึ้นอยู่ ไม่รู้จะทำยังไง(ยิ้ม)”

”ตอนนี้ยังไม่ค่อยว่างเลยครับ ไหนจะแสดงละคร ไหนจะเขียนบทอีก ส่วนเรื่องบทที่ลงทุนสร้างร่วมกับจีนกำลังรอฟิดแบคจากทางเขาอยู่ว่าโอเคไหม ถ้าโอเคก็ถ่ายทำได้เลยแต่ถ้าไม่โอเคก็แก้ไขกันต่อ ช่วงปีใหม่กะว่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน เพราะไปไหนคนน่าจะเยอะ น่าจะเหนื่อยแน่ๆ อยู่บ้าน กินข้าวกับที่บ้านดีกว่า หลังปีใหม่ช่วงคนน้อยๆ ก็อาจจะไปครับ จริงๆ จะไปไหนก็ได้ ทะเลก็ได้ ภูเขาก็ได้ อะไรก็ได้ที่เราไม่เคยไปจะได้ผ่อนคลาย”

”สภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีแล้วนะครับ ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ได้ ตอนนี้คนรอบข้างก็พยายามเป็นกาวใจให้เยอะเลยครับ(ยิ้ม) จริงๆ มันเป็นเรื่องอนาคต ผมขอไม่พูดถึงดีกว่า ไม่อยากไปวางแผนว่าจะเป็นยังไง เพราะถ้าสุดท้ายไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วมันจะแย่กว่าเดิม ก็คิดว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ถ้าเราสบายใจและมีความสุข ก็มีคุยกับพีคบ้าง แต่ไม่ทุกวันครับ เจอก็มีเพราะว่าต้องทำร้านขนมด้วยกัน ก็ต้องมีการประชุมเจอกันบ้าง ความรู้สึกมันก็ต้องมีบ้าง แต่เราก็พยายามเข้าใจมันว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง ช่วงนี้ดีขึ้นเยอะและครับ แรกๆ เละเทะเลย(หัวเราะ) แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”


วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อั้ม เผยสัมพันธ์ แอม์ป เกินเยียวยา ต้องระยะทำใจ

อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ อัพเดทสถานะความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม แอมป์-พิธาน องค์โฆสิต เริ่มห่างเหินไปเรื่อยๆ  เปรยตอนนี้เกินเยียวยา อยู่ในระยะต้องทำใจ 


โดยล่าสุดซุปตาร์สาวมาร่วมงาน Sparkling Winter Celebration 2015 ณ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา พร้อมเปิดใจถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า

“ธีมวันเกิดปีนี้ยังไม่ได้คิดเลย ปีที่แล้วก็กะทันหัน ปีนี้กะไม่รับของขวัญแต่ขอเป็นเงินแล้วกัน ของบางอย่างที่เพื่อนๆให้มามันก็แพง หลายหมื่น เป็นแสนต่อคน ก็เลยบอกขอเป็นเงินแทนได้ไหม จะขอรับเป็นเงินบริจาคไปทำบุญต่อทุกบาททุกสตางค์เลย ก็คงไม่ได้จัดยิ่งใหญ่อะไร คงเป็นการทานข้าวกันธรรมดา เพราะตั้งใจไว้หลายเดือนแล้วว่าปีนี้ไม่อยากจัดอะไรมากมาย อาจจะมีบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่งตัวบ้างปกติอยู่แล้ว อยากจะนำเงินไปบริจาค ก็คงมูลนิธิน้องหมานะคะ”

ตอนนี้ได้คุยกับ “แอมป์”บ้างหรือยัง? 
“ไม่ได้คุยเลยค่ะ ไม่ได้ติดต่อกันเลย ก็ห่างๆ กันแล้ว จะใช้คำว่าเลิกก็ดูจะแรงไปสำหรับเรื่องนี้ เราแค่ไม่เข้าใจกัน ก็เลยคิดว่าห่างๆ กันไปอย่างนี้ดีกว่า ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย ส่วนวันเกิด ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะเชิญใครบ้าง ถ้าใครอยากทำบุญเราก็เชิญทุกคนอยู่แล้ว กาวใจ ไม่มีเลย เพื่อนๆ ก็รู้จักทั้งสองฝ่าย จะทำอะไรมันก็ลำบาก ห่างก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ามันไม่เข้าใจกันก็ห่างๆกันไปก็ดีแล้ว ทำใจตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว นี่ก็ผ่านมานานแล้วนะคะ ตอนนี้ก็ไม่ได้ปิดแล้วก็ไม่ได้เปิดอะไร เฉยๆ ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน เพื่อนชวนไปไหนก็ไป”

“หนุ่มๆตอนนี้ไม่มีเลย อะไรจะเร็วขนาดนั้น ก็ไม่อยากจะพูดว่าโสดเร็วขนาดนี้ เดี๋ยวก็จะเอาไปเขียนเป็นประเด็น ให้พาดหัวเอาไหม สถานะตอนนี้ก็เรียกว่าเกินคลุมเครือ เกินเยียวยาดีไหม แรงไป ไม่เอา อั้มขอแก้ไขเป็นระยะทำใจ เหมือนเพลงอะไรสักอย่างแล้วกันอะไรอย่างนี้ดีกว่า พาดหัวข่าวให้แล้วนะ”

แต่ยังดูสดใสได้อยู่?
“คือเราไม่ได้ทะเลาะกันเพราะไปทำอะไร มีปัญหา เราเข้าใจกัน เขาก็ยังเป็นคนที่ดีมากๆ ดีที่สุดที่เราเคยเจอก็ยังยืนยันอยู่ เขาเองก็ไม่ได้ติดต่อมาเลยค่ะ แต่เรามีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เพื่อนก็จะทำงานหนักกันหน่อยเพราะต้องแบ่งกันไปกินข้าว ถามว่าแอบหวังไหมเผื่อเขามาเซอร์ไพรส์วันเกิด ไม่ค่ะ อั้มไม่คิดไกลค่ะ ไม่มีแผนยาว”

มีกระแสข่าวว่า เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ ซื้อโทรศัพท์ให้ อั้ม ?
“ไม่จริงเลยค่ะ ทราบข่าวแล้วตกใจมาก ไม่มีมูลความจริงเลยค่ะ ก็รู้จักพร้อมๆ กับทุกคนนะคะ ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เครื่องแรกเป็นแอมป์ซื้อให้ค่ะ แอมป์เขาได้มาสองเครื่องก็ให้อั้มเครื่องนึง เครื่องสองอั้มไปซื้อที่ช็อปเองเลย งงข่าวเหมือนกัน มีแบบซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้ออะไรแบบนี้ดีกว่าโทรศัพท์ป่ะ งงๆ อยู่เหมือนกันค่ะ ก็ไม่ได้ซีเรียสแต่ไม่อยากตกเป็นข่าวกับใคร เพราะเราไม่อยากมีปัญหากับใคร”