วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

กัสจัง ขู่ฟ้องนักเลงคีย์บอร์ดผ่าน ไอจี

เรียกว่าซวยซ้ำซากเลยทีเดียว สำหรับสาว กัสจัง จีราร์ พิทักษ์พรตระกูล ที่ตอนแรกเจอปล่อยคลิปเสียงกับอดีตแฟนหล่อขั้นเทพ ต่อมาในระยะเวลาไล่เลี่ยกันก็เจอพิษเพื่อนหักหลังปล่อยไลน์ด่านางเอกสาวใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ ว่า"โง่" แถมเพื่อนของ กัสจัง ยังมาผสมโรงด่า ผจก.เกล้า ซึ่งเป็นผู้จัดการของ ใหม่ ว่า "กระเทยควาย"

         
โดยสาว ใหม่ ได้เผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 5 สัปดาห์มาแล้ว ซึ่งตนก็ให้อภัยไม่ติดใจอะไร  ส่วนทางด้าน พี่เกล้า ก็สอนกึ่งเหน็บแบบเจ็บๆว่า
"อยากจะสั่งสอนน้องกลับนิดหนึ่ง เพราะไม่รู้มีใครสอนน้องหรือเปล่า ว่าการที่ไม่มีคนทำอะไรให้ ก็อย่าไปด่าคนอื่นว่าเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ มันไม่ดี"
             
ถัดมาสาว"กัสจัง"เองก็ได้ออกอีเว้นท์ยอมรับผิด รับว่าทำจริง  และยังเผยอีกว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นนานแล้ว ไม่ใช่ 5 สัปดาห์อย่างแน่นอน
               
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเผือกที่ค้างคาใจต่างก็ไปตามล่า หาความจริงก็พบภาพที่ "ใหม่-ดาวิกา" ไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารดังกล่าวพร้อมผจก.ส่วนตัว ในอินสตาแกรม ซึ่งตามระยะเวลาในการโพสต์ก็ตรงตามที่"ใหม่"บอกกล่าวจึงพากันมาคอมเม้นท์ต่อว่าฉะ"กัสจัง"ในอินสตาแกรม guzjun9  
                 
งานนี้"กัสจัง"ไม่รอช้าคอมเม้นท์ตอบโต้ผ่านไอจีและท้าให้งัดวงจรปิดมาพิสูจน์กันจะจะ ..##
                 
"เอ่อ.. ไม่รู้ว่าเค้าพูดอย่างนั้นจริงหรือเปล่า แต่ดิฉันไป รับประทาน Momo สาขา CDC 15-16 สัปดาห์ที่แล้ว ที่สาขาคริ สตัวดีไซน์ ซึ่งมีภาพอยู่ในอินสตาแกรมนี้ และเชื่อว่าที่ร้านและที่ ห้างก็ต้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ค่ะ ประเด็นคือไม่ได้ต้องการมาพูดว่า ใครมั่ว แต่ดิฉันแค่โชว์ความบริสุทธิ์ใจโดยการบอกสถานที่และเวลา พร้อมรูปและหลักฐาน เพราะข้อมูลเหล่านี้มันสืบกันได้ค่ะ"
                 
หลังจากที่โพสต์เจ้าตัวก็โดนคอมเม้นท์ตอบกลับทั้งบวกก็คือให้กำลังใจ และมีทั้งด่าหาว่า กัสจัง พูดไม่จริง  รวมทั้งคอมเม้นท์ว่าต่อหาก กัสจัง คิดว่านักร้องหนุ่มเป็นคน ไม่ดีจริง ก็น่าจะแจ้งความไปเลย แต่น่าสงสัยว่าทำไมอดีตแฟนทุก คนของหล่อขั้นเทพถึงได้ไม่เคยมีปัญหากันหลังเลิกราจากกันไปแล้ว เพิ่งจะมีก็เพียง  กัสจัง คนแรก! ซึ่ง ดาราสาวก็ได้มาตอบกลับคอม เม้นท์ดังกล่าวเป็นข้อความว่า

                   
"เราไม่เคยแจ้งความจับใคร เราไม่เคยคิดทำร้ายใคร คน เราคบกันถ้าอยากทำร้าย มันมีหลากหมายวิธี เราไม่เคยคิดอัดเสียง เอาข้อมูลส่วนตัว หรือทำอะไรกับคนที่เราคบ ที่สำคัญ เราไม่คิด แจ้งความ หาดูคลิปข่าวให้จบ เอาแบบคลิปนะคะ ไม่ใช่เนื้อข่าว เชื่อ ว่าวันนึงสังคมต้องพิสูจน์ได้ไม่ช้าก็เร็ว วันนี้เราอาจดูแถหรือตอแ_ล แต่วันนึงทุกอย่างมันก็จะกระจ่างเองค่ะไม่นานหรอก"
                     
"รอดูแล้วกันค่ะ ถ้าคลิปนี้มีการบิดเบือนตัดต่อจริง ได้ทั้ง "คุก" ได้ทั้ง "เงิบ" ค่ะ" ข้อความจากอินสตาแกรม guzjun9
               
อีกทั้งยังคอมเม้นท์กำกับอีกด้วยว่า#
               
"ในกรณีนี้หนูไม่ได้พาดพิงถึงเค้าน๊า หนูพูดถึงคนปล่อยคลิปว่าทำไมถึงปล่อยแบบบิดเบือน ซึ่งในข่าวก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าเข้าใจถึงการกระทำและจุดประสงค์ฝ่ายชายอัด การให้ข่าวในครั้งนี้ไม่ได้พาดพิงถึงอดีตเลย แต่ชี้แจงถึงเจตนาคนปล่อยคลิปเน้อ" กัสจังแจงไว้ในไอจี  guzjun9

ที่มา สยามดารา

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

โป๊ป ไม่แคร์คนมองเจ้าชู้ รับเคยคุย ยูมิน ทวิกานต์

โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ที่ตกเป็นข่าวกับสาวๆมากหน้าหลายตา ล่าสุดมีข่าวกับสาว ยูมิน ทวิกานต์ โดยพระเอกหนุ่มยืนยันว่ารู้จักกันในสถานะพี่น้อง ไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน รับตอนนี้คุยสาวหลายคนแต่คงความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อนก่อน


ข่าวว่าเรากำลังอินเลิฟอยู่กับยูมิน?
“ไม่หรอกครับ เป็นพี่น้องกัน รู้จักเฉยๆครับ จริง ๆ เราไม่ค่อยได้คุยกันนะครับ แต่ว่าเราคุยกันปกตินะไม่ได้คุยกันแบบไหน ก็สนิทประมาณหนึ่งครับ ไม่ได้ถึงขนาดเป็นแฟนหรือจีบกัน แต่ช่วงนี้เราไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้วครับ แต่ถ้าหากวันไหนเขามีธุระหรือมีอะไรเขาก็จะส่งข้อความมา ซึ่งตัวผมเองก็จะส่งไปบ้างแต่มันก็นานมากแล้วเหมือนกันนะ เพราะช่วงหลังมานี้เขาไปต่างประเทศ”

รู้จักกันได้อย่างไร?
“รู้จักกันจากเพื่อนรุ่นน้องในกลุ่มครับ เพราะว่าน้องเขาก็ทำงานอยู่กับเพื่อน ๆ ผม”

ตั้งแต่มีข่าวออกมาได้ไปคุยกับเขาบ้างไหม?
“คุยนะครับ แต่ก็ไม่มีอะไรเพราะเราคุยกันแบบพี่น้องอยู่แล้วเลยไม่ได้ซีเรียส”

ฝ่ายหญิงถูกมองว่าเข้ามาเกาะกระแสเรา?
“คงไม่หรอกมั้ง ก็มันคือเรื่องจริงที่เราคุยกัน ก็ไม่แปลกที่จะมีข่าว แต่ยืนยันว่าเป็นพี่น้องไม่ใช่แฟน”

“ยูมิน” ถือว่าเป็นสเปกเลยหรือเปล่า?
“ก็น่ารักดีครับ คือเมื่อก่อนผมเองก็เคยมีสเปกนะแต่ว่าตอนนี้ไม่มีละ คือถ้าน่ารักก็ชอบ ชอบที่นิสัยมากกว่าถ้าใครเป็นคนดี จิตใจดีผมก็ชอบถ้าจะคบกันนะครับ”

ยืนยันว่าเรากับยูมินคุยกันแบบพี่น้อง ?
“แค่พี่น้องครับผม ไม่ใช่แฟน”

แล้วตัวจริงของเราละตอนนี้ล่ะ?
“ไม่มีครับ”

ตอนนี้มีสาว ๆ ที่กำลังคุยอยู่บ้างไหม?
“มีครับ ผมมีเพื่อนคุยเยอะแยะ แต่ว่าคนที่แบบคุยกันในเชิงศึกษาดูใจอันนี้ยังไม่มี คุยกันไปเรื่อย ๆ เหงา ๆ เมื่อไหร่ก็คุย มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็คุย”

กลัวคนมองว่าไหมว่าคุยไปเรื่อย เจ้าชู้?
“ไม่หรอกครับ เราก็ยอมรับว่ามีเพื่อนคุยหลายคน ไม่ผิดอะไรมั้ง ถ้าคนจะมองว่าเจ้าชู้ เพลย์บอยก็ไม่เป็นไรครับ เราก็ไม่ได้บอกว่าคบกับใครหรือปิดกั้นใคร เราก็คุยกันแบบเพื่อน ถ้าใครจะมองอย่างนั้นเราก็อธิบายเขาไม่ได้หรอก”

เรียกว่าหล่อเลือกได้หรือเปล่า?
“ผมก็ไม่ได้เลือกนะ คุยกันแบบเพื่อนจริงๆ คนเราก็มีสิทธิ์ที่จะมีเพื่อนคุยนะ”

กังวลไหมว่าการที่เราออกมาพูดแบบนี้จะทำให้สาวที่คุยอยู่เขาเข้าใจผิด?
“ทำไมต้องเข้าใจผิดล่ะ เราเป็นแค่เพื่อนกัน”

คุยกับคนในหรือนอกวงการ?
“ไม่บอกแล้วกัน”

สาว ๆ ที่คุยอยู่เขาเข้าใจไหมว่าเราเรื่อย ๆ กับทุกคน?
“ก็คงเข้าใจ เพราะว่าเราไม่ได้บอกเราเป็นแฟนกัน อีกอย่างเราก็คุยกันแบบเพื่อนที่คุยกันตามปกติด้วย”


วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

น้ำตาล รับสนิท เคน มากกว่าเดิม เชื่อ ไผ่ เข้าใจ โต้จัดฟันเปลี่ยนโครงหน้ารับทรัพย์

นางเอกสาว น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ กับ พระเอกหนุ่ม เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ ได้ฉายา เหยินใหญ่กับเหยินน้อย หลังร่วมงานกันในละครเรื่อง “ดาวเคียงเดือน” จนทำเอาเจ้าตัวต้องโร่จัดฟันเป็นการด่วน แต่ไม่วายโดยเม้าท์ว่าที่ลงทุนจัดฟันเพื่อเปลี่ยนโหงวเฮ้งโครงหน้ารับทรัพย์ 


พอได้เจอตัวสาว น้ำตาล จึงได้ชี้แจงให้ฟังว่า
“ตอนนี้จัดฟันแบบใสค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าอยากให้อะไรลงตัวมากกว่านี้ ก็มีส่วนเพราะว่าโดนทักว่าฟันจอบด้วยเพื่อความมั่นใจด้วย เดี๋ยวสู้เคนไม่ได้เพราะเขาจัดไปหลายปีแล้ว จริงๆตาลเคยจัดมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ฟันคุดมันเพิ่งขึ้นเมื่อปีที่แล้วก็ทำให้ฟันดันแล้วล้มหมดเลย”

จัดฟันเพื่อเปลี่ยนโครงหน้าเพื่อรับทรัพย์?
“สาธุค่ะ ไม่ค่ะ ผอมลงด้วยค่ะ”

ลุคเปลี่ยนไปแล้วคาแรกเตอร์จะเปลี่ยนไปด้วยไหม?
“ไม่หรอกค่ะ ถึงแม้ว่าฟันจะเปลี่ยนรูปแต่ความใหญ่ก็ยังเท่าเดิม (หัวเราะ)”

เครียดไหมคนเม้าท์ว่าไปศัลยกรรม?
“ตอนนี้ยังไม่มีเลยค่ะ ตาลว่าเดี๋ยวจัดฟันให้เข้าที่ก่อนดีกว่า เรื่องศัลยกรรมตาลก็ไม่ได้แอนตี้นะคะแต่ว่า ณ ตอนนี้เรายังไม่ได้ทำอะไรดีกว่า แล้วก็มีหลายคนแนะนำว่ายังไม่ควรทำดีกว่า”

จัดฟันแบบนี้จะมีผลกระทบต่อการเล่นละครไหม?
“ตาลจัดแบบใส ถ้าเข้าฉากก็ถอดออกมาได้ค่ะ ความที่แล้วถึงแม้จะจัดใสแล้วมันก็ยังเห็นเงาอยู่ดี”

ทำมานานหรือยัง?
“ 4-5 เดือนแล้วค่ะ ก็ได้ครึ่งทางแล้วเพราะคุณหมอบอกคงใช้เวลา 9 เดือน”

อยากทำอะไรเพิ่มอีกไหม?
“คงยังก่อนดีกว่าค่ะ”

ล่าสุดเห็นถ่ายแบบเซ็กซี่?
“ถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากๆค่ะ ตอนถ่ายก็ตื่นเต้นมากแต่ทางพี่สไตลิสต์ ตากล้องก็ช่วยค่ะ”

กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง?
“กระแสดีค่ะ อาจจะเป็นเพราะคนไม่เคยเห็นเราในลุคนี้ด้วย”

ถ้ามีคนติดต่อมาอีกสนใจไหม?
“ไม่ค่ะ เรายังไม่ถึงขนาดนั้น ไม่มีอะไรด้วยแหละ”

ถามถึงข่าวซุบซิบว่าหนุ่ม “ไผ่ พาทิศ” มารับถึงกองละคร?
“ไม่มีค่ะ อยู่กับผู้จัดการตลอด”

มีข่าวว่าเรากับ “เคน” อินเลิฟนอกจอโทรหากันนอกรอบด้วย?
“กับเคนก็เป็นเพื่อนสนิทกัน พอได้ร่วมงานกันก็ทำให้สนิทกันมากกว่าเดิม อาจจะมีการติดต่ออยู่บ้าง เพราะเพื่อนเราส่วนใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันด้วยค่ะ”

กลัวพี่ไผ่เข้าใจผิดไหม?
“ตาลว่าเขาคงไม่เข้าใจผิดค่ะ น่าจะเข้าใจมากกว่า กับเคนแล้วความจริงเราเป็นเพื่อนกันก่อนที่จะมาเล่นละครด้วยซ้ำ พอมาเล่นละครก็ทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่ในกองก็เลยทำให้สนิทกันมากขึ้น”


วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

โอ๋ ปัดหวนบัลลังก์เซ็กซี่ เผยมีสวมชุดว่ายน้ำใน “ห้องหุ่น” ฟุ้งคุยหนุ่มนอกวงการแต่ยังกั๊กสถานะแฟน

ดูเหมือน โอ๋ รุ้งนภัฐ บริจินดากุล หรือชื่อเดิม โอ๋ รุ่งระวี จะหวนคืนความเซ็กซี่อีกครั้ง ล่าสุดทำเอาหลายๆ คนที่เป็นแฟนคลับความเซ็กซี่ของสาว โอ๋ ตั้งตารอ เมื่อเจ้าตัวได้เผยว่าจะต้องใส่ชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ในละครเรื่อง “ห้องหุ่น” 


ล่าสุดได้มาเจอ “โอ๋” ในงาน “เปิดตึกใหม่ดาราเดลี่ ฉลองครบรอบ 9 ปี” ณ ซอยลาดปลาเค้า 14 เจ้าตัวก็อัพเดทเรื่องละครและเรื่องความรักให้ฟังว่า
"ตอนนี้ที่กำลังออนแอร์อยู่ก็มี “วัยมันพันธุ์อสูร” ค่ะ ส่วนที่กำลังถ่ายทำอยู่ก็เรื่อง “ห้องหุ่น” ค่ะ"

เห็นว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่?
"ใช่ค่ะ คือในเรื่องโอ๋เล่นเป็นหุ่นปั้น พระเอกเขาต้องปั้นหุ่นเราก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำแต่ก็ไม่ได้เป็นชุดที่โจ๋งครึ่มอะไรขนาดนั้น แค่แอบเซ็กซี่นิดหนึ่ง ในบทเราก็จะเล่นเป็นคนร้ายๆ ที่มาชอบพระเอกก่อนนิดหนึ่ง"

แบบนี้ต้องเซฟตัวเองพอควร?
"ก็มีค่ะ อาจจะไม่ได้เซ็กซี่อะไรมากมาย"

เพราะเป็นละครเลยต้องเซฟเยอะ?
"ใช่ค่ะ"

เรื่องชุดเรารู้ล่วงหน้าแล้วใช่ไหมว่าต้องมีแบบนี้?
"ก็คุยเรียบร้อยแล้วค่ะ" 

เกร็งไหม? 
"ก็มีบ้างเพราะมันเป็นภาพที่เคลื่อนไหวเราก็ต้องดูแลรูปร่าของเขาให้ดีนิดหนึ่ง ออกกำลังกายตลอด ช่วงนี้ก็กินน้อยๆ หน่อย(หัวเราะ)"

หายไปพักหนึ่งตอนนี้เรียกว่าคืนบัลลังก์เซ็กซี่หรือเปล่า?
”ก็ไม่ได้เรียกว่าคืนนะคะ เขามีงานอะไรให้เราทำเราก็ทำตามหน้าที่ของเรา แต่ก็ยังเซ็กซี่เหมือนเดิม ยังถ่ายแบบเหมือนเดิมค่ะ”

ตอนนี้มีงานเซ็กซี่เข้ามาทาบทามบ้างหรือยัง?
"ปีนี้ยังค่ะ แต่ปีหน้าถ่ายไปแล้วเรียบร้อยเป็นปฏิทินค่ะ" 

เซ็กซี่ขนาดไหน? 
"เป็นบิกินี่ค่ะ(หัวเราะ) ไม่ได้ถึงขั้นนู๊ตค่ะ ก็ต้องดูแลหุ่นตัวเองตลอดเพราะโอ๋เป็นคนที่กินนิดเดียวก็บวมแล้วค่ะ"

แล้วมีหนังสือเข้ามาทาบทามอีกไหม?
”ยังค่ะ แต่ก็ยังรับนะคะ”

ลิมิตเซ็กซี่ของเรามีเท่าไร?
”ก็แล้วแต่คอนเซ็ปต์ว่าจะเป็นยังไง แชร์กันคนละครึ่ง ชอบแบบไหนไม่ชอบแบบไหนสามารถคุยกันได้”

ต้องไปขออนุญาตใครก่อนไหม?
”ไม่จำเป็นค่ะ ขออนุญาตตัวเองนี่แหละ(หัวเราะ)”

ความรักเป็นยังไงบ้าง?
"ก็มีคุยๆ อยู่บ้างค่ะ"

ใช่คนที่เป็นข่าวหรือเปล่า?
"เปล่าค่ะ เป็นนอกวงการแต่ตอนนี้ยังคุยแบบพี่น้องอยู่ค่ะ"

คุยนานหรือยัง?
"สักพักหนึ่งแล้วค่ะ แต่ตอนนี้เป็นพี่น้องกันไปก่อนดีกว่าเพราะโอ๋ยังไม่คิดเรื่องความรักเลยค่ะ ยังอยากทำงานอยู่ค่ะ เก็บเงินก่อน"

พอเรามีข่าวว่าคุยกับ “เอ วราวุธ” ออกมาแล้วคนที่คุยอยู่เขาว่ายังไงบ้าง?
"ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลยค่ะ"

เขาไม่ถามเหรอ?
"ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ค่ะ"

แสดงว่าเขาค่อนข้างมั่นใจ?
"อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน(หัวเราะ) คือไม่ได้คุยกับพี่เขาเลยเพราะต่างคนต่างทำงานด้วยค่ะ"

หมายถึงเอหรือใคร?
"กับพี่เอก็ไม่ได้คุยค่ะ คือข่าวมันมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริงเราก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เราก็พร้อมที่จะตอบคำถามอยู่แล้วค่ะ"

กลัวคนจะเข้าใจผิดหรือเปล่า?
"ไม่นะคะ ก็แล้วแต่คนมองเลยว่าเขาจะคิดยังไง เราไม่สามารถไปห้ามเขาได้"

เราอยากเคลียร์ไหม?
"โอ๋เคลียร์แล้วนะว่าไม่มีอะไร(ยิ้ม)"

เรียกว่าตอนนี้เหมือนเราจะเดินหน้ากับคนนอกวงการมากกว่าใช่ไหม?
”ยังไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเลยค่ะ ตอบกลางๆ แบบไม่ได้แอ๊บนะว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีอะไร ยังไม่มีใครที่คุยแบบจริงจังขนาดนั้น ยังอยากทำงานก่อน ทำตัวเราเองให้ดีก่อน ถ้าพร้อมเมื่อไรก็ค่อยมีค่ะ”

เราไม่มีความรู้สึกอยากแต่งงานบ้างเหรอ?
”ก็มีแต่มันเหมือนเลยจุดตรงนั้นมาแล้วเลยทำให้ไม่อยากคิดแล้ว อยากเก็บเงินก่อนค่ะ อยากทำตัวเองให้มั่นคงก่อนแล้วค่อยตัดสินใจที่จะมี”


วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

ญาญ่า ปัดเกาเหลา เจมส์ จิ เหตุถอนตัวงานพรีเซ็นเตอร์คู่

เพิ่งประเดิมประกบคู่ลงละครเรื่อง หนึ่งในทรวง แต่กลับมีข่าวเม้าท์มอยว่าพ่อหนุ่มซุปตาร์ เจมส์ จิรายุ กับนางเอกสาว ญาญ่า อุรัสยา เริ่มไม่กินเส้นกันซะแล้ว เพราะล่าสุดฝ่ายหญิงดันปฏิเสธร่วมงานพรีเซ็นเตอร์คู่ จนทำให้ส้มหล่มใส่สาว เบลล่า ราณี ที่ได้มาควงคู่พระเอกหนุ่มแทน 


งานนี้พอได้สอบถามนางเอกสาว ญาญ่า อุรัสยา ก็ออกให้สัมภาษณ์ว่า
มีข่าวว่าถอนตัวโฆษณาที่ต้องคู่กับเจมส์ จิ?
"ห๊ะ ไม่มีนะคะ ส่วนมากถ้าเป็นโฆษณาจริงๆ จะทำคนเดียว ถ้าคู่จริงๆ ก็มีกับพี่ณเดชน์ ส่วนใหญ่หากติดต่องานจะผ่านทางช่องมากกว่า ส่วนมากอยากก็จะรับงานคนเดียวมากกว่า ทำงานคนเดียวสบายใจ แต่เป็นพี่ณเดชน์ก็สเปเชียลหน่อย"

กลัวมีปัญหากับเจมส์ไหม?
"ไม่มีค่ะ หนูว่าน้องเขาก็น่าจะรู้นะคะ ไม่ได้ปฏิเสธเพราะมีน้อง น่าจะผ่านทางช่องเลย กับน้องไม่ได้คุยส่วนตัวอยู่แล้วค่ะ เจอกันที่กองก็จะไม่ได้คุยเรื่องงานเลย"

ถ้ามีติดต่อคู่เจมส์จริงๆโอเคไหม?
"แล้วแต่ช่องเลยค่ะ เท่าที่ผ่านมาช่องก็อยากให้รับคนเดียวมากกว่า ส่วนมากช่องก็จะรับงานคู่กับพี่ณเดชน์ค่ะ (หัวเราะ)"

ละครเรื่องใหม่ "หนึ่งในทรวง" เป็นยังไงบ้าง?
"ถ่ายไปน่าจะเกิน 40% แล้วค่ะ ตอนนี้เจมส์เป๊ะมาก ตอนนี้หนูโดนเทคมากกว่าค่ะ หนูไม่กล้าสอนเพราะตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ก็ค่อยๆ จูงกันไป ดีค่ะ น้องเองก็น่ารักลั้นลาอย่างที่เห็น สนุกดีค่ะ"

กลัวมีกระแสแฟนคลับเจมส์แอนตี้ไหม?
"ไม่หรอกค่ะ จริงๆ หนูทำงานกับใครก็ได้ ละครออกมาก็น่าจะมีงานคู่ พวกหนังสือ อีเว้นท์ ก็ต้องมีโปรโมทนิดนึง"

ขณะที่ทางด้านหนุ่ม เจมส์ ได้เผยถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า
"กับข่าวที่ญาญ่าปฏิเสธงานพรีเซ็นเตอร์คู่ผม แต่มาเป็นเบลล่าแทน อันนี้ผมไม่ทราบเลยครับ เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ที่จริงผมกับญาญ่าก็ไม่ได้มีปัญหากันเลย เราถ่ายละครด้วยกัน ก็สนิทกันมากขึ้น ส่วนทางแฟนคลับของผมก็ค่อนข้างดี เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วครับ"

ที่มา สนุกดอทคอม, gossipstar

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

ศรีริต้า โต้โดนปลด ทายาทอสูร จากเหตุถูกแฉแหลกของนักแสดงรุ่นใหญ่

นางเอกหน้าสวย ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น ถึงกับออกอาการงง หลังมีกระแสข่าวเม้าท์มอยจากโลกโซเชียลว่าเจ้าตัวถูกถอดออกจากบทนำในละครรีเมกสุดสยอง ทายาทอสูร เพราะเจอผลกระทบจากเหตุการณ์แฉแหลกของนักแสดงรุ่นใหญ่ เหมี่ยว ปวันรัตน์ จนเป็นเหตุให้นางเอกสาว เบนซ์ พรชิตา เข้าเสียบแทน


ล่าสุดในงานเปิดตัว "แอนลีนแคลเซียม 4 เท่า" ดาราสาว ศรีริต้า เจนเซ่น ได้ให้สัมภาษณ์ความว่า
มีข่าวว่าเราถูกถอดออกจากละครเรื่องทายาทอสูร ?
"ไม่เคยมีใครติดต่อริต้ามาเลยนะคะ ตอนนี้ที่ริต้ากำลังจะเล่นก็มีเรื่องเจ้าบ้านเจ้าเมือง ของพี่ไก่ วรายุทธ แค่เรื่องเดียวเองค่ะ"

ที่ผ่านมาเราเคยมีโอกาสพูดคุยถึงละครเรื่องนี้บ้างไหม ?
"ริต้าไม่ทราบนะคะ ของใครต้ายังไม่ทราบเลย"

ตามข่าวเขาบอกว่าตอนแรกวางตัวไว้ว่าจะเป็นเรา แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนให้ เบนซ์ เล่นแทน ?
"จริง ๆ นะคะ ยังไม่มีการติดต่อริต้าเลย พวกรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งบท ทั้งตัวผู้จัดริต้าก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีใครติดต่อเข้ามาจริง ๆ"

พอจะบอกได้ไหมว่าช่วงที่ผ่านมามีเรื่องไหนติดต่อเรามาบ้าง ?
"มีแค่เรื่องเดียวของพี่ไก่ค่ะ เพราะว่าริต้ารับงานทีละเรื่อง ซึ่งตอนนี้ก็ตกลงรับไปเรียบร้อยแล้วค่ะ"

ตั้งแต่มีข่าวว่าเราถูกถอดมันก็มีกระแสตามมาว่าเป็นเพราะเรื่องที่พี่เหมี่ยวโพสต์ ?
"ไม่จริงเลยค่ะ ข่าวไม่จริงเลย เพราะพี่เหมี่ยวเป็นคนที่น่ารักมาก ทำงานก็ง่าย ร่วมงานก็มีความสุขดี เราไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลยค่ะ"

ยืนยันว่าเราไม่ได้โดนถอดจากเรื่องทายาทอสูรแน่นอน ?
"ไม่มีค่ะ เพราะยังไม่เคยมีการติดต่อมาหา ริต้า เลยจริง ๆ อีกอย่างแฟนคลับ ริต้า ก็เคยเอาจากพันทิปมาให้ ริต้า ดู คือมีละครหลายเรื่องมากที่บอกว่า ริต้า จะเล่น แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วยังไม่เคยมีใครติดต่อเข้ามาหา ริต้า เลย"

เจอกระแสข่าวแบบนี้จะหาเวลาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้างไหม ?
"ริต้า ไม่กล้าถามค่ะ เพราะอย่างที่บอกเขาไม่ได้ติดต่อเราจริง ๆ ซึ่งอันนี้ ริต้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครไปเขียนหรือไปปั่นกระแสอะไรไว้บ้างในนั้น"

เราเคยถามผู้จัดการหรือคนดูแลคิวให้เราบ้างไหมว่าเรื่องมันมาได้ยังไง ?
"เขาเองก็งงเหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่เคยมีใครติดต่อเข้ามา"

สรุปตอนนี้เราก็มีละครที่กำลังรอเปิดกล้องเพียงแค่เรื่องเดียว ?
"ใช่ค่ะ ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องจริงนะคะ ส่วนข่าวต่าง ๆ ที่ออกมา ริต้า อยากขอให้ดูกันดี ๆ สักนิดนึง เพราะ ริต้าเองก็ไม่รู้เลยว่าใครไปปั่นกระแสอะไรไว้บ้าง ทำให้ดูเหมือน ริต้า เล่นละครหลายเรื่อง"

ที่มา:  Sanook.com

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

คิมเบอร์ลี่ เผย หมาก ขายรถหรูที่ซื้อร่วมกันไปแล้วจริง

มีกระแสเม้าท์ออกมาให้แซดว่า พระเอกหนุ่ม หมาก ปริญ ได้ขายรถหรูของนางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ ที่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นหุ้นส่วนร่วมกันซื้อมาใช้ด้วยซ้ำ ทำให้หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่ารถถูกขายไปเพราะอะไร


ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอสาว คิมเบอร์ลี่ จึงได้สอบถามถึงข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยให้ฟังว่า

เห็นมีข่าวว่าเราจะขายรถที่ซื้อกับหมาก ?
"อ๋ออันนี้พี่หมากเขาขายค่ะ มันเป็นชื่อของพี่หมากค่ะ"

เราได้มีส่วนในการซื้อขายอะไรไหม ?
"ก็ได้ไปดูด้วยค่ะ"

มีคนเม้าท์ว่าเราหุ้นกัน ?
"จริงๆก็มีการคุยกันไว้ว่าอยากจะได้รถที่เปิดประทุน ซึ่งเขาเป็นคนที่อยากได้มากกว่า และเราก็เป็นคนแนะนำและพาเขาไปแบบนี้มากกว่าค่ะ"

คนมองว่าเราซื้อของร่วมกันด้วยความเต็มใจ มีของใช้ร่วมกัน เป็นแฟนกันหรือเปล่า ?
"(หัวเราะ) ก็อย่างที่บอกแหละค่ะ บอกไปหลายครั้งมากค่ะ"

สรุปก็เป็นใช่ไหม ?
"ว๊าย(ยิ้ม)"

แบบนี้ฟิล์มรถต้องดำสนิทเลยใช่ไหม ?
"ไม่ค่ะ อย่างที่บอก ก็ไปทานข้าวด้วยกันไม่ได้ปิด"

สรุปก็คือหุ้นกัน ?
"เอิ่ม(ยิ้ม) ค่ะ"

มีคนทักหรือเปล่าว่าถ้าซื้อของร่วมกันแล้วจะมีปัญหาทีหลังนะ ?
"ไม่ๆค่ะ ถ้าพูดตามหลักความเป็นจริงแล้วก็เป็นรถของเขาแล้วค่ะ เขาก็ซื้อและเป็นชื่อของเขา"

เรามีเลือกไหมว่าต้องการสีนี้ แบบนี้ ?
"ก็มีช่วยนิดหน่อยค่ะ เรื่องมูลค่าอย่าพูดถึงเลยค่ะ"

เรามีช่วยออกเงิน ลงขันด้วยไหม ?
"(ยิ้ม) ก็มีนิดหนึ่งค่ะ"

ทำไมยอมให้เป็นชื่อเขา ?
"คือเราสนิทกันมากแล้วค่ะ จนถึงขั้นที่คิมคิดว่ามันคงไปไหนไม่ได้แล้วมั้ง ถ้าสมมุติว่ามีการที่เขาเอารถไป ก็คงไม่ขนาดนั้นค่ะ"

ทางผู้ใหญ่ว่ายังไงบ้าง ?
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ"

จุดประสงค์ที่ซื้อรถคันนี้คือนำมาใช้ด้วยกัน ?
"ไม่ค่ะ ไม่ได้ไปด้วยกัน จริงๆนะคือแทบจะไม่ได้ขับเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเราก็ขับรถของเราเอง เขาก็ขับรถเขาค่ะ"


เราไม่ซีเรียสใช่ไหมที่ซื้อรถร่วมกันแต่เป็นชื่อพี่เขาคนเดียว ?
"ไม่ได้ซีเรียสนี้ก็ขายแล้วค่ะ"

ทำไมถึงตัดสินใจขาย ?
"มีเป้าหมายอื่นแล้วค่ะ"

หรือขายเพื่อนำเงินไปซื้อเรือนหอ ?
"(หัวเราะ) ไม่ๆ คือเราไม่ค่อยได้ใช้เลย ก็เลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไร้สาระนิดหนึ่ง"

ขายรถไปแล้ว แพลนจะเอาไปทำอะไร ?
"ถามเขาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวค่อยคิดอีกทีว่าจะทำอะไร"

มีแต่งสายฟ้าแล่บไหม ?
"โอ๊ย คิดว่าหนูอายุเท่าไหร่เนี้ย(หัวเราะ) ไม่ขนาดนั้น ยัง ยังอีกนาน"

หลายคนเลยมองว่าเราเป็นแม่บุญทุ่มอยู่เหมือนกัน ?
"อย่าเลยค่ะ มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ใหญ่อะไรขนาดนั้น และเราก็ยังเป็นคนที่สนิทกันเหมือนเดิม"

กลัวคนจะเอาไปเม้าท์ไหม ว่าเราช่วยพี่เขาออก ?
"เม้าท์ไหมเหรอ ไม่น่าจะมีอะไรให้เม้าท์ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่"

ที่มา:  สนุกดอทคอม

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

ญาญ่า ยันสัมพันธ์ ณเดชน์ แค่พี่น้อง ปัดเป็นสาวตัวหลอก

ญาญ่า ถูกจับคู่กับ ณเดชน์ ให้เป็นข่าวด้วยกันได้ตลอด แต่ล่าสุดมีทั้งข่าวเม้าท์ว่า ญาญ่า เป็นแค่สาวตัวหลอกของ ณเดชน์ เพราะฝ่ายชายมีสาวตัวจริงที่คุยอยู่แล้ว แถมยังมีคนตั้งเพจแอนตี้ ณเดชน์-ญาญ่า ซะอีกด้วย 



เมื่อได้เจอ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ในงานเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ “พอนด์สฟลอเลส ไวท์ดิวตี้โรส” ที่หน้าตึกสีลม คอมเพล็กซ์ ซึ่งเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“เรื่องพี่ณเดชน์คุยสาวแล้วให้หนูเป็นตัวหลอกนี่หนูไม่รู้ค่ะ อันนี้ต้องไปถามพี่เขาเองค่ะ”

รู้ไหมว่าเขาคุยกับใครอยู่?
“อุ๊ย อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ หนูไม่ได้ถามอยู่แล้ว อันนี้ไปถามพี่เขาเองดีกว่าค่ะ จริงๆ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้”

แบบนี้จะกระทบความสัมพันธ์ไหม?
“ไม่หรอกค่ะ หนูกับพี่ณเดชน์ยังเป็นเพื่อนร่วมงาน ยังสนิทเหมือนเดิมค่ะ”

ได้คุยเรื่องนี้ไหม?
“ไม่ได้คุยเรื่องนี้นะคะ เป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟก็เลยไม่ได้คุยค่ะ" 

รู้สึกยังไงกับข่าวนี้? 
"ก็นิดนึงค่ะ ชีวิตนี้คงไม่อยากเป็นตัวหลอกของใคร (ยิ้ม)”

ความสัมพันธ์กับณเดชน์เป็นยังไง?
“ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ หนูว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ”

แล้วเมื่อไรณเดชน์จะเป็นตัวจริงหละ?
“หนูว่าแบบนี้ดีแล้วค่ะ คือเป็นคนที่สนิท”

เป็นพี่ชายที่สนิทที่สุดและสนิทตลอดไปรึเปล่า?
“เป็นกัลยาณมิตรค่ะ ก็อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปค่ะ”

ปกติเจอกันบ้างไหม?
“ตอนนี้ละคร “รอยฝันตะวันเดือด” ก็ปิดกล้องแล้วเลยเจอกันน้อยลง ต่างคนต่างไปเล่นละครกับคนอื่น ถามว่ามีไปนอกรอบไหมนอกจากละครไม่มีค่ะ ถ้ามีก็มีงานที่ไม่ใช่ละครค่ะ”

ไม่ซีเรียสที่มีข่าวออกมา?
“ไม่ค่ะ”

ล่าสุดมีคนตั้งเพจแอนตี้ณเดชน์กับเรา?
“ยังไม่เห็นค่ะ แต่จริงๆ เป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะมีคนชอบก็มีคนไม่ชอบด้วย (รู้สึกเฟลไหม) ด้วยการที่เราเป็นนักแสดงก็อยากให้คนชอบในผลงานอยู่แล้วค่ะ แต่ก็เข้าใจว่าเราก็ทำให้ทุกคนชอบไม่ได้”

พอทราบเรื่องนี้บ้างไหม?
“รู้ค่ะ มีมาตั้งแต่ตอนหนูเข้ามาแรกๆ แล้วค่ะ ตั้งแต่ที่ทำงานมาปีแรกๆ ก็มีมาเรื่อยๆ ค่ะ ก็มีคนเอามาให้ดูบ้าง พอเริ่มรุนแรงก็บล็อกค่ะ”

ในเพจระบุว่าจริงๆ เราไม่ค่อยเหมาะกับณเดชน์เท่าไร บอกว่าณเดชน์เหมาะกับสาวเซ็กซี่มากกว่า?
“หนูอาจจะยังไม่ถึงวัยเซ็กซี่มั้งคะ (ยิ้ม)”

จะลองไปเสิร์ชหาเพจนี้ดูไหม?
“ปกติถ้ามันรุนแรงก็จะเข้าไปดูค่ะ ไม่งั้นก็จะไปรบกวนคนอื่น ไปด่าคนนั้นคนนี้ ก็เลยต้องบล็อกกันบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ”

ได้คุยกับณเดชน์ถึงเรื่องเพจนี้หรือเปล่า?
“ไม่คุยค่ะ เป็นเรื่องที่ไม่น่าคุยค่ะ”

เห็นว่าจะเรียนจบแล้ว?
“ก็เทอมสุดท้ายแล้วค่ะ เหลือแค่วิชาเดียว บางทีก็ลืมไปบ้าง อีก 2 เดือนก็จบแล้วค่ะ”

ที่ผ่านมาทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ถือว่าหนักสำหรับเราไหม?
“ก็เป็นอะไรที่เหนื่อยมากค่ะเพราะยิ่งจุฬาฯ เนี่ยคะแนนเข้าห้องเรียนก็ 30 เปอร์เซ็นต์แล้วอะ”

ช่วงนี้มีเวลาเข้าไปเรียนไหม?
“มีค่ะ หนูมีเรียนวิชาเดียวเลยค่ะ วันเดียวด้วย หนูเหลือเก็บวิชานี้เป็นตัวสุดท้ายเพราะเทอมที่แล้วเก็บไม่ได้เพราะมันชนกันค่ะ”

มีแพลนเรียนต่อเลยรึเปล่า?
“น่าจะค่ะ ตอนนี้สมัครเรียนด้านจิตวิทยา แต่ยังไม่รู้จะติดรึเปล่าค่ะ ที่เรียนเพราะทางคณะอักษรศาสตร์ อินเตอร์ฯ เขาเน้นทางนี้อยู่แล้วค่ะเป็นสิ่งที่เรามีประสบการณ์อยู่แล้ว" 

เรียนต่อเลยแบบไม่มีพัก? 
"อาจจะพักค่ะเพราะเหลืออีกเทอมนึงที่หนูไม่ได้เรียนค่ะ ก็เลยมีเวลาพักอยู่”

แต่ตอนนี้ยังไม่ประกาศผล
“ยังค่ะ ยังไม่จบด้วยค่ะ”

ตอนนี้มีงานละครอะไรบ้าง?
“ตอนนี้มีเรื่อง “หนึ่งในทรวง” ก็ถ่ายไปได้เยอะแล้ว ส่วนงานละครอื่นก็มีค่ะ แต่ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่เลยยังไม่อยากพูด ก็ต้องดูไปเรื่อยๆ ค่ะ”

ยังเล่นบทลุคใส่ๆ แบ๊วๆ เหมือนเดิมไหม?
“ไม่รู้ค่ะ แล้วแต่ช่องค่ะ”


วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

ใบเฟิร์น เป็นปลื้มแฟนคลับฟิลิปปินส์แห่ต้อนรับ ปัดศัลยกรรม

หลังจากละคร “คุณผีที่รัก” ออนแอร์ คนก็ตั้งข้อสังเกตว่าสาว ใบเฟิร์น หน้าเปลี่ยนจนดูสวยขึ้นผิดหูผิดตา ทำเอาหลายคนแอบสงสัยว่าเจ้าตัวไปอัพหน้ามาหรือเปล่า


ล่าสุดได้เจอ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ พระรามเก้า ในงาน “7 สีคอนเสิร์ตพิเศษ รวมเด็ดละคร 7 สี” เจ้าตัวก็เล่าเรื่องไปงานที่ฟิลิปปินส์พร้อมกับชี้แจงเรื่องหน้าเปลี่ยนให้ฟังว่า
“ตอนที่ไปร่วมงานหนูตื่นเต้นมากเลยค่ะ คนเยอะมาก ไปครั้งที่ 2 ก็ยังไม่ค่อยชินเพราะเราพูดภาษาอังกฤษยังไม่ค่อยได้ ก็จะเกร็งๆ คุยอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เราก็ดีใจเพราะเราไม่ค่อยได้เห็นอะไรแบบนี้ มีป้ายมารอรับที่สนามบินหรือไม่ก็วิ่งตามรถ พวกนี้เป็นสิ่งที่หนูไม่เคยเจอ”

ทางโน้นได้ทาบทามเล่นหนังบ้างไหม?
”เหมือนมีคุยกับพี่เกล้านะคะ คือภาษาหนูไม่แข็งแรงจริงๆ เอาจริงๆ หนูก็อยากทำนะ แต่มันยากในเรื่องของเวลา การเดินทาง และอะไรหลายๆ อย่าง”

เห็นว่ามีละครซีรี่ส์ติดต่อมาด้วย?
”อันนี้หนูไม่แน่ใจเหมือนกัน อันนี้ต้องถามพี่เกล้าค่ะ”

แล้วงานพวกพรีเซ็นเตอร์หละ?
”เห็นว่ามีนะคะ เพราะพี่เกล้าเขาก็เกริ่นๆ มาว่าอยากให้หนูไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม”

ทำไมเราถึงได้ไปกับมาริโอ้?
”อาจจะเป็นเพราะหนูกับพี่โอ้มีแบรนด์เสื้อผ้าอยู่ที่โน้น อีกอย่างหนึ่งคือที่โน้นเขายังชอบเรื่อง “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” อยู่เลยค่ะ”

เราค่อนข้างป๊อบกับที่โน้น?
”หนูก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกันค่ะ(ยิ้ม) แต่ก็ดีใจนะคะ เพราะหลายๆ อย่างมันคาดไม่ถึงจริงๆ”

มีแพลนจะไปจัดมีตติ้งส่วนตัวให้แฟนคลับที่โน้นไหม?
”จริงๆ หนูอยากไปเที่ยวอยู่แล้ว อีกอย่างแฟนๆ ที่โน้นน่ารักมากๆ ถ้าจะให้จัดมีตติ้งจริงๆ สงสัยต้องมีล่ามให้หนูด้วย(หัวเราะ)”

แล้วผลงานที่ไทยหละเป็นยังไงบ้าง?
”ก็ดีนะคะ ละครออนแอร์แล้ว ก็ชื่นใจค่ะ โล่งใจเพราะรอมานาน”

สำหรับเรื่อง “คุณผีที่รัก” เห็นคนว่าเราสวยขึ้น?
"น่าจะเป็นเพราะระบบ HD หรือเปล่าคะ(หัวเราะ)" 

ไม่ได้ทำอะไรมาใช่ไหม? 
"ไม่เลยค่ะ เอาจริงๆ ตอนหนูดูก็ยังสงสัยเลยว่ามันดูสวยขึ้นนะ ดูสมส่วน เพราะเมื่อก่อนดูในกล้องจะหน้าอ้วนๆ บวมๆ ตอนนี้ก็ยังบวมนะแต่ดูน้อยลงหน่อยหนึ่ง" 

คนทักว่าเราไปทำมาบ้างไหม? 
"เขาจะทักว่าสวยทั้งเรื่องมากกว่าเพราะภาพดูยืดขึ้นค่ะ”

คนถามเรื่องหน้าตาเราเปลี่ยนไปตลอดเลย เราเบื่อบ้างไหม?
”จริงเหรอ ก็ไม่เบื่อนะ" 

เพราะน้ำหนักไม่คงที่หรือเปล่า?
"อาจจะใช่เพราะตอนนี้ก็เรื่อยๆ เลยค่ะ ไม่เคยทรงตัวเลยค่ะ ก็ไม่แปลกที่คนจะทักบ่อยเพราะเหมือนเราหายเป็นช่วงๆ อย่างตอนถ่ายละครช่วงหน้าบวมก็มีนะคะ คือมันแล้วแต่ช่วงจริงๆ ว่าจะออนแอร์ช่วงไหน”

ผู้ใหญ่มีให้เราไปทำหรือเติมอะไรบ้างหรือเปล่า?
"ไม่นะคะ แต่พี่เกล้าบอกให้ลดน้ำหนักค่ะ" 

เขาจะดูแลเรื่องน้ำหนักให้ตลอด? 
"ใช่ค่ะ คุมตลอดเลย"

ตั้งใจจะลดกี่กก.?
"หนูตั้งใจจะลดตลอดเวลาแต่ไม่เคยลดได้เลยค่ะ(หัวเราะ)"

เราก็แฮปปี้ที่คนชมว่าสวยขึ้น?
”ดีใจค่ะ”

อาจจะเป็นเพราะเรื่องหัวใจด้วยหรือเปล่า?
”ไม่นะคะ”

สัญญากับช่องใกล้จะหมดหรือยัง?
"น่าจะเหลืออีก 1 ปีมั้งคะ หนูไม่แน่ใจ"

คิดจะเซ็นต่อหรือเปล่า?
"ยังไม่มีนะคะ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้คุยเรื่องนี้กับใครด้วยมั้ง คือยังไม่รู้เรื่องค่ะ เรื่องจะต่อก็ต้องดูกับพี่เกล้าอีกทีว่าจะทำยังไงด้วยค่ะ"

หลายคนออกมาเป็นนักแสดงอิสระกันเยอะ เราคิดจะทำตามบ้างไหม?
”โห จริงๆ เรื่องนี้มันตอบยากเพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หนูไม่กล้าฟันธงหรือพูดไปทางไหนจริงๆ ค่ะ”

แต่ตอนนี้เราก็ยังแฮปปี้ใช่หรือเปล่า?
”แฮปปี้ดีค่ะ สนุกดี ละครแฟนๆ ก็ติดตามกัน เราก็ดีใจค่ะ”

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ต้นหอม ไม่นอยด์ คนมองอยู่ก่อนแต่ง ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป

ดูเหมือนหลังจากที่ ต้นหอม ศกุนตลา และ แทค ภรัณยู กลับมาอินเลิฟกันอีกครั้ง ความหวานจะออกรสชุ่มฉ่ำมากกว่าแต่ก่อนเยอะ จนเป็นคู่รักที่ถูกจับตามองตลอดๆ แถมยังมีกระแสเม้าท์มอยหลุดออกมาว่าตอนนี้ทั้งคู่ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกันหรือที่เรียกว่า "อยู่ก่อนแต่ง" เรียบร้อยแล้ว


ล่าสุดในงานเปิดตัว "เอสซ์เซน เมอร์ดิคอล คลินิก สาขาบางนา" บรรดาสื่อได้มีโอกาสเจอกับสาวต้นหอม จึงไม่พลาดจ่อไมค์ถามสักหน่อยว่าเจ้าตัวรู้สึกยังไงบ้างกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นถึงความสัมพันธ์ของเธอและหนุ่มแทคในขณะนี้...

ล่าสุดมีคนสังเกตว่าคู่เรากับแทคอยู่กันก่อนแต่ง ?
"จริง ๆ แล้วไป ๆ มาๆ มากกว่าค่ะ หอมไม่ได้อยู่ที่นั่นตลอดเวลา หอมใช้ชีวิตเหมือนคนที่เป็นแฟนกันธรรมดาทั่วไปจะบอกว่าไม่ไปหามาสู่กันมันเป็นไปไม่ได้ และด้วยวัยของ หอม หอม มองว่ามันเป็นธรรมชาติของคนที่เป็นแฟนกัน แค่เราเป็นดาราแค่นั้นเอง"

แต่อย่างภาพในอินสตาแกรมมันก็มีแบบเราทำกับข้าวให้เขากินดึก ๆ ดื่น ๆ ?
"ก็...มันปกตินะ (หัวเราะ)"

จะใช้คำว่าอยู่ด้วยกันก่อนได้ไหมสำหรับเรากับแทค ?
"หอมมองว่าช่วงศึกษาดูใจมันต้องไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว คือถ้าวันไหนหอมไปขึ้นคอนโดผู้ชายคนอื่นอันนั้นมันค่อยเป็นข่าวดีกว่า"

แต่ภาพที่โพสต์มันก็เป็นช่วงกลางคืนคนก็เลยมองว่าเราไปค้างคืนบ้านเขา ?
"ชีวิตมันก็ต้องมีทั้งกลางคืนและกลางวัน ถ้าเราสะดวกตอนไหนเราก็ไปหากันตอนนั้นค่ะ"

พ่อแม่เราเข้าใจไหมกับกระแสที่คนมองแบบนี้ ?
"พ่อแม่เป็นห่วงผู้ชายค่ะ (หัวเราะ) คืออายุหอมก็ไม่ใช่เยอะ ๆ แล้วนะ อีกอย่างมันก็แล้วแต่ครอบครัวด้วย ซึ่งครอบครัวหอม พ่อแม่หอมไม่ได้ซีเรียส และที่สำคัญการกอดการหอมมันก็เป็นการแสดงความรักทางภาษากายอย่างหนึ่งด้วย ถ้าหากครอบครัวอื่นจะมองว่ามันไม่เหมาะสมยังไงพ่อแม่เขาก็คงไปสอนลูกเขาเองค่ะ"

ส่วนตัวเรารู้สึกนอยด์ไหมกับพวกคอมเม้นท์แอนตี้ในไอจี ?
"ถ้าคอมเม้นท์ไม่ดีแสดงว่าเราดังค่ะ (หัวเราะ) หอมไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์อยู่แล้วค่ะที่ใครจะมาแตะต้องไม่ได้"

พอคนจับจ้องเรื่องอยู่ก่อนแต่งแบบนี้เราจะไปหาเขาน้อยลงไหม ?
"ไม่ค่ะ หอมอยากให้คนอื่นเปลี่ยนความคิดมากกว่า เพราะหอมไม่ได้ทำอะไรผิด"

เหมือนเราอยากเปิดรับความคิดแบบฝรั่งมากขึ้น ?
"หอมมองว่าสังคมไทยใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้วค่ะ แต่เรายังโลกสวยเรายังรู้สึกว่าไม่ได้เราต้องไปอยู่กันหลังแต่งงาน ซึ่งหอมอยากถามกลับค่ะว่าในชีวิตจริงมีสักกี่คู่ที่ทำแบบนั้น วันนี้หอมไม่ได้ยอมรับว่าอยู่ก่อนแต่งและไม่ได้ปฏิเสธว่าเราไม่ได้ไปมาหาสู่กันนะคะ หอมแค่บอกว่าทุกวันนี้หอมใช้ชีวิตเหมือนปกติ ฉะนั้นคนปกติใช้ชีวิตยังไงหอมก็ใช้ชีวิตแบบนั้นแหละค่ะ"

ที่มา สนุกดอทคอม

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

งานเข้า หนูแหม่ม สุริวิภา หลุดปากแม่บ้านเป็นหญิงหมดคุณค่า

จากเหตุที่พิธีกรอารมณ์ดี หนูแหม่ม สุริวิภา ได้พูดกลางรายการสมาคมเมียจ๋าว่า "ผู้หญิงถ้าแต่งงานแล้วเลิกทำงานคุณค่าจะหมดไปทันที" กลายเป็นเรื่องดราม่าในโลกออนไลน์ทันที ซึ่งประโยคนี้ทำเอาสาว ๆ หลายคนที่แต่งงานและใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านออกอาการปรี๊ด พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา


บางคนมีการนำเอาประโยคนี้ไปตีความในทำนอง เป็นแม่บ้านไม่ทำงานตัวเองจะไร้คุณค่า แต่ในอีกมุมมองนึงคือ คนที่แต่งงานและทำตัวไม่เป็นประโยชน์นั่ง ๆ นอน ๆ หรือเปล่าที่จะหมดคุณค่าในตัวเอง


ขณะที่ หนูแหม่ม ได้โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมเกี่ยวกับธรรมะว่า สังคมวันนี้ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น มีสติให้มากขึ้น เพราะมันอยู่ยากขึ้นทุกวัน แต่จงอย่าสูญเสีย ความเชื่อมั่นและศรัทธาในการทำความดี (dhammatan)

คลิปรายการจากเหตุการณ์ดังกล่าว ดูและพิจราณากันดูเองนะ



ที่มา สนุกดอทคอม, ยูทูบ

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

เจนี่ เปิดใจน้ำตาคลอขอลืมอดีตขมขื่น ขอบคุณทุกกำลังใจ ยัน เจสัน ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนสนิท

หลังกลับจากบินไปพักใจที่อเมริกา เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ร่วมงานเปิดละคร โดยวันนี้นางเอกสาวขอโทษสื่อที่ยังไม่พร้อมเปิดใจ รับสภาพจิตใจยังไม่แข็งแรง และ ขอบคุณแฟนๆ ที่ให้กำลังใจ พร้อมยืนยัน เจสัน เป็นเพื่อนสนิท


หลังจากที่ นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ บินไปรักษาแผลใจที่อเมริกาเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ล่าสุดก็ได้ออกมาร่วมแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ เลือดมังกร "เสือ สิงห์ กระทิง แรด หงส์" ที่ช่อง 3 หนองแขม ด้วยรอยยิ้มที่สดใส แต่เจ้าตัวยอมรับว่าสภาพจิตใจยังไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้สื่อข่าวถามว่า

เห็นตอนอยู่อเมริกาออกกำลังกายบ่อย? 
"ปกติ เจนี่ก็ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้จะออกเป็นระยะๆ" 

อยู่ที่นู่นเป็นอย่างไรบ้าง? 
"อยู่ที่อเมริกาก็ดีค่ะ ใช้ชีวิตปกติ ส่วนเรื่องสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ ก็เกือบแข็งแรงแล้ว ครึ่งๆกลางๆ เวลาก็คงจะช่วยทำให้ดีขึ้น ก็ขอกลับมาลุยงานจริงๆ จังๆ เลยค่ะ"

แล้วหนุ่มลูกครึ่งที่ชื่อเจสันเป็นใคร? 
"เจสันก็เป็นเพื่อนสนิทจริงๆ ค่ะ ตอนนี้ไม่มีใครมาดามใจ"

กลับมาถึงได้เจอเพื่อนๆ หรือยัง? 
"ได้เจอนานาแล้ว เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามีปาร์ตี้วันเกิดค่ะ ต้องบอกว่าขอบคุณทุกข้อความบนไอจี เจนี่มีโอกาสได้อ่านหมดทุกข้อความ ขอบคุณมากจริงๆ เพราะเป็นกำลังใจที่สำคัญ รวมทั้งขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่ตอนนั้นยังไม่พร้อมจะพูดอะไรด้วยความอ่อนแอและความไม่พร้อมของหัวใจ วันนี้จริงๆ เจนี่ก็ยังไม่พร้อม อะไรที่เป็นอดีตก็ขอให้มันเป็นอดีตผ่านไปเนอะ begin again ค่ะ"

ที่มา หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

แพมแพม ชี้แจงเหตุถูกกล่าวหายกพวกรุมเพื่อนบ้านจนสมองบวม

หลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวของดาราสาวช่อง 3 คนหนึ่ง ก่อเหตุยกพรรคพวกไปทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด แพมแพม ดาราธิป ดาราสาวช่อง 3 คู่กรณีเหตุยกพวกรุมเพื่อนบ้านจนสมองบวม ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงแล้ว


จากกรณีที่มีกระแสในโลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจประเด็นการทำร้ายร่างกายที่มีการโพสต์ร้องขอความเป็นธรรมของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pinit Asavanuchit หรือ CyberJom โพสต์ข้อความระบุว่า
"เป็นดาราช่องสามนี่ใหญ่คับบ้านคับเมือง ขับรถในหมู่บ้านเร็วเป็นประจำ พอมีคนเดินไปขอร้องให้ระมัดระวัง เดี๋ยวจะชนเด็กๆ ที่ออกมาเล่นหน้าบ้าน ยกพวกชายฉกรรจ์สามคนมากระทืบคนที่ไปบอกถึงบ้าน ต่อหน้าลูกเมียเขา ทั้งลูกทั้งเมียร้องขอ จนสะบักสะบอมสมองบวม เพื่อนบ้านต้องออกมาช่วย เหี้-มะ"

ขณะที่ แพมแพม ดาราธิป นักแสดงสาวช่อง 3 ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมเป็นข้อ ๆ โดยบางช่วงบางตอนระบุว่า
"แพมแพมขอปรึกษานะคะต้นเรื่องมาจากลูกบ้านหลังนึงในหมู่บ้านแพม ได้มาที่บ้านแพมและกล่าวว่าบ้านแพมขับเร็วในซอยบ้านเค้า เค้าไม่พอใจและบอกห้ามมาผ่านซอยบ้านเค้าอีก ซึ่งเป็นถนนของหมู่บ้านใครจะเข้าออกยังไงก็ได้ และตามหลักความจริง ขับในหมู่บ้าน คุณพ่อไม่เคยขับเกิน 40 และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเขามาก่อน.





นอกจากนี้ แพมแพม ยังได้โพสต์อีกหนึ่งข้อความที่ระบุอีกว่า
"ความหมายไม่ผิดเพี้ยนค่ะ แล้วยังคงมาว่าคุณพ่อแพมว่าไม่จบ น้องชายแพมเลยลงมาอีกรอบเพราะเป็นห่วงคุณพ่อ เค้าวิ่งเข้ามาหาน้องชายแพมแล้วก็ต่อยกัน 2 คน ย้ำนะคะว่า 2 คน เพราะเค้าพยายามบอกว่าเค้าโดนรุม"


งานนี้คงต้องติดตามความชัดเจนกันต่อ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างพูดตรงข้ามกันเกือบทุกกรณี ถ้ามีความคืบหน้าจะได้รายงานให้ทราบกันต่อไป


ที่มา Sanook.com

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

จ๊ะจ๋า ตอกกลับ หนิม นิ่มๆ พูดเคลียร์ไปชัดเจนควรจะพอได้แล้ว

กรณีรักสามเส้ากรณีนักแสดงสาว จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม เข้าไปแทรกกลางความรักของ หนิม AF5 คะนึงนิจ ธนพิชชาภรณ์ กับนักร้องหนุ่มรุ่นใหญ่ จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว จนรักล่ม ดูท่าจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว เพราะล่าสุดหนิมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าได้มีการโทรศัพท์เคลียร์กับจ๊ะจ๋า แต่กลับโดนอีกฝ่ายตอกกลับด้วยถ้อยคำรุนแรงชนิดที่ตัวเองก็นึกไม่ถึง และตอนนี้ก็ได้ยุติความสัมพันธ์กับจิ๊บไปเรียบร้อยแล้ว


ล่าสุดในงานประกาศเกียรติคุณ รางวัล “แม่ดีเด่นแห่งปี” และ “ลูกตัวอย่างกตัญญู” และรางวัล “ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม” ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๗ ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอจ๊ะจ๋า จึงได้สอบถามเรื่องดังกล่าวก็ได้ความมาว่า

“จ๊ะจ๋า ว่าคำพูดของคนเรามันสามารถจะพูดจริง พูดเกินจริง หรือว่าพูดโกหกก็ได้ แต่ว่าสุดท้ายแล้วใจของเราจะรู้ตัวเองว่าความจริงเป็นยังไง สำหรับ จ๊ะจ๋าบอกได้ว่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น โดยเฉพาะกับคนที่ จ๊ะจ๋า ไม่ได้รู้จักและไม่ได้สนิทสนม และยิ่งเป็นความอ่อนไหวแบบนี้ยิ่งไม่มีทางที่ จ๊ะจ๋า จะทำแบบนั้น ทีนี้ขอความกรุณาอย่าเอา จ๊ะจ๋า ไปเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์อะไรแบบนี้เลย จ๊ะจ๋า รู้สึกว่ามันเกินไปมากแล้ว และการที่เราได้เคลียร์พูดอะไรไปอย่างชัดเจนมันก็น่าจะจบแล้ว และไม่ควรจะมีประเด็นอะไรต่อที่โยงไปเกาเหลาผู้หญิงกับผู้หญิง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ”

“คือเราไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่เรารู้ที่เราคิด เราเป็นคนในสื่อสารมวลชน คำพูดของดารานักแสดงกับคำพูดของประชาชนทั่วไปมันต่างกัน เวลาที่เราเป็นนักแสดงสิ่งที่เราพูดออกไปคือสิ่งที่ต้องเป็นความรับผิดชอบ ต่อสังคมด้วย รับผิดชอบต่อคนที่รับข่าวสารด้วย เวลาจ๊ะจ๋าเจอพี่ๆ นักข่าวก็จะบอกในสิ่งที่ จ๊ะจ๋า เป็น และพูดความจริงด้วยความจริงใจ ก็ขออนุญาตอย่าเอา จ๊ะจ๋า ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยไม่ว่าจะเป็นข่าวใดๆ ก็ตาม จ๊ะจ๋า เห็นหมด ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกคำติชม ขอบคุณที่มีคนมาบอกว่าพอได้แล้ว จบได้แล้ว มันไม่ได้ช่วยให้สังคมเรามีอะไรที่ดีขึ้น มันไม่ได้สร้างสรรค์อะไรเลยกับข่าวแบบนี้”

กลัวไหมว่าเรื่องไม่จบ เพราะคนอยากรู้ว่าใครพูดจริง ใครโกหก?
“จ๊ะจ๋าเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มันจะไม่เกิดกับจ๊ะจ๋ากับคนรอบข้างแน่นอน เพราะว่าตัว จ๊ะจ๋า รู้ดีว่าเราเป็นคนยังไง และคนรอบข้าง จ๊ะจ๋า โดยเฉพาะครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน คนในกองถ่าย ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เขาก็จะรู้จักเราดีว่าเราเป็นคนยังไง สุภาพยังไง เอาเป็นว่าคนที่วิจารณ์เรา คนที่ตีความเรา เขาเป็นคนที่ไม่รู้จักเรา เพราะ ฉะนั้นเราควรจะแคร์คนที่รู้จักหรือไม่รู้จักล่ะ แล้วการที่มีเรื่องราวแบบนี้ออกมา จ๊ะจ๋า ถามว่าข่าวนี้สร้างสิ่งที่ดีให้กับ อาชีพของเราหรือเปล่า สร้างสิ่งที่ดีให้กับความภูมิใจในตัวเราหรือเปล่า หรือสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมหรือเปล่า คำตอบนี้ขอให้คนที่ได้รับฟังใช้วิจารณญาณเอาเองค่ะ”

โกรธหนิมหรือไม่อย่างไร?
“ไม่โกรธหรอกค่ะ จ๊ะจ๋า ว่าเราเป็นพี่นะ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าพี่ยังไงก็เป็นพี่วันยังค่ำ ในวงการบันเทิงพี่น้องเพื่อนฝูงก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถ้าเกิดเราแก้ปัญหาด้วยเหตุและผลทุกอย่างก็จะเป็นเหตุผล แต่ปัญหา ใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้คิดก่อนพูดหรือว่าใช้อารมณ์นำแก้ปัญหา มันก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเรารู้ตัว เรามีสติอะไรที่มันถาโถมเข้ามาเราก็ยืนเฉยๆ แล้วก็แค่บอกว่าเราเป็นยังไงเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปหวั่นไหวกับมัน เอาเป็นว่า จ๊ะจ๋า และคนรอบข้างทั้งหมดรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

ยังได้คุยกับ “จิ๊บ วสุ” อยู่หรือเปล่า?
“ก็ได้คุยกับพี่จิ๊บค่ะ และยังคงคุยกันถึงประเด็นเรื่องข่าวพวกนี้แหละว่ามันเป็นยังไงถึงไหนกัน คืออายุของข่าวตามความเข้าใจของเรามันก็ควรจะมีเวลาของมัน สัมภาษณ์ไปแล้วอีก 2-3 วันเป็นข่าวทำงานและข่าวก็จะจบไป ก็ยังสงสัยว่าวงจรของข่าวนี้มันกระเพื่อมแรงจังนะ เพราะอะไร คำตอบที่จ๊ะจ๋าคิด คำตอบที่หลายๆ คนคิดก็อาจจะตรงกันหรือไม่ตรงกันก็ได้ แต่จ๊ะจ๋าขออนุญาตไม่อยู่ในวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่เป็นความจริงหรือมีอะไรที่แอบแฝง”

“แต่พี่จิ๊บจะไปเคลียร์กับเขาหรือเปล่าอันนี้จ๊ะจ๋าตอบไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเราไม่ได้พูดคุยกันเพื่อเคลียร์ เราพูดคุยกันในเชิงของการทำงานร่วมกัน แล้วก็มีโอกาสมีเวลาว่างก็นั่งคุยกันพี่เป็นยังไง น้องเป็นยังไง แล้วก็ไม่ใช่คุยกันสองคน แต่เป็นการคุยร่วมกันหลายคน เหมือนกับว่าตอนนี้มีที่ปรึกษาเยอะแยะมากมายที่บอกเราว่าเราควรจะทำยังไงกับ สิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมันก็ตรงกับที่จ๊ะจ๋าคิดว่าถ้าเรายืนอยู่จุดไหนแล้วเรามั่นคง เราไม่จำเป็นต้องก้าวออกจากจุดนี้ไป เราอยู่กันคนละจุดอยู่แล้วในทุกๆ คน”

“จ๊ะจ๋าจะกังวลเรื่องความรู้สึกของคนที่อ่านข่าวมากกว่า จ๊ะจ๋าแคร์คนที่เป็นแฟนละคร แคร์คนที่ติดตามข่าวสารเรา และเด็กๆ หลายคนเห็นเราเป็นไอดอล แล้วข่าวแบบนี้มันเป็นข่าวที่ไม่ดี เขาก็จะตั้งคำถามว่าจริงหรือเปล่า ซึ่งเขาก็มีสิทธิจะตั้งเพราะว่าเขาไม่ได้รู้จักเรา ทีนี้เราเป็นนักแสดงเป็นคนของประชาชน ส่วนหนึ่งเราอยู่ได้เพราะแรงสนับสนุนจากพวกเขา แล้วจ๊ะจ๋าไม่มีโอกาสที่จะบอกว่าจริงๆ มันเป็นยังไง อยากจะเอาหลักฐานทุกอย่างมายืนยันตรงหน้าเลย แต่ว่าทำแล้วได้อะไร”

คิดว่าเราถูกใช้เป็นเครื่องมือโปรโมตอะไรหรือเปล่า?
“คิดว่าเราตกเป็นเครื่องมือไหม ดิฉันคือเหยื่อเหรอคะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าสิ่งที่ทุกคนคิดหรือสิ่งที่คนอื่นคิด จ๊ะจ๋า ไม่สามารถจะบอกได้ว่า มันใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง เพราะมันคือความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่จ๊ะจ๋าอยากจะบอกในฐานะที่ตัวเองอยู่ในวงการทำงานมานานแล้วนะคะ คือการที่เราจะก้าวไปสู่ในจุดที่มันมากกว่านี้ก็คือคุณภาพของงาน การที่เราตั้งใจทำงาน มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับนักข่าว กับเพื่อนในกองถ่าย มีความจริงใจกับสิ่งที่เราทำในเรื่องของงาน จ๊ะจ๋าว่ามันสำคัญกว่าและมันอยู่ยั่งยืนกว่าการที่เรามีข่าวในเรื่องแบบนี้ ไม่อย่างนั้นจ๊ะจ๋าก็คงมีข่าวตั้งแต่เข้าวงการแล้วล่ะ (ยิ้ม)”

“แต่ถามว่ากระทบกับภาพลักษณ์ของเราไหม อันนี้กระทบแน่นอนเพราะว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถามว่าจ๊ะจ๋าหวั่นไหวไหม ก็ถ้าเรามั่นใจในความถูกต้องความจริงใจของเราก็ไม่ต้องกลัว สัก วันหนึ่งข่าวเรื่องนี้มันก็จะผ่านไปเอง อย่างที่บอกว่ามันเหมือนลม ถ้าเราไปอ่อนไหวกับมัน เราก็จะกลายเป็นเครื่องมือของมัน เพราะฉะนั้นถ้าเรามีสติเราก็จะรู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไรค่ะ”