วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

บอย ไม่ซีเรียสหมอดูทักสาวที่คุยไม่ใช่เนื้อคู่

พระเอกหนุ่มเคราเสน่ห์ “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ออกมายืดอกรับแบบไม่ปิดบังถึงภาพหลุดควงสาวสวยหน้าตาดีไปกินข้าว 2 ต่อ 2 ว่าเป็นสาวที่กำลังศึกษาดูใจกันอยู่จริง และความสัมพันธ์ก็ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 


ล่าสุดได้เจอพระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ขณะมาร่วมงาน “Thailand International Film Destination Festival 2014″ ณ สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงได้ถามถึงเรื่องที่หมอดูชื่อดังออกมาทักว่า สาวที่หนุ่มบอยคุยอยู่นั้นไม่ใช่คู่แท้ ซึ่งเจ้าตัวก็เผยถึงประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

“เรื่องที่คนดูดวงให้ก็ต้องเป็นเรื่องที่ฟังหูไว้หู เวลาเราคุยกับใครเราก็ควรดูแลความสัมพันธ์ให้ดีที่สุดก็พอ ส่วนเรื่องที่ว่าจะเป็นเนื้อคู่จริงหรือเปล่าก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตและเวลาเป็นตัวตัดสินดีกว่าครับ”

ผู้หญิงที่เป็นเนื้อคู่ของเราจะต้องเด็กกว่า 5 ปี?
“อย่างที่บอกไปผมไม่ค่อยซีเรียสเรื่องอายุเท่าไหร่ ขอแค่คุยกันรู้เรื่อง ใช้ชีวิตแล้วมีความสุขก็พอ”

ซีเรียสไหมที่ถูกหมอดูทักแบบนี้?
“ไม่ครับ”

ถามถึงภาพที่ออกมาเห็นหน้าผู้หญิงชัดเจน แล้วแฟนคลับว่าอย่างไรบ้าง?
“เขาก็บอกน่ารักดี ไม่ได้ว่าอะไรมาก ส่วนใหญ่คนที่เป็นเพื่อนผม เขาก็รู้จักกับคนที่ผมคุยด้วยอยู่แล้ว”

ทางครอบครัวฝ่ายหญิงถามถึงข่าวบ้างไหม?
“ผมยังไม่ได้ทราบเลยครับว่าทางบ้านเขาว่ายังไงบ้าง”

มีโอกาสได้เจอกับพ่อแม่อีกฝ่ายหรือยัง?
“ยังครับ”

แล้วกับน้องวันใหม่ได้เจอกับหวานใจของเราแล้วหรือยัง?
“ไม่ได้เจอครับ แต่วันใหม่เข้ากับคนง่าย คนที่ผมคุยด้วยเขาก็ชอบเด็ก ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

หลังจากมีข่าวก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันปกติ?
“ปกติครับ แต่ไม่ถึงขั้นเปิดตัว แต่ถ้ามีคนถามมาผมก็ตอบ”

มีภาพถ่ายคู่กันไหม?
“มีครับ แต่ไม่ได้อัพลง ยังไงวันนึงก็คงมีคนเห็นอยู่แล้วแต่อยากให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก่อน กลัวว่าเขาจะไม่ชินเท่าไหร่”



วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

เผือก ยอมรับแพลนแต่ง ลูกจ๋า ปีหน้า

นักแสดงหนุ่มอารมณ์ดีมากฝีมือ เผือก-พงศธร จงวิลาส เผยมีแพลนแต่งแฟนสาวนอกวงการ “ลูกจ๋า-วรินทรา ฤทธิ์สกุลชัย” ที่คบหากันมา 2 ปีกว่าแล้ว


พอได้มาเจอหนุ่มเผือก ที่มางานเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้ง “พี่มาก พระโขนง”ณ ลานหน้ามาดามทุสโซ กรุงเทพฯ บริเวณ Sky Dining ชั้น 6 สยาม ดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเจ้าตัวก็เผยให้ฟังว่า

“จริงๆยังไม่ได้ฟันธง 100 เปอร์เซ็นต์ว่าชัวร์ ถ้าถามว่าอายุปูนนี้เลข 3 แล้วก็ต้องมีคุยและวางแพลนแล้ว ยังไม่ได้มีการเข้าไปสู่ขอ เนี่ยเดี๋ยวป๊าเขาดูทีวี เขาด่า เดี๋ยวต้องไปคุยอย่างเป็นทางการอีกทีนึง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะครอบครัวเขาก็ไว้ใจให้ผมดูแล”

มีข่าวออกมาว่าจะแต่งงานแล้วแฟนสาวว่าอย่างไรบ้าง?
“เขาบอกแต่งแบบจีนเหรอ ยังไม่รู้เลย เขาต้องคลุมผ้าแดง ยกน้ำชาหรือเปล่า เขาก็ขำไม่ได้ซีเรียสอะไร เขาบอกว่าเสียดายเงินเนอะ จัดงานใช้เงินเยอะ หรือไม่ต้องแต่ง เอาเงินไปเที่ยว เขาเป็นคนไม่ค่อยซีเรียสอะไรมาก”

วางแพลนแต่งเมื่อไหร่?
“ปีหน้าครับ ช่วงต้น กลาง ปลายปีเดี๋ยวว่ากัน แต่คิดว่าไม่น่าจะเกินกลางปีมั้ง”

จะเข้าไปสู่ขอเมื่อไหร่?
“คงเร็วๆนี้แหละเพราะเริ่มเป็นข่าวแล้ว คุณพ่อเขาดูทีวีคงเห็นแล้วครับ”


เก็บเงินค่าสินสอดได้เท่าไหร่แล้ว?
“นี่แหละครับ เหตุผลที่ยังไม่ไปขอ เกิดเขาเรียกสินสอดมาแพง จะแย่ เดี๋ยวขอเก็บเงินอีกหน่อย”

ดูฤกษ์?
“เรื่องดูฤกษ์ผมไม่ค่อยซีเรียส แต่ที่บ้านซีเรียสมากอยากไปดูฤกษ์ให้เหลือเกิน เดี๋ยวให้ผู้ใหญ่จัดการ”

พิธีการต้องแต่งแบบจีน?
“ยังไม่ชัวร์ครับ แต่ด้วยความที่เป็นลูกคนจีนทั้งคู่ เดี๋ยวต้องคุยกันอีกที อยู่ที่ผู้ใหญ่ครับ”

พร้อมทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว?
“พร้อมครับ”

คบหากันมานานเท่าไหร่?
“ 2 ปีกว่าแล้วครับ ถ้าได้แต่งปีหน้าก็ 3 ปีกว่า ผมว่าก็โอเคแล้วนะ”

กับสาวคนนี้เราถูกใจตรงไหนถึงอยากใช้ชีวิตร่วมกัน?
“คนเราสามารถเจอคนที่ใช่ได้ทุกเมื่อ ถ้าเราได้เจอในเวลาที่พอเหมาะ ด้วยวัยและจังหวะอะไรหลายๆอย่าง เขาก็จะกลายเป็นคนที่เราต้องอยู่ด้วย เขาเป็นคนที่ทำให้ผมเรียบร้อย สงบเสงี่ยมได้ กำราบเราอยู่มาก”

เขาสามารถปราบเจ้าชู้เราได้?
“ผมไม่เจ้าชู้อยู่แล้วครับ (ยิ้ม) เมื่อก่อนอาจจะมีเล่นๆบ้าง ชอบแซว หยอกสาวๆ เดี๋ยวนี้ห้ามเล่นแล้วครับ เล่นไม่ได้มาหลายปีแล้ว ดุมากครับ”

เรียกว่ากลัวแฟน?
“ยินดีครับ (ยิ้ม) คนกลัวแฟนเป็นคุณสมบัติที่ดีครับ กลัวเมียเจริญทุกคนนะครับ”

หลังแต่งแล้วอยากมีน้องเลยไหม?
“ก็คุยกันอยู่ว่าเราจะเลี้ยงเด็กได้หรือเปล่า ยุคนี้โตมาลำบาก แต่ผมอยากมีแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่โตมายิ่งไม่อยากให้ลูกเจอสังคมอย่างนี้ กลัวลูกใจแตก เดี๋ยวคุยกันเรื่องลูกอีกที อย่างคุณพ่อผมเขาก็รออุ้มหลานอยู่”

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

ดิว อริสรา ลื่นล้มกระดูกข้อมือร้าว เผยแฮปปี้ดีมี พี่ไผ่ ดูแล

นางร้ายหน้าสวย ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนถึงได้ลื่นล้มในห้องน้ำจนกระดูกข้อมือร้าว จนต้องรีบวิ่งเข้าโรงพยาบาลให้คุณหมอเข้าเฝือกเป็นการด่วน โดยมีพี่ชายคนสนิท ไผ่ วันพอยท์ ช่วยดูแลเป็นพิเศษ


ล่าสุดมีโอกาสได้เจอสาวดิว ในงานบวงสรวงละคร "กลกิโมโน" ของค่าย "บอร์ดคาซท์" บรรดาสื่อก็เลยต้องเข้าไปอัพเดทสักหน่อยว่าตอนนี้สาวดิวรักษาตัวไปถึงไหนแล้ว และช่วงที่ผ่านมาพี่ชายคนสนิท ไผ่ วันพอยท์ ช่วยดูแลประคบประหงมเต็มที่เหมือนเดิมหรือเปล่า

วันนี้เห็นว่าเราเข้าเฝือกแขนมาด้วยเกิดอะไรขึ้น ?
"ดิวลื่นล้มในห้องน้ำค่ะ กระดูกข้อมือก็เลยร้าว ซึ่งอาการตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว คุณหมอใกล้จะให้เอาออกแล้วค่ะ เพราะตอนที่ล้มแรก ๆ เลยคุณหมอเขาจะให้เข้าเฝือกแข็ง แต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นแบบอ่อนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวันที่ 25 นี้ก็จะถอดอออกทั้งหมดค่ะ"

คุณหมอได้แนะนำให้เราระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษไหมระหว่างช่วงที่เข้าเฝือก ?
"ห้ามทุกอย่างค่ะ ขนาดตักข้าวคุณหมอยังห้ามเลย เนื่องจากว่าดิวไม่ยอมผ่าตัดไงคะ เพราะฉะนั้นการดามให้กระดูกเชื่อมกันเองมันเลยต้องระวังเป็นพิเศษ"

ตอนที่เราล้มแรก ๆ อาการเป็นยังไงบ้าง ?
"ตอนแรกที่ล้ม ดิวสารภาพเลยว่าไม่คิดว่ากระดูกจะร้าว รู้สึกแค่ว่ามันปวดเฉย ๆ อาจจะเป็นเพราะเส้นเอ็นอักเสบ จากนั้นดิวก็สระผม ไดร์ผม แต่งหน้าปกติ จนเวลาผ่านไปสักพักดิวรู้สึกว่ามันบวมขึ้นจนมือขยับไม่ได้ เลยไปหาหมอถึงได้รู้ว่ากระดูกร้าวค่ะ"


หลังจากเอาเฝือกออกแล้วคิดว่าจะมีอะไรน่าห่วงอีกบ้างไหม ?
"ก็คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่ดิวอาจจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้นสักหน่อย ของหนักก็ห้ามยกอะไรประมาณนั้น เพราะว่ามันยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็น"

ทางด้านพี่ไผ่เขาว่ายังไงบ้างกับอาการกระดูกร้าวของเราครั้งนี้ ?
"จริง ๆ พี่ไผ่เป็นคนพาไปหาหมอค่ะ ซึ่งเขาก็แอบดุเหมือนกันนะเพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวต่อไปนี้เรื่องสุขภาพเขาจะเป็นคนดูแลให้เอง เนื่องจากว่าดิวเป็นคนที่แบบไม่ค่อยสนใจอะไร ส่วนนอกนั้นพี่เขาก็พาไปกินข้าว ขับรถให้ทั่วไปค่ะ"

เขาห่วงเราขนาดนี้เรียกว่าได้ใจเต็ม ๆ เลยไหม ?
"ก็ค่อยๆ ได้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ ตอนนี้ก็แฮปปี้ดี"

แต่ล่าสุดวันเกิดพี่ไผ่เห็นว่าเราลงทุนจัดงานให้เขาเต็มที่เลย ?
"ใช่ค่ะ คือดิวก็แค่ปิดห้อง ๆ นึงร้านอาหารฉลองวันเกิดให้เขาปกติ"

นอกจากจัดงานแล้วเราได้ให้อะไรเป็นของขวัญพิเศษในวันเกิดเขาไหม ?
"มีค่ะ เป็นของที่ตัวเขาเองก็อยากได้อยู่แล้ว ส่วนราคาก็นะตามฐานะเรา (ยิ้ม)"

ที่มา Sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

ลูกเกด โชว์ความเซ็กซี่ใน มิกซ์ฉบับรับซัมเมอร์นี้

หลังจากสาวลูกเกด นภัสสร ช่วยเกิด ได้ห่างหายจากแฟชั่นชุดว่ายน้ำมากว่า 3 ปี ล่าสุดนิตยสาร MiX ก็คว้าสาวลูกเกด มาโชว์หุ่น อวดผิวสาว ขาวเนียน ในคอนเสปท์ Summer Issue โดยยกกองไปถ่ายทำที่สระว่ายน้ำ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โดยช่างภาพต้องการสื่ออารมณ์ให้สาวลูกเกด เสมือนมาพักผ่อน เป็นธรรมชาติ ซึ่งนอกจากการโพสต์ท่าโชว์ความเซ็กซี่ที่กินขาดแล้ว สาวลูกเกด ยังเพิ่มแอกติ้งในการถ่ายได้ตรงใจช่างภาพเป็นอย่างมาก แฟชั่นเซทนี้เลยจัดเต็ม ทั้งสวย เซ็กซี่ ตรงตามคอนเสปท์ที่สาวลูกเกดให้ไว้กับ MiX ฉบับนี้ที่ว่า  มิกซ์_เลอค่า


“ก่อนอื่นขอขอบคุณนิตยสาร MiX มากที่เลือกลูกเกด ( ยิ้ม )   การถ่ายแฟชั่นเซทปกวันนี้สนุกมากคะ ภาพที่ออกมาก็สวยมากด้วย ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ช่วยเรื่องท่าทางการโพสต์ การสื่ออารมณ์ ทำให้ทุกภาพออกมาดูดีมาก ช็อทแรกๆ อาจจะมีเกร็งบ้าง เขิลบ้าง  เพราะตื่นเต้น แต่ทีมงานทุกคนช่วยทำให้เราผ่อนคลาย  ก็เลยง่ายขึ้นคะ สรุปวันนี้ ประทับใจมากคะ ทำให้ลูกเกดได้คิดว่า นี่ฉันก็สวยได้เหมือนกันนะเนี่ย ( หัวเราะ )   MiX เล่มนี้ถือเป็นการเปิดซิงถ่ายชุดว่ายน้ำเป็นครั้งแรกของลูกเกดเลย ก็เซ็กซี่เล็กๆคะ แต่ยอมรับว่าความคิดแว่บแรกแอบกังวล เพราะเราก็ยังไม่ได้โตมาก แต่ลูกเกดมองว่ามันเป็นงาน แล้วซัมเมอร์มันก็ไม่ผิดที่เราจะใส่ชุดว่ายน้ำ แต่ก็มีปรึกษาทางผู้ใหญ่ ปรึกษาพี่ๆ และที่สำคัญปรึกษาคุณแม่คะ พอคุณแม่ กับ ผู้ใหญ่ไฟเขียว เราก็ลุยเลย เริ่มจากฟิตหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม อย่างน้อยแฟนๆ MiX ก็จะได้ไม่ผิดหวัง  แต่ถูกใจและตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าจะถ่ายตั้งแต่คอนเสปท์ที่ทาง MiX ส่งมาแล้วคะ"


ตอนนี้มีผลงานอะไรบ้าง?
"ละครตอนนี้ก็กำลังเปิดกล้อง 2 เรื่องคะ เรื่อง มือใหม่หัดรวย ทางช่องทีวีดิจิตอล ของค่ายทีวีพูล เรื่องนี้เป็นนางเอกนะ ( ยิ้ม ) ถือเป็น การพลิกคาแรกเตอร์ครั้งใหญ่เลย เพราะบทส่วนใหญ่ที่เกดได้รับจะเป็นบทร้าย ก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ก็จะทำให้ดีที่สุดคะ ส่วนอีกเรื่องก็จะเป็นของโพลีพลัสคะ ส่วนงานด้านอื่นๆ ตอนนี้ก็จะมีโชว์ตัว พิธีกรบ้าง แล้วก็ถ่ายแบบ"


แล้วเรื่องหัวใจเป็นไงบ้าง?
"เรื่องหัวใจก็โสดสนิทคะ ไม่ได้ศึกษาใครเป็นพิเศษด้วย ตัวเกดเองก็ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องความรักนะ แต่เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติมากกว่า  แต่ถ้าถามว่าตอนนี้อยากมีความรักหรืออยากมีแฟนมั๊ย ก็คงไม่ได้อยากมี อยากให้เป็นเพื่อนกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำงานดีกว่า เพราะนอกจากเรียนและทำงานแล้ว เกดก็ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่ทำกับเพื่อนด้วย ก็ค่อนข้างยุ่ง แต่เราสนุกกับมัน ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย"  


"ซัมเมอร์เล่มนี้ก็ฝากด้วยนะคะ ทุกคนรวมทั้งเกดก็ทำงานเต็มที่ ภาพที่ออกมาก็สวยมาก สื่อถึงอารมณ์หน้าร้อนได้อย่างดีทีเดียวคะ เหมือนอย่างที่เกดบอกเลยว่า มิกซ์เล่มนี้ เลอค่ามาก ส่วนเรื่องที่ตนเองคิดจะสร้างกระแส เลยถ่ายซัมเมอร์  อืม!! จริงๆอยากให้ทุกคนมองเป็นงานมากกว่า และแฟชั่นเซทนี้ก็สวย ดูเป็นแฟชั่นด้วย คงไม่ได้คิดสร้างกระแสจากการถ่ายซัมเมอร์เล่มนี้แน่นอนคะ"

ที่มา: Rakdara

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

พลอย ยิ้มรับอัพค่าตัวอีเวนต์แพงตามความเหมาะสม

พลอย บอกแพงตามความเหมาะสม พร้อมรับค่าตัวออกอีเวนต์ชั่วโมงครึ่ง 1.8 แสนจริง ซึ่งลูกค้ายินดีจ่ายเพราะตนทำงานเต็มที่ไม่ได้มายืนยิ้มแล้วกลับ ส่วนเรื่องสัญญากับช่อง 3 เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่แล้วแต่ยังเงียบอยู่ 

     
มีข่าวว่าตอนนี้นางเอกละคร “สามีตีตรา” ที่มีกระแสดังระเบิดฟันเรตติ้งถล่มทลายอย่าง พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ฉวยจังหวะทองนี้ขึ้นค่าตัวออกงานอีเวนต์ซะแพงลิ่ว โดยค่าตัวชั่วโมงครึ่ง 1.8 แสนบาท จนขึ้นแท่นเป็นนางเอกค่าตัวสูงสุดในวงการ โดยทางนางเอกสาวพลอยออกมายอมรับว่า
     
“ก็เพิ่งปรับขึ้นเร็วๆ นี้แหละค่ะ ปรับก่อนละครออนแอร์ด้วยซ้ำ ก็ปรับตามความสมเหตุสมผลแหละค่ะ คนอื่นแพงกว่าพลอยตั้งเยอะผู้ชายหลายคนก็แพงกว่า พลอยก็ไม่รู้ว่าอันดับหนึ่งหรือเปล่า แต่พลอยว่ามันมีคนแพงกว่านี้นะ ไม่แน่ใจนะคะว่าจะอันดับหนึ่งหรือเปล่า แต่ว่าก็เพิ่งปรับขึ้นค่ะ แต่ทุกคนก็แฮปปี้นะคะที่จ่ายพลอยในราคานี้ เพราะว่าพลอยมาแล้วพลอยไม่ได้ยืนเฉยๆ พลอยให้ความร่วมมือเต็มที่ จะให้พลอยทำอะไรพลอยก็ทำเต็มที่ซึ่งมันก็ต้องอยู่ในข้อตกลงค่ะ”
     
แฟนละครชื่นชอบผลงานให้เกียรติยกให้เป็นนางเอกอันดับ 1 ในตอนนี้?
“มันคงยังไม่ถึงขั้นอันดับ 1 นะคะ แต่ก็ดีใจนะคะที่คนยังคงให้การตอบรับเราอยู่ เรื่องของการทำงานเรื่องของละคร ซึ่งทุกคนยังสนุกกับงานที่เราทำอยู่ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี ต้องบอกไว้ก่อนว่าพลอยทำอาชีพละครและแสดงหนังเป็นอาชีพหลัก เรื่องของงานอีเวนต์มันเป็นผลพลอยได้จากละครและก็ความโชคดี ซึ่งเราไม่ได้หาเงินจากงานอีเวนต์เป็นหลักอยู่แล้ว ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเองและตัวลูกค้า เราไม่มีการบีบบังคับใคร ทุกอย่างพลอยก็บอกพลอยก็แจ้งถ้าเขาตกลงพลอยก็ตกลงค่ะ”
     
สัญญากับทางช่อง 3 หมดหรือยังแล้วจะต่อหรือไม่อย่างไร?
“หมดไปแล้วค่ะ หมดไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พลอยก็เข้าไปคุยแล้วรอบหนึ่ง และคุณแม่ก็เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอทางผู้ใหญ่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ใหญ่เลยค่ะ ซึ่งตอนนี้ผู้ใหญ่อาจจะยุ่งอยู่กับเรื่องของดิจิตอลทีวีใช่ไหมคะ เราก็เลยต้องรอก่อน”
     
“พลอยยังอยากอยู่ที่นี่นะคะ คงไม่ย้ายไปไหนแน่นอน ถ้าไม่ได้เซ็นกับที่นี่ ก็คงไม่เซ็นกับที่ไหนอีกก็เป็นฟรีแลนซ์ค่ะ ตอนนี้สัญญาเพิ่งหมดไปตอนเดือนกุมภาพันธ์ พลอยจะไปนั่งรบเร้าผู้ใหญ่มากมายก็คงไม่ได้ เราเป็นเด็กก็รออย่างเดียวว่าจะต่อสัญญาไหม ตอนนี้ก็ยังให้คำตอบไม่ได้เรารอผู้ใหญ่อย่างเดียว ว่าผู้ใหญ่จะให้คำตอบอย่างไรกับพลอยบ้าง ส่วนตัวพลอยนี่ก็เล่นละครกับช่อง 3 มาตั้งแต่เด็กและเซ็นสัญญาที่นี่ที่เดียวมาตลอด ถ้าไม่เซ็นที่นี่ก็ไม่เซ็นที่อื่นแน่นอน”

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

บอย ปกรณ์ รับปลื้ม ยูริ เกิร์ลเจนฯ โต้ซุ่มคบ เก้า ฮอร์โมน

บอย ปกรณ์ รับตัดต่อภาพ ยูริ SNSD ซบไหล่ตนเองขึ้นไอจีจริง แต่แค่ทำขำๆ ไม่ได้ฝันไกลจะไปสานสัมพันธ์เพราะแค่สื่อสารกันยังไม่รู้เรื่อง ส่วนเรื่องรูปคู่ เก้า ฮอร์โมน แค่บังเอิญเจอกันที่ค่ายมวยไม่ได้มีอะไรพิเศษ 


   
พระเอกเกรียน บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ยังคงฮอตจริงอะไรจริง มีข่าวกับสาวๆ รายวันเลยทีเดียว ล่าสุดก็ตกเป็นข่าวกิ๊กกับนักแสดงสาว เก้า สุภัสสรา ธนชาต หรือ “เก้า ฮอร์โมน” หลังจากที่หนุ่มบอยโพสต์รูปถ่ายคู่กับฝ่ายหญิงทั้งที่ปกติไม่ค่อยถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงลงอินสตาแกรม ทำเอาหลายคนตาโตสงสัยว่าไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ กิ๊กกันรึเปล่า?

พอได้มาเจอพระเอกหนุ่มที่มาร่วมงานฉลองครบรอบ 5 ปี “ฟันเนเรี่ยม (Funarium)” สนามเด็กเล่นในร่มที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง ณ สุขุมวิท 26 ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า
“พอดีวันนั้นเราไปต่อยมวยครับแล้วก็เจอเก้าที่ค่ายมวย เก้าก็มาต่อยที่ค่ายนี้ ซึ่งไม่ได้ไปด้วยครับ ต่างคนต่างมาเจอกันก็เลยทักทายกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกครับ ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ ผมเจอใครก็ถ่ายรูปลง IG ธรรมดา ไม่มีอะไรครับ เป็นปกติ”
     
เห็นว่าบอยคลั่ง ยูริ วง Girls Generation ถึงขั้นตัดต่อรูปยูริซบไหล่ตัวเองพร้อมเขียนคำบรรยายใต้ภาพเพ้อหาฝ่ายหญิงออกสื่อ จริงหรือไม่อย่างไร?
“ไม่ครับ พอดีดูรายการเกาหลี เราดูแล้วเราก็ชอบก็เหมือนคนที่ชอบศิลปินชอบดาราทั่วไปแล้วเราก็ถ่ายรูปลง IG สนุกๆ ที่แท็กไปหาเขา เขาคงก็ไม่เห็น เราก็แท็กสนุกๆ ไม่ได้คิดจริงจังครับ เหมือนกับว่าเราเป็นคนชอบศิลปิน ก็เป็นแค่แฟนคลับเขาแค่นั้นเองครับ ก็ตอนที่ Girls' Generation เขามาเมืองไทยครั้งล่าสุดผมก็ได้ไปดูนะครับ แต่ว่าได้ดูแบบไกลๆ”
     
แฟนคลับฟินกันเป็นแถบๆ ถึงกับเชียร์อยากให้จิ้นกันจริงๆ?
“มันเป็นไปไม่ได้ครับ คงไม่ได้มีอะไรจริงจังขนาดนั้น ก็คงแค่สนุกๆ มากกว่าครับ เรื่องสานสัมพันธ์มากกว่านี้ผมไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นครับ เพราะแค่สื่อสารกันยังลำบากแล้ว ต่างคนก็ต่างทำงานกันคนละประเทศมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแค่ชื่นชอบเฉยๆ ซึ่งเขาไม่รู้จักผมอยู่แล้ว”
     
เปลี่ยนสเปกชอบแบบเกาหลีแล้วหรือเปล่า?
“อ๋อ ไม่ครับ ผมก็เป็นแบบผู้ชายทั่วไปนี่แหละที่เห็นใครน่ารักเราก็ชอบ และเขายังมีความสามารถด้วยก็แค่นี้เองครับ”
     
กับข่าวที่ว่าโดนถอดพรีเซ็นเตอร์รถอีซูซุล่ะ?
“ไม่นะครับ ของผมยังอยู่ในช่วงที่กำลังจะต่อสัญญาใหม่ คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า เพราะก็มีพรีเซ็นเตอร์ของหลายรุ่นเข้ามา เช่น พี่ก้อง (สหรัถ สังคปรีชา) หรือพี่โก๊ะตี๋ อารามบอย เข้ามา ส่วนของผมก็ยังเหมือนเดิม ก็ได้คุยกันแล้วครับ”

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

แอร์-ภัณฑิลา โต้ข่าวเสียเลี้ยง ยันไม่เปลี่ยนลุกส์เป็นสาวเซ็กซี่

แอร์-ภัณฑิลา แจงภาพควงหนุ่มใหญ่เป็นคนจัดดอกไม้ที่ร้าน โต้ข่าวมีเสี่ยเปิดธุรกิจให้ ยันไม่นิยมคนแก่ ปลื้มถ่ายเซ็กซี่กระแสดี แย้มมีหนังสือหัวนอกทาบถ่ายแบบ 


นักแสดงสาว ''แอร์'' ภัณฑิลา ฟูกลิ่น ประกาศตัวว่าหัวใจยังว่าง แต่อยู่ๆ กลับมีภาพหลุดควงหนุ่มใหญ่รุ่นพ่อออกมา จนมีคนเม้าท์กันให้แซดว่าหนุ่มใหญ่คนนี้เป็นคนที่ลงทุนเปิดธุรกิจร้านดอกไม้ให้อีกด้วย ล่าสุดในงานเปิดตัวทีวีดิจิตอล สงกรานต์ช่อง 3 ณ ลานพาร์คพารากอน พอมีโอกาสเจอตัวสาวแอร์ที่มาร่วมงานนี้ จึงได้สอบถามเรื่องดังกล่าว โดยสาวแอร์ได้หัวเราะพร้อมชี้แจงว่า


''ไม่จริงค่ะ คือหนุ่มใหญ่คนนั้นจะบอกว่า จริงๆ แล้วไม่ได้ควงด้วย เป็นภาพที่แอร์ยืนแล้วเขานั่งอยู่ แต่เขาหันหลัง ซึ่งคนคนนั้นก็คือช่างจัดดอกไม้ในร้านแอร์เอง แล้วที่เขาเขียนประมาณว่าแอร์ให้หนุ่มใหญ่เปิดร้านให้ด้วย แอร์ก็งง เพราะแอร์ยังให้เงินเดือนเขาอยู่ จะให้เขามาเปิดให้ได้ยังไง แอร์เองก็เห็นข่าวแล้วค่ะ แต่เห็นแค่หน้าปก เพราะมีคนส่งมาให้ดู แต่แอร์ยังไม่ได้อ่านข้างใน ซึ่งแอร์เห็นแล้วแอร์ก็เอาให้พี่ที่ร้านดู ก็ขำๆกัน เพราะจะบอกว่าเวลานั่งอยู่ที่ร้านก็จะนั่งเหล่หนุ่มๆ อยู่ด้วยกัน ก็ยืนยันค่ะว่าไม่ได้มีหนุ่มใหญ่เลี้ยง ไม่ได้เปลี่ยนสเปกเป็นคนแก่แน่นอนค่ะ ไม่ไหวนะ คือชีวิตเหนื่อยแล้ว อยากมีอะไรที่กระชุ่มกระชวยบ้าง คอนเฟิร์มค่ะไม่ได้มีหนุ่มใหญ่เลี้ยง รสนิยมก็ไม่ได้ชอบหนุ่มใหญ่ ถามว่าตอนนี้มีหนุ่มๆ เข้ามาบ้างไหม ก็มีบ้างค่ะ แต่ก็ยังโสด ยังไม่มีใครเข้าตา ถ้ามีเมื่อไหร่ แล้วมั่นใจบอกแน่นอนค่ะ''

ล้วกับการถ่ายเซ็กซี่กระแสเป็นอย่างไรบ้าง?


''ถ่ายแบบ ก็เบาๆ ไม่เยอะ แต่ก็ดูโตเป็นสาวขึ้นกว่าเล่มที่แล้วที่เคยถ่ายค่ะ กระแสตอบรับก็มีแต่คนแซวว่า อุ้ยตายแล้วโตแล้วเหรอนี้ ซึ่งด้วยความจริงอายุแอร์ก็โตแล้วนะ ไม่ใช่พึ่ง 20 อะไรแบบนี้ และที่ตัดสินใจถ่ายก็เพราะไว้ใจหนังสือค่ะ แอร์เองก็สนิทและรู้จักกันมานานแล้ว พี่เขาก็ทาบทามมานานแล้วด้วย ก็อยากให้ทุกคนเห็นในมุมที่โตๆบ้าง ของดีมันก็ต้องงัดออกมาบ้าง" 


"แต่จริงๆ ก็ไม่ได้อยากให้คนติดภาพว่า เราดูเป็นเด็กตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ มันก็มีโมเมนต์ที่โตขึ้นมาบ้าง จะได้รับงานที่หลากหลายมากขึ้น แต่คงจะให้เปลี่ยนลุกส์เป็นสาวเซ็กซี่เลย ก็คงไม่เอาค่ะ  คือจริงๆ แอร์ก็ยังโก๊ะเหมือนเดิม แต่อันนี้ก็คืออยากให้ทุกคนได้เห็นในมุมที่แตกต่างออกไป แต่ก็มุมที่ใสๆ แบ๊วๆ ก็ยังอยู่" 

มีเล่มอื่นทาบทามมาบ้างไหม? 
"ก็บอกเลยค่ะว่ามี เป็นหนังสือหัวต่างประเทศติดต่อมา แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจกำลังคุยกันอยู่ค่ะ ก็ถ้าตัดสินใจก็คงได้เห็นในปีนี้ค่ะ แต่คงไม่มีขายในไทยค่ะ'' 

ที่มา สยามดารา

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

ชาวเน็ตแรงจวก ณเดชน์ เล่นฟุตบอลได้ แต่อ้างเป็นโรคหอบ-หืดเลี่ยงเกณฑ์ทหาร

ขณะที่แฟนคลับ ณเดชน์ งัดหลักฐานภาพดาราดังกำลังพ่นยาข้างสนามขณะวิ่งเล่นบอลมายืนยัน โต้ชาวไซเบอร์ กล่าวหาว่าอ้างเป็นโรคหอบ-หืดเพื่อเลี่ยงเกณฑ์ทหารรึเปล่า?  ทางด้าน ผจก. ส่วนตัวเมินกระแสวิจารณ์ยับ เผยไม่สามารถห้ามความคิดคนได้ ยัน ณเดชน์เป็นโรคหอบ-หืดตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนเรื่องการออกกำลังกายพระเอกหนุ่มจะรู้ตัวเองดีว่า ออกได้มากน้อยแค่ไหน วอนประชาชนเข้าใจ 


หลังจากที่พระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.ขอนแก่น เพื่อเข้าการรับคัดเลือกทหารกองเกิน เพื่อไปสมัครเป็นทหารรับใช้ชาติ แต่ปรากฏว่า พระเอกหนุ่ม ''ณเดชน์'' ไม่ผ่านเกณฑ์ หลังเข้าตรวจสุขภาพที่ รพ.พระมงกุฎ โดยแพทย์ระบุว่า เป็นโรคหืด ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้ จัดเป็นบุคคลประเภทที่ 4 จนทำให้พระเอกหนุ่มต้องผิดหวังกับการที่จะรับใช้ชาติครั้งนี้
 
แต่กรณีดังกล่าวทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีของ ณเดชน์ ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกทหารเป็นจำนวนมากในโลกอินเตอร์เน็ต ถึงขั้นมีคนตั้งกระทู้ถามถึงเหตุผลของการเป็นโรคหอบ-หืดของ ''ณเดชน์'' แถมมีการตั้งข้อสงสัยกันออกมามากมายราวกับเป็นการจับผิดพระเอกคนดังว่า หาก ''ณเดชน์'' เป็นโรคหอบ-หืดจริง ทำไมถึงยังสามารถเล่นกีฬาฟุตบอลประเพณีของทางช่อง 3 ได้อยู่ เพราะบุคคลที่เป็นโรคชนิดนี้ห้ามออกกำลังกายหนัก เพราะค่อนข้างอันตรายอย่างมาก นอกจากนี้ก็ไม่วายที่จะมีคนตั้งข้อสงสัยในกระทู้ต่างๆ มากมายในอินเทอร์เน็ตว่า การที่พระเอกหนุ่มคนดังอ้างว่า เป็นโรคหอบ-หืดเพื่อเลี่ยงรับใช้ชาติในราชการทหารอีกต่างหาก จนทำให้มีการถกเถียงกันสนั่นโลกออนไลน์เลยทีเดียว
 

งานนี้จึงทำให้เหล่าแฟนคลับของ ''ณเดชน์ คูกิมิยะ'' จึงออกมาปกป้องพระเอกขวัญใจของตนเองทันทีด้วยการนำภาพที่ ''ณเดชน์'' สวมชุดฟุตบอลที่กำลังเป็นกระแส ณ ตอนนี้ แต่ภาพดังกล่าวได้สังเกตเห็นว่า พระเอกหนุ่มกำลังพ่นยาอยู่ข้างสนามนั่นเอง พร้อมกันนี้เหล่าแฟนคลับ ''ณเดชน์'' ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ''ณเดชน์'' เป็นหอบ-หืดตั้งแต่เด็กๆ แล้วอีกด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว ''สยามดารา'' ได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระแสข่าวดังกล่าวกับทาง ผจก. ส่วนตัวของ ''ณเดชน์'' ซึ่งก็ได้รับการชี้แจงว่า พระเอกหนุ่ม ''ณเดชน์'' มีโรคประจำตัวคือโรคหอบ-หืดตั้งแต่เด็กแล้ว ตามที่มีใบตรวจร่างกายจาก รพ.พระมงกุฎ พร้อมชี้แจงถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า หากเป็นหอบหืดแล้วพระเอกหนุ่มไปเตะฟุตบอลได้อย่างไรนั้นว่า ''ณเดชน์'' ไม่ได้เตะเต็มเวลา แต่ลงไปวิ่งเยาะๆ และเจ้าตัวจะรู้ดีว่าตนเองสามารถออกกำลังกายได้มากน้อยแค่ไหน
 
''ต้องยืนยันเลยว่า ณเดชน์เป็นโรคหอบ-หืดมาตลอดตั้งแต่เด็ก แต่น้อยคนที่จะรู้ คนที่เป็นโรคนี้เค้าจะรู้ตัวเค้าเองว่า ตัวเค้าสามารถออกกำลังกายได้มากน้อยแค่ไหน อย่างมีคนสงสัยว่า น้องไปเตะบอลได้ยังไง คือน้องลงไปวิ่งไม่นานแล้วก็เปลี่ยนตัวออก น้องไม่ได้เล่นเต็มเวลาทั้งหมด จะมีช่วงให้น้องพัก แล้วจังหวะที่พักนั่นแหละ น้องจะต้องพ่นยา ซึ่งอาจจะไม่ได้สังเกตกัน ส่วนกระแสวิจารณ์ที่ว่า น้องอย่างนู้นอย่างนี้ หาว่าเอาโรคมาอ้างไม่อยากเป็นทหาร ไม่ใช่เลย น้องต้องการอยากจะรับใช้ชาติจริง สมัยเรียนก็อยากจะเรียน รด. แต่ก็เรียนไม่ได้ เพราะเป็นหอบ-หืด ก็เข้าใจว่า เราก็ไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ ก็นานาจิตตังไป คนที่เข้าใจก็มีก็ต้องขอบคุณ แต่คนที่ไม่เข้าใจ เราก็ไปห้ามเค้าไม่ได้หรอก'' ผจก.ส่วนตัว ''ณเดชน์'' กล่าว

ที่มา สยามดารา

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

แตงโม ร่วมยินดีงานแต่ง โอปอล์-หมอโอ๊ค สยบเกาเหลา

แตงโม ฉายเดี่ยวร่วมงานแต่ง โอปอล์-หมอโอ๊ค อวยพรให้มีลูกเร็วๆ เผยมาแสดงความยินดีกับคนที่รัก เรื่องงานแต่งของตนกับ โตโน่ ยังไม่ใช่ปีนี้ เผยอาจมีลูกหรือจดทะเบียนก่อนแต่ง เพราะโตโน่อยากมีลูกและชอบบ่นไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ ลั่นไม่เกิน 3 ปีมีลูกแน่นอน

     

จากกรณีที่ดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ โดนถล่มด่าเละ ที่เข้าไปคอมเมนต์รูปที่ โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล ใส่ชุดสีแดงว่า “คนขาวใส่สีแดง ยังไงก็ขึ้น” ทำเอากลุ่มคนรักโอปอล์ออกมาตอกกลับแตงโมจนหงายเงิบ ร้อนถึงโอปอล์ต้องลบรูปนั้นทิ้งเพื่อตัดปัญหา พร้อมออกโรงป้องว่าคงเป็นการแซวเล่น ตนไม่ถือสา แต่ยอมรับว่าไม่ได้สนิทอะไรกับแตงโมถึงขั้นเคยหยอกล้อกัน ทั้งยังบอกอีกว่าได้ชวนแตงโมมาร่วมงานแต่งด้วย เพราะเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก


ล่าสุดในงานแต่งของโอปอล์ก็ทำเอาฮือฮา เพราะสาวแตงโมฉายเดี่ยวมาแบบมั่นๆ เพื่อยืนยันว่าตนกับโอปอล์ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย และวันนี้ก็มาแสดงความยินดีกับคนที่เรารัก      
“โมก็กะแล้วว่าต้องฮือฮา (หัวเราะ) ไม่มีอะไรค่ะ ก็มาแสดงความยินดีกับคนที่เรารักค่ะ ขออวยพรให้พี่โอปอล์และพี่หมอโอ๊คมีความสุขมากๆ นะคะ เห็นคู่นี้มานานมากๆ แล้ว เห็นถึงความน่ารักและความขยันทำงาน เห็นถึงอนาคตของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน ส่วนเรื่องครอบครัวอยากให้มีลูกเยอะๆ โมจะได้เลี้ยงหลานที่มีอารมณ์ดีเหมือนพี่โอปอล์เยอะๆ ค่ะ วันนี้พี่โน่ไม่ได้มาค่ะ พี่โน่ติดทำเพลง และก็ฝากมาอวยพร ตัวเขาเองติดทำเพลงจริงๆ ตอนแรกว่าจะมา”
     

คิดจะแต่งงานในปีนี้หรือเปล่า?
“จริงๆ การจัดงานครั้งหนึ่งมันค่อนข้างใช้เงินเยอะเหมือนกันนะ และโมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความหรูหราหรืออะไรแบบนี้ โมรู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองเงิน แต่ว่าถ้าทำตามหลักประเพณีจริงๆ มันก็ควรจะต้องมี ขอเวลาอีกสักนิดเก็บเงินอีกสักหน่อย เดี๋ยวอาจจะได้เห็นกัน แต่ปีนี้ยังค่ะ ขอเร่งทำธุรกิจก่อนค่ะ”
     
“จริงๆ ไอเดียพี่เปิ้ล นาคร ที่มีลูกก่อนแล้วค่อยแต่งจริงๆ ฝรั่งก็ทำเยอะ ก็เก๋เหมือนกัน เพราะว่าลูกเราจะได้อยู่ในวันที่เรามีความสุขมากๆ อันนั้นก็เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ จริงๆ เราก็แพลนที่จะมีน้องอีกไม่เกิน 3 ปี แต่ว่าพิธีสมรสยังไม่ได้แพลน อาจจะเป็นไปได้ อาจจะมีน้องก่อนหรือจดทะเบียนเฉยๆ ก่อนค่ะ”
     
เห็นบอกไม่เกิน 3 ปีมีลูกแน่นอน?
“เรื่องน้องยังค่ะเพราะว่าโมเป็นพรีเซ็นเตอร์ของสมาคมวางแผนครอบครัว โมก็ต้องทำหน้าที่ของโมตรงนี้ก่อนและด้วยสภาวะปัจจุบันแล้ว โมอยากจะทำงานและเร่งทำธุรกิจก่อน คงยังไม่พร้อมที่จะเลี้ยงน้องแบบเต็มตัวค่ะ และบ้านโมมีแมวตั้ง10 ตัว คือน้องแมวกับลูกเรามันไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จะต้องจัดระบบ เซ็ตชีวิตใหม่และตัวโมเองก็ยังไม่ได้ศึกษาในเรื่องของความเป็นคุณแม่สักเท่าไหร่ แต่ว่าไม่เกิน 3 ปีค่ะ ทางคุณแม่พี่โน่ขอมา จริงๆ ขอมาไม่เกิน 2 ปี แต่โมต่อรองไว้ไม่เกิน3 ปี”

“พี่โน่จะอยากมีมากกว่าเพราะว่าตัวพี่โน่เองคุณพ่อเสียตั้งแต่เด็ก พอเขามีประสบการณ์แบบนี้ เขาจะรู้สึกว่าเขาอยากจะเป็นคุณพ่อยังหนุ่มเพราะตัวเขาเองพอโตมาจะไม่ได้ใช้ชีวิตกับคุณพ่อแล้ว เขาจะชอบบ่นเขาจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขากลัวเป็นกรรมพันธุ์ค่ะ อันนี้เราก็เข้าใจ แต่ด้วยสังคมสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน อย่างเช่น เศรษฐกิจ การเมืองอะไรต่างๆ นานา ช่วงนี้ยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ ค่ะ”

ที่มาข้อมูล ผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557

แฟนคลับ โอปอล์ ฉะ แตงโม เหตุคอมเม้นท์แขวะเรื่องสีผิว

อยู่ดีไม่ว่าดีสำหรับนางเอกสาว แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ที่ไปคอมเม้นท์แขวะเรื่องสีผิวของพิธีกรสาว โอปอล์-ปาณิสรา อารยะกุล จนกลายเป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงและออกมาปกป้องขององครักษ์พิทักษ์โอปอล์ หลังเกิดมีเป็นประเด็นขึ้นมา พิธีกรสาวโอปอล์ก็เลยลบรูปเพื่อยุติปัญหาต่างๆทันที


“เรื่องไอจีปอล์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ปอล์โพสต์รูปปอล์ไว้เพราะว่าน้องสาวพี่โอ๊คทำตุ้มหูขาย ปอล์ก็ถ่ายรูปตุ้มหูและก็อัพไอจี ปอล์ไม่ได้ดูเลยไม่ค่อยได้เข้าไปเช็กจนเย็น แล้วพอเย็นเข้าไปดูไอจีตัวเองทำไมมีคอมเม้นท์ด่ากัน เราก็ไม่รู้เรื่องก็เลยกลับไปย้อนดู มันมีการคอมเม้นท์มาหาปอล์และคนก็เข้าไปโต้ตอบเหมือนปกป้องโต้ตอบ คือปกติไอจีปอจะซอฟท์และเบสิกมาก เต็มที่ก็ฝากร้าน อันนี้พอมันเยอะหลายกระทู้ เขาโต้กันว่ากัน ปอล์ก็เลยลบไปเลย แค่นั้นเอง”

ส่วนตัวสนิทกันไหม?
“ถามว่าส่วนตัวสนิทกันไหม เจอกันตามงาน แต่รู้จักกันมานานแล้วค่ะ หยอกล้อ ไม่มีค่ะ ปอล์ว่ามันเป็นการแซวกันเฉยๆ นะในความคิดปอล์คงไม่มีอะไร แต่ว่าบางทีแฟนๆ เขาก็โกรธแทนเรา ซึ่งเราเข้าใจในมุมมองของแฟนๆ เรา และเข้าใจมุมที่หยอกล้อ ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย คือตั้งแต่เด็กจนโตการโดนล้อเรื่องสีผิวอยู่กับปอล์ทุกวัน จนชินค่ะ ปอล์ก็เลยสรรเสริญตัวปอล์ ปอล์ไม่รู้สึกอะไรส่วนตัวปอล์เฉยๆ ปอล์ว่าคงไม่คิดอะไรมั้ง คงเล่นๆ กัน แต่ว่าคำด่าเรื่องสีผิวปอล์ไม่คิดอะไรอยู่แล้ว ปอล์โดนตั้งแต่เด็กเป็นเรื่องชินมาก ไม่โกรธไม่นอยด์ ปอล์จะเริ่มนอยด์ตอนที่คนเริ่มปกป้องเรารักเรา เพราะบางทีคนรักเรา เราไม่อยากให้ใครมีปัญหากันเพราะเราเลยค่ะ ก็อยากจะบอกทุกคนว่ามันเรื่องเล็กมาก มันไม่มีเรื่องอะไรเลย”

โอปอล์ ใส่ชุดสีแดงอาจทำให้ แตงโม แขวะลากไปเกี่ยวกับการเมืองหรือเปล่า?
“ไม่ๆ ปอล์ว่าไม่น่าจะไปถึงประเด็นนั้นได้ ในมุมปอล์ปอล์ไม่คิดว่าจะหมั่นไส้ ไม่หรอกมั้ง ปอล์ว่าในมุมปอล์เลย ปอล์ลงรูป ถ้ารูปที่ปอล์ลงมันจะทำให้ใครเกลียดชังกันหรือด่ากัน ปอล์เลยใช้วิธีลบไปเลย ปอล์ไม่ได้อ่านโดยละเอียดทั้งหมด ปอล์ก็ตัดปัญหาลบไปเลย”

เป็นรูปแรกที่แตงโมมาแซวแรงแบบนี้?
“น่าจะนะคะ เป็นครั้งแรกที่มีการคอมเม้นท์กันเยอะๆ ในไอจีปอล์ ส่วนตัวปอล์เขาไม่ได้ตั้งใจมั้ง แล้วปอล์ว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย”

หลังจากที่แตงโมเข้าไปคอมเม้นท์จนเกิดการโต้ตอบของแฟนคลับเรา เป็นองค์รักษ์พิทักษ์โอปอล์ และมีการใช้คำพูดค่อนข้างรุนแรงจนบานปลาย
“ปอล์ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ จนวันนี้ปอล์ก็มาเป็นพิธีกรปกติ เห็นพี่ๆ มากันแต่หัววัน แต่สำหรับแฟนๆ ปอล์ส่วนใหญ่เขาก็น่ารัก เขาคงอยากปกป้องปอล์แหละ เราเข้าใจ แล้วก็ยังไงฝากบอกทุกคนด้วยว่าเรื่องไม่มีอะไรเลย มันไม่มีเรื่องอะไรเลย ทุกคนต้องใจเย็นกัน”

จะมีโทรเคลียร์ไหม?
“ปอล์ไม่มีเบอร์ ปกติไม่ได้ติดต่อกัน ไม่มีไลน์ แต่ว่ามีเฟสบุ๊คกัน แต่ว่าไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ถึงขนาดต้องเคลียร์ ปอล์ไม่ได้ติดใจ ปอล์ว่าถ้าปอล์จะต้องติดใจปอล์น่าจะทั้งชีวิต เพราะคนก็ด่าปอล์ทุกวัน”

มีกระแสข่าวว่าแตงโมสร้างข่าวมาเพื่อที่จะกลับมาในกระแสโซเชียลอีกครั้งเราเลยเป็นเครื่องมือ?
“ไม่มั้ง ปอล์ไม่คิดอย่างนั้นนะ ปอล์ว่ามันเป็นเรื่อบังเอิญเกิดขึ้นแล้วกันค่ะ”

เห็นโอปอล์โพสต์ชี้แจงในอินสตาแกรมเกี่ยวกับเรื่องที่ มีคนนำภาพในงานแต่งไปประกอบกับคำคมต่างๆ ที่กำลังมีการแชร์กันบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก?
“อ๋อ อันนั้นเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่า มันจะชอบมีเว็บไซต์คำคมใดๆ ที่เอารูปคนนั้นคนนี้ไปประกอบคำคมตัวเองและบางคำพูดบางมุมมองมันเห็นแก่ตัว มากหรือไม่ดี หรือเราไม่ได้คิดอย่างนั้น โดนส่วนตัวปอล์อ่านเสล่อมาก บางทีเราก็เลยต้องแจงบ้าง แต่จำไม่ได้ว่าเนื้อหาอะไร เหมือนบอกว่า ถ้าถามกี่ครั้งฉันก็ยังที่จะเลือกคนนี้ อีกอันคือการเจอคนที่ใช่ไม่ได้แปลว่าเจอคนที่ดีที่สุดที่จะหยุดที่เรา ซึ่งมุมมองความรักปอล์ไม่มีอะไรอย่างนั้นเลย รักก็คือรักเลยโกรธคืออันนั้นโกรธ แต่เรื่องในไอจีไม่โกรธ อยากจะบอกทุกคนว่าทุกวันนี้อะไรนิดหนึ่งมันก็จะเป็นข่าวเป็นประเด็นได้แล้ว ปอล์ว่าจริงๆ เราใช้ชีวิตปกติกันดีกว่า อย่ามีเรื่องกันเลย”

กระแสก่อนแต่งซัดไม่เหมาะสมกัน แต่พอแต่งกลับมาชมว่าเหมาะสมกันดี?
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ปอล์ก็เฉยๆ กับทุกกระแสแหละ ปอล์ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติ ถามว่ารู้สึกยังไงที่ถึงขั้นมีไปขุดคุ้ยประวัติการศึกษาของปอล์ จริงๆ ปอล์เป็นคนเลอค่า ทั้งการศึกษาและชาติตระกูลดี (ยิ้ม)”

ฉลองแต่งวันที่ 6 เม.ย. นี้จะเชิญ “แตงโม” ไปร่วมงานหรือเปล่า?
“ชวนค่ะ ปอล์มีการชวนไปตั้งแต่แรกแล้วเพราะว่าเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค ไม่ได้กลัวจะเป็นประเด็น ปอล์ว่าอย่าพยายามจับปอล์ไปเป็นประเด็นอะไรเลยค่ะ ในชีวิตปอล์ไม่ชอบ ไม่คิดจะตีกับใครโดยเฉพาะเรื่องนี้ ปอล์ไม่รู้เรื่องเลย ลงรูปโดยละม่อมและก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมา”


วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

แคนดี้ เผยนอยด์มากโดนด่าถึงครอบครัว

กลายเป็นกระแสฮือฮามาพักใหญ่ หลังจากที่ แคนดี้ รากแก่น ลูกสาวของ ศิลปินแห่งชาติ บานเย็น รากแก่น และพี่สาว โทนี่ รากแก่น ถ่ายแฟชั่นแล้วมีภาพหลุดออกมาทำเอาหลายๆ คนต่างก็วิจารย์ถึงการถ่ายแฟชั่นครั้งนั้นว่า สาว แคนดี้ หันมาเอาดีด้านเซ็กซี่ แถมบางคนก็ใช้คำที่ค่อนข้างแรงอย่างคำว่า “ขายโป๊” เลยทีเดียว 


ล่าสุดในงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “สยามยุทธ” ( DOWN OF THE KINGDOM ) ณ อาคารศรีวราคอนโด ลาดพร้าว 94 ได้เจอ “แคนดี้” ซึ่งเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ว่า
“ตอนนี้ก็ถ่ายออกมาเล่มหนึ่งแล้วของแอบโซลูทก็รอแค่วางแผงเท่านั้นเอง จะเป็นถ่ายเซ็กซี่ออกแนวสปอร์ตเหมือนหนังเรื่องนี้แหละ คือเราอยากจะโชว์ความแข็งแกร่งของผู้หญิง หลายๆ คนอาจจะเห้นว่าผู้หญิงสวยเซ็กซี่หุ่นดีแต่ตัวเราเป็นสาวหุ่นใหญ่เราก็อยากให้ทุกคนเห็นว่าเราสามารถสวยได้ในแบบของเรา ต่อให้แขนไม่เล็กหรือไม่ผอมมีพุงก็เซ็กซี่ได้ค่ะ(หัวเราะ)”

มันโป๊กมากแค่ไหน?
”อันนี้แล้วแต่คนมองจริงๆ ด้วยความที่บางทีเราไม่ได้ตั้งใจให้มันโป๊แต่เพราะสรีระของเราที่มีเนื้อมีหนังหน่อยคนก็อาจจะมองว่ามันโป๊ก็ได้ แต่ในมุมที่แคนดี้ถ่ายออกไปและทีมงานตั้งใจทำคือแนวสปอร์ต ดูแข็งแรงค่ะ”

คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
”คุณแม่ก็บ่นเป็นธรรมดาเพราะคุณแม่ก็ไม่ค่อยอยากให้เราโชว์อะไรตรงนี้มาก แต่แคนดี้เชื่อว่าถ้าคุณแม่ได้เห็นรูปคุณแม่ก็อาจจะโอเค”

แล้วคุณแม่ได้สั่งห้ามถ่ายอีกไหม?
”คุณแม่ไม่ได้พูดอะไรเพราะยังไม่มีแต่ครั้งหน้าอาจจะต้องปรึกษาคุณแม่ก่อนค่ะ ถ้าถามว่าตอนนี้มีติดต่อมาไหมก็มีแต่ตอนนี้อยู่ในช่วงการเฟิร์มหุ่นค่ะ คือเราอยากจะโชว์ความแข็งแรงให้คนอื่นเห็นเราก็ต้องทำให้ได้ก่อนก็อาจจะได้ดูแต่ไม่โป๊ค่ะ”

พอเรามาแนวเซ็กซี่คนเลยมองว่าเราอยากจะขายจุดนี้มากกว่าแนวอื่น?
”ก็ตั้งแต่ตอนการแสงแล้วค่ะ การแสดงมันเป็นแบบวาไรตี้ซึ่งจะมีหลากหลายวัฒนธรรม พอถึงคลาสของเซ็กซี่แคนดี้ก็จัดเต็ม คือทุกรูปแบบแคนดี้จัดเต็มหมดคนเลยมองว่าแคนดี้เซ็กซี่แล้วแต่จะเป็นเซ็กซี่แบบไหนแล้วแต่คนมองค่ะ แต่เอาจริงๆ ที่แคนดี้ทำออกไปคือเซ็กซี่แบบเท่ เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะมองแบบนั้นก็ถือว่าเป็นความโชคดีของผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาทั้งทีแล้วอ้วนขนาดนี้ยังมีคนมองว่าเราเซ็กซี่ได้”

เราซีเรียสกับคำว่าขายโป๊ไหม?
”คนนี้ค่อนข้างแรงนะ เซ็กซี่ยังพอโอเคแต่คำว่าขายโป๊นี่มันแรงไป อย่างภาพที่แคนดี้ถ่ายกับซูแล้วมันหลุดออกไปอันนั้นแคนดี้ยอมรับว่าโป๊จริงเพราะอันนั้นมันเป็นภาพส่วนตัวที่หลุดออกไป แต่พอเรารับงานอื่นเราก็อยากจะให้มองภาพใหม่เพราะคาดหวังว่าเราไปถ่ายแล้วคนจะมองว่าเราเซ็กซี่แนวสปอร์ตมากกว่าโป๊ แต่พูดจริงๆ เลยว่าเรื่องพวกนี้พอเกิดขึ้นแล้วเราต้องทำใจเพราะเราทำให้ใครรักเราทุกคนไม่ได้”

หลังจากนี้อาจจะขอสกรีนงานมากกว่าเดิม?
”ใช่ค่ะ แรกๆ เราไม่สนใจเพราะเราคิดว่าคนคงไม่ได้สนใจอะไรเรามากแต่พอมีข่าวออกมาแล้วเรารู้สึกถึงคุณแม่เลย น้องชายเขาก็เป็นห่วง ดังนั้นเวลาทำอะไรเราต้องคิดถึงคนอื่นมากขึ้น 

พอโดนแบบนี้แล้วเรานอยด์ไหม?
"นอยด์ค่ะ ถ้าใครเข้าไปดูในอินสตาแกรมจะเห็นว่าแคนดี้นอยด์มากด้วย คือแคนดี้เป็นคนเปิดเผยมากจนรู้สึกอะไรก็จะเปิดหมด ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าแคนดี้จะปิดบังอะไร ก็ยอมรับว่านอยด์แต่เราก็เข้าใจว่าคนเราคิดไม่เหมือนกัน บางทีเราก็อยากให้เข้าใจเราบ้างไม่ใช่เสพสื่อฝ่ายเดียวโดยที่ไม่รู้จักเราจริงๆ แล้วมาด่า ด่าแคนดี้ด่าได้แต่อย่าด่าคุณพ่อคุณแม่และวงศ์ตระกูล เรื่องมันเล็กนิดเดียวก็อย่าทำให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูลเพราะแคนดี้เลยค่ะ”


วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

ลูกนัท กฤติยาภรณ์ โชว์ของหวังคืนวงการหลังหายหน้าไปนานสิบกว่าปี

ลูกนัท กฤติยาภรณ์ หวนคืนวงการหลังทิ้งท้ายงานแสดงละครเรื่อง สวรรค์เบี่ยง เวอร์ชั่น กบ-สุวนันท์ ปุณณกันต์ เป็นเรื่องสุดท้าย ไป ก่อนไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอยู่อเมริกา นานถึง13ปี


 ล่าสุด ลูกนัท กฤติยาภรณ์ ตรีรัตนพันธ์ อดีตนางงามขวัญใจสื่อมวลชน จากเวทีมิสไทยแลนด์เวิร์ลรุ่นเดียวกับ ลูกเกด เมธินี และ อดีตนางแบบนู๊ดปฎิทินแม่โขง ได้เลิกรากับสามีหอบลูกบินกลับมาอยู่เมืองไทยและหันมารับงานบันเทิงอีกครั้ง
   
โดยการกลับมาครั้งนี้เธอลงทุนควักเต้าโชว์ หวังคืนงานวงการบันเทิงอีกครั้ง ซึ่งภาพแฟชั่นดังกล่าวนั้นเป็น คนไกล้ชิดบอกว่าเธอ ถ่ายไว้แจกลูกค้าของเธอโดยเตรียมทำเป็นปฎิทินที่จะแจกให้กับลูกค้ากับธุรกิจของเธอ ส่วนสาเหตุที่อยู่ๆเธอลุกขึ้นมาสะบัดผ้าถ่ายแฟชั่นแนวหวือหวาอีกครั้ง

โดยในอดีตเธอเคยถ่ายแบบปฎิทินนู๊ดให้กับปฏิทินแม่โขง เป็นที่ฮือฮามากในตอนนั้น ด้วยความที่ห่างหายจากวงการไปนานถึง 13 ปี เธอเลยอยากย้อนอดีตชีวิตการเป็นนางแบบนู๊ดระดับตำนานให้แฟนคลับเก่าๆของเธอได้ยลโฉม


อย่างไรก็ตามมีข่าวลือออกมาสารพัดหลายกระแสว่า แท้จริงแล้วที่เธอลุกมาอวดเต้าอีกครั้งจุดประสงค์ไม่ได้คิดจะหวนกับมาทำงานในวงการบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่เธอทำแบบนี้เพราะต้องการจะโชว์รูปร่างที่ยังสวยเป๊ะ ให้กับบรรดาหนุ่มใหญ่มาดอาเสี่ยชมต่างหาก แต่ก็มีแมงเมาท์เล่าว่า เธอได้รับการทาบทามให้ไปเป็นนกน้อยในกรงทอง ของหนุ่มใหญ่รายนึง ที่ทุ่มทั้งบ้าน-รถ แต่เธอปฎิเสธ เพราะคิดว่าตนเองมีปัญญาทำมาหากินเองได้ แต่ก็ไม่วายถูกมองว่ารับจ๊อบพิเศษให้กับบรรดาอาเสี่ยกระเป๋าหนัก เพราะต้องการหาเงินไปเลี้ยงลูก เนื่องจากเธอเพิ่งบินกลับมาเมืองไทยได้แค่ 1 ปี คาดว่าต้องนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด จะด้วยเหตุผลใดก็ตามเราจะนำความคืบหน้ามารายงานให้ทราบต่อไป

ที่มาข้อมูล : สยามดารา