วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เจี๊ยบ ชมพูนุช กับ อาร์ เดอะสตาร์ คู่รักคู่ใหม่

ดาราสาว เจี๊ยบ ชมพูนุช เปิดใจคุยนักร้องหนุ่ม อาร์ เดอะสตาร์ เผยความสัมพันธ์ยังแค่เพื่อน ฐานะแฟนเป็นเรื่องอนาคตไม่ได้ควงเปิดตัวกลางรายการ ที่นี่หมอชิต ในฐานะคู่รักคู่ใหม่ของวงการ 


ผู้สื่อข่าวถาม เจี๊ยบ ชมพูนุช ว่าเห็นไปออกรายการด้วยกันกับ อาร์ เดอะสตาร์ เป็นการเปิดตัวหรือเปล่า นักแสดงสาว ปฏิเสธก่อนชี้แจงว่า
"ไม่ๆ คือจริงๆ เทปนั้นเป็นเทปของเพื่อนก็ไปรวมๆ กันแต่อาจโดนเพื่อนแกล้งเบาๆ"

แต่เขาโปรโมทว่าเปิดตัวคู่รักคู่ใหม่ของวงการ?
ไม่ใช่ค่ะ ยังไม่ขนาดนั้นเพิ่งมีโอกาสได้คุยกันมากขึ้นค่ะ"

พี่นุ่นก็เชียร์?
"คือจริงๆต้องบอกว่าพี่อาร์เป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มมานาน ก็จะรู้จักกับพี่นุ่น รู้จักกับเพื่อนๆ หลายๆ คน แล้วก็ทุกคนค่อนข้างรู้จักนิสัย ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเพื่อนๆ ก็รู้จักทั้งนิสัยเรา นิสัยเขาด้วย"

เพื่อนค่อนข้างไฟเขียวสำหรับคนนี้?
"ไม่รู้เหมือนกันต้องไปถาม แต่เท่าที่คุยก็โอเค, ถามว่าเปิดใจหรือเปล่า ก็เปิดใจกับตัวเองมากขึ้น ปล่อยเป็นเรื่องของธรรมชาติมากกว่าไม่ได้เจาะจงว่าต้องใช่ อย่างที่บอกตอนนี้มีโอกาสคุยกันมากขึ้น แต่ก็ดีใจที่เราได้ทำความรู้จักกับคนๆ คนนึงมากขึ้น อาจจะเป็นด้วยอะไรหลายๆ อย่าง"
  
เท่าที่ศึกษาเป็นอาร์ยังไงบ้าง?
"มันก็แป๊บเดียวเอง จริงๆ เพิ่งได้คุยกันจริงจังก็ช่วงนี้ เท่าที่รู้จักเขามาตั้งแต่เขาถ่ายละครด้วยกัน เขาเป็นคนชอบเทคแคร์คนรอบข้างอยู่แล้ว"

เทคแคร์เราเป็นพิเศษมั้ย? 
"ไม่นะเขาก็เทคแคร์ทุกคนเท่ากัน" 


ความสนิทตอนนี้อยู่ในระดับไหน?
"มันยังวัดระดับไม่ได้ค่ะ"
  
อยู่ในช่วงศึกษากันมั้ย?
"เอาเป็นว่าตอนนี้ทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าค่ะ เริ่มต้นก็อยากให้มันค่อยๆ ไป เพราะก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนกันมาก่อน"

มีโอกาสพัฒนา?
"ถ้าถามจากช่วงก่อนจนถึงช่วงนี้ก็ไม่ได้อยากโกหก มันมีอะไรที่พัฒนาขึ้น แต่ช่วงนี้ไปอนาคตข้างหน้ามันจะพัฒนาอีกมั้ยวันนี้อาจจะยังตอบไม่ได้ ต้องขอเวลาสักนิดนึง" 


อาร์เดินหน้าเต็มที่? 
"จะเดินหน้าหรือไม่เดินหน้าต้องถามพี่อาร์เอาเอง เพราะว่าเจี๊ยบก็รับได้ในส่วนที่เขาส่งมา แต่เขาก็เป็นคนน่ารักตั้งแต่สมัยยังเป็นเพื่อนกันก็ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากมายเท่าไหร่"

ที่มา: Gossip Star

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นาตาลี พุ่งชนเกาะกลางถนนหวิดดับ

นาตาลี หวิดดับขณะกลับจากถ่ายแฟชั่นที่หัวหิน นักแสดงและนางแบบสาว นาตาลี เดวิส ได้ขับรถมาตามถนนเพชรเกษมหลังประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนน



ทำเอาแฟนๆ โล่งใจ เมื่อทราบข่าวว่านักแสดงสาวเซ็กซี่ นาตาลี เดวิส ปลอดภัยดีแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุหักรถหลบสุนัข จนเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้(27 ส.ค.) ขณะเดินทางกลับจากถ่ายแบบที่หัวหิน และกำลังขับรถมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ มาทางถนนเพชรเกษม

โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวมาว่า "อุบัติเหตุครั้งที่รุนแรงที่สุดในชีวิต คิดว่าต้องมาจบชีวิตที่หัวหินแล้ว เพิ่งเสร็จจากถ่ายแฟชั่นขับมาตามถนนเพชรเกษม ไฟถนนก็ไม่มี หักหลบสุนัขกลางถนนและยางเกิดระเบิด จนเสียหลักหมุนขึ้นไปบนเกาะกลางถนน"

ที่มา: Gossip Star

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โดนัท เจอข้อหาหมั่นไส้


 โดนัท-มนัสนันท์เจอข้อหาหมั่นไส้จากบรรดาสาวๆแฟนคลับอนันดา  เนื่องจากไม่ค่อยปลื้มเท่าไรที่สาวโดนัทไม่ยอมรับว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่


ช่วงหลังมานี้ทั้งคู่จะควงกันไปไหนมาไหนแบบถี่ยิบกันเลยทีเดียว และดูเหมือนจะยิ่งเติมความหวานให้กันแบบไม่แคร์สื่อ ตั้งแต่ได้ออกมาเปิดตัวยอมรับว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่  ระหว่างคู่ของนักแสดงสาวห้าว โดนัท กับ อนันดา – เอเวอร์ริ่งแฮม พระเอกและนายแบบหนุ่มมาดเซอร์


ตรงกันข้ามกับบรรดาสาวๆ  ที่คลั่งไคล้หนุ่มอนันดาที่ไม่ค่อยปลื้มเท่าไรที่สาวโดนัทปากกับใจไม่ตรงกัน  และออกอาการรับไม่ได้กับการที่นางเอกสาวไม่ยอมรับความจริงตั้งแต่ทีแรกว่าแท้จริงแล้วกำลังคบหาดูใจกันอยู่  แต่นั่นก็เป็นแค่อาการหมั่นไส้เล็กๆ น้อยๆ  เท่านั้น

ยูอี After School กับแฟนชั่นเกาะฮาวาย



นักร้องสาว ยูอี ได้เผยภาพแฟชั่นบนนิตยสาร InStyle โดยเป็นแฟชั่นแบบ Ethnic Touch เดนิมลุคสุดเริงร่า ณ สวนพฤษศาสตร์แห่งชาติฮาวาย

ที่เผยให้ทุกคนได้สัมผัสกับอีกหนึ่งเสน่ห์ของ ยูอี แห่งวง After School ที่มาพร้อมกับแฟชั่น กางเกงเดนิมอวดเรียวขา เพรียวบาง เบสท์ และ แจ๊ตเก็ต ภายใต้แสงแดดที่ร้อนแรงของฮาวาย นับเป็นแฟชั่นที่เข้าอียูที่ได้รับเสียงชื่นชมว่ามีขาเรียวงาม  นอกจากนี้ ยูอี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านนิตยสารอีกด้วย


ยูอี เผยว่า ในระหว่างที่เตรียมตัวเป็นนักร้อง แม้ต้องผ่านความยากลำบาก แต่เมื่ออยู่บนเวที รู้สึกปลื้มมากค่ะ ในขณะการแสดงยิ่งผ่านไปก็ยิ่งยากและเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ แต่พอจบลงมันรู้สึกว่างเปล่าค่ะ และในเร็วๆนี้ฉันจะมีผลงานละครอีกเรื่องค่ะ



วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ถอดอีจางอู-อึนจองออกจากรายการ We Got Married


เตรียมถอดคู่แต่งงาน อีจางอู กับ อึนจอง แห่งวง T-ara ออกจากรายการ We Got Married แล้ว


ตัวแทนรายการ We Got Married เผยว่าแม้ว่าจะมีข่าวความขัดแย้งของวง T-ara เกิดขึ้น แต่รายการไม่คิดจะถอนอึนจองออกแต่อย่างใด และการอำลาของคู่แต่งงานระหว่าง อึนจอง และ อีจางอู  ได้ปรึกษากันมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยทั้งสองคน เป็นคู่รักในรายการ  เริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม 2011

และได้เผยต่อว่า  การถอนตัวออกจากรายการนั้น เพราะทั้งสองต้องแยกย้ายกันไปทำงานของตน  ในขณะนี้ อึนจอง มีถ่ายละครเรื่อง Five Fingers ทางสถานี SBS ดังนั้นทำให้เธอมีตารางงานค่อนข้างยุ่ง ส่วนทางด้าน อีจางอู มีผลงานละครเรื่อง I Do I Do ที่เพิ่งจบไปไม่นานนี้

ที่มา: ซุบซิบดอทคอม


สายป่านเคลียร์ข่าวล่าสุด


สายป่าน อภิญญาดารารุ่นเล็กหายหน้าหายตาจากวงการไปพักใหญ่ ล่าสุดมีข่าวให้ต้องเคลียร์ หลังมีภาพหลุดนางเอกสาวยืนพ่นควันบุหรี่ปุ๊ยๆว่อนเน็ต ในช่วงวันหยุดยาวกับหนุ่มตาน้ำข้าวที่คาดว่าเป็นแฟนใหม่ไปพักผ่อนชิลล์ๆที่พัทยา ทำเอาสาวสายป่านถูกวิจารณ์ว่าทำตัวไม่เหมาะสม.


ดาราสาว สายป่าน อภิญญา ออกมายอมรับขอโทษแฟนคลับที่ทำให้ผิดหวังและรู้สึกผิดเป็นตัวอย่างไม่ดีกับเยาวชน  มีคนให้กำลังเพียบประกาศเลิกเด็ดขาด ส่วนเรื่องหนุ่มกั๊กเรียกแฟน ยอมรับคบหนุ่มลูกครึ่งไทย-เช็ก มา 3 เดือนแฮปปี้มาก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีภาพหลุดดูดบุหรี่ว่อนอินเตอร์เน็ตเห็นรูปบ้างหรือยัง สายป่าน อภิญญา ก้มหน้ารับผิดว่า
''ป่านรู้ตัวว่าสิ่งที่ป่านทำมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ ต้องขอโทษพี่ๆ แฟนๆ ทุกคน แต่ป่านมั่นใจว่าภาพและเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว'' 

คุณแม่ว่ายังไงบ้าง? 
''ไม่ว่ายังไงค่ะคุณแม่ให้กำลังใจอย่างเดียว'' 

มีผู้ใหญ่เรียกเตือนบ้างมั้ย? 
''มีค่ะ แต่ไม่ต้องถึงผู้ใหญ่หรอกเรารู้ตัวอยู่แล้วว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ถ้ามีผู้ใหญ่เขายินดีที่จะให้คำแนะนำหรือตักเตือนก็ยินดีน้อมรับและจะปรับปรุงด้วยค่ะ'' 

เราเองพยายามจะปรับอะไรบ้าง? 
''ปรับแล้วค่ะ เลิกเลยตั้งแต่วันนั้นคือวันนั้นเป็นวันแม่พอดีด้วยก็หยุดเลยคือป่านคงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพูดให้แต่ละคนฟังเพราะตัวเองก็ไม่ใช่ว่าดี แต่ว่าทำได้แล้วมันก็ไม่ยากด้วย ตอนนั้นในใจนึกถึงแม่อย่างเดียว เอาจริงๆ แล้วคนที่เครียดที่สุดไม่ใช่ป่านเป็นครอบครัวและคนรอบข้างมากกว่าไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการ ผู้ใหญ่ที่คอยเอ็นดูเรา ป่านรู้สึกประหลาดมากป่านรู้ว่ามีภาพแต่ทำอะไรไม่ได้ แต่คนที่เขาเป็นห่วงเราส่งข้อความและโทรมาหาแสดงอาการเป็นห่วง หนูรู้สึกว่ามีคนเป็นห่วงเราเยอะมากดังนั้นมันไม่มีเหตุผลที่ป่านจะทำต่อเลย''

''ส่วนที่มีภาพกับฝรั่งคือเป็นพี่ที่คุยกันค่ะ ก็คบกันอยู่เขาเป็นลูกครึ่งไทย-เช็ก''

คุยกันมานานเท่าไหร่แล้ว? 
''สักพักค่ะประมาณ  3 เดือน'' 

เปลี่ยนแนวเลย? 
''ไม่ได้เปลี่ยนแนวหรอก คือป่านไม่มีสเป็คอยู่แล้วคนชอบคิดว่าป่านชอบแนวๆ แต่จริงๆ ไม่ใช่ พอเราโตขึ้นใครที่คุยกับเราแล้วเข้าใจและเราสบายใจที่คุยกันมันควรจะเป็นคนนี้มากกว่า'' 

มีภาพหลุดออกมาซีเรียสมั้ย?
''ไม่ค่ะป่านไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องรูปเพราะว่าถ้าเกิดมันจริงก็ออกมาบอกอยู่แล้วไม่คิดจะปิดบัง'' 

เรียกว่าแฟนได้หรือยัง? 
''ก็คุยกันคำว่าแฟนมันไม่รู้ว่าจุดไหนถึงเรียกว่าเป็นแฟน ณ ตอนนี้คุยกับพี่เขาคนเดียวก็สบายใจดี'' 

ครอบครัวว่ายังไงบ้าง? 
''ที่บ้านโอเคไม่มีปัญหาอะไร ถ้าถามว่าพี่เขาเป็นอะไรยังไงคือโปร์ไฟล์ค่อนข้างดี''

ชื่ออะไร? 
''ชื่อจอร์จค่ะ''

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

KARA อิจฉาความสูงของ After School


เกิร์ลกรุ๊ปวง KARA  อิจฉาความสูงของ  After  School


ห้าสาววง KARA   ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ  Section  TV Entertainment   Relay  ทางสถานี MBC เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา  โดยทางพิธีกรได้ให้พวกเธอมาเล่าเรื่องราวต่างๆของเพื่อนไอดอลต่างกลุ่ม  รวมถึงอาหารที่พวกเธอชอบ และต่อด้วยถามว่า วง KARA  มีนักร้องกลุ่มใด ที่พวกคุณสนใจเป็นพิเศษไหม ?  KARA ตอบว่าพวกเธอชอบวง SISTAR  และพวกเราอิจฉาความแข็งแรงและรูปร่างที่สวยงามของพวกเธอค่ะ


พิธีกรถามต่ออีกว่า   แล้วยังมีไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มอื่นๆล่ะ ?    KARA   เผยว่า พวกเราอิจฉาในความสูงของ วง After School   ค่ะ  บางครั้งถ้าพวกเราสูงเท่านางแบบ พวกเราอาจได้ใส่รองเท้าส้นแบนก็ได้ค่ะ  (หัวเราะ )

บอดี้สแลมปิดตำนานอัลบั้มคราม


กว่า 3 ปีที่อัลบั้มชุดที่ 5 “คราม” ของวง “บอดี้สแลม” ได้สร้างความประหลาดใจหลายอย่างให้กับวงการเพลง อัลบั้ม “คราม” ได้กวาดรางวัล “คม ชัด ลึก อวอร์ด ครั้งที่ 8 ไปถึง 3 รางวัลใหญ่ คือ ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยม และ เพลงยอดเยี่ยมจากเพลง “คิดฮอด” ต่อด้วยคอนเสิร์ตยักษ์  ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่มีจำนวนผู้ชมมากถึง 65,000 คน และความยิ่งใหญ่ที่น้อยวงดนตรีที่จะทำได้คือ คอนเสิร์ต “บอดี้สแลม แสงสุดท้าย เวิลด์ทัวร์ 2012” ที่สมาชิกวงบอดี้สแลม อาทิ “ตูน” อาทิวราห์ คงมาลัย (ร้องนำ) “ปิ๊ด” ธนดล ช้างเสวก (เบส) “ชัช” สุชัฒติ จั่นอี๊ด (กลอง) “ยอด” ธนชัย ตันตระกูล (กีตาร์)  และ โอม เปล่งขำ (คีบอร์ด) ร่วมเดินทางไปทัวร์ 3 ทวีป ทั้งอเมริกา ยุโรป และ ออสเตรเลีย เรียกว่าอัลบั้ม “คราม” เป็นอัลบั้มที่สุดยอดที่สุดของ “บอดี้สแลม” เลยก็ว่าได้



แต่มาวันนี้ “บอดี้สแลม” ได้นั่งทบทวนและคิดกันแล้วว่าพวกเขาจะก้าวต่อไปข้างหน้ากับอัลบั้มใหม่ เลยขอปิดจ๊อบอัลบั้มนี้ลง แต่จะเลิกไปธรรมดาๆ เหมือนอัลบั้มอื่นๆ ก็ดูจะง่ายไป พวกเขาเลยขอจัดปาร์ตี้เล็กๆ ให้กับแฟนตัวจริงของบอดี้ฯ เท่านั้น มาร่วมส่งท้ายอัลบั้มนี้กับ “แสงสุดท้าย...เพื่อวันใหม่...ด้วยกัน” และเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่ขึ้นเหนือล่องใต้บินไปต่างประเทศติดตามเป็นกำลังใจให้อัลบั้มนี้มาตลอด


โดยงานนี้ “บอดี้สแลม” จัดขึ้นเพื่อหารายได้มอบให้กับบ้านนนทภูมิ (สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด) ด้วยการเปิดประมูลเครื่องดนตรีสุดหวงของแต่ละคนที่ใช้เล่นคอนเสิร์ตต่างๆ โดยตูน ได้นำกีตาร์ที่เขาใช้ในคอนเสิร์ตต่างๆ มาประมูล ซึ่งมีแฟนคลับเจ้าบุญทุ่มยอมควักเงินกว่า 120,000 บาทคว้ากีตาร์ตัวนี้ไป ส่วนปิ๊ด ก็เอาเครื่องดนตรีคู่ใจอย่างเบสมาประมูลและได้เงินทำบุญไป 67,000 บาท โอม นำคีย์บอร์ด ประมูลได้  30,500 บาท ขณะที่ชัช ได้นำกลอง มาประมูลได้เงินไป 46,000 บาท ส่วนยอดนั้น นำกีตาร์ มาประมูลได้ 50,999 บาท ทำให้ยอดเงินรวมจากการประมูลเป็นเงินกว่า 314,499 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินบริจาคจากกล่องบริจาคหน้าเงินอีก 81,056 บาท ทำให้ได้เงินทั้งหมด 395,555 บาท สมาชิกทั้ง 5 ของ “บอดี้สแลม” มอบเงินทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายๆ ใดทั้งสิ้นมอบให้กับบ้านนนทภูมิทั้งหมด

และเป็นงานปาร์ตี้ส่งท้ายทั้งที บอดี้สแลม เลยขอแจกแหลกมอบของขวัญพิเศษส่วนตัวให้กับน้องๆ แฟนคลับ 800 คนที่นำรูปถ่ายที่เกี่ยวข้องกับ บอดี้สแลม 800 ใบมาให้พวกเขาเลือก มีทั้งกางเกงยีนส์ขาเดฟจากของตูน 4 ตัว แว่นตาสวยๆ จากโอม หมวกกันน็อกที่ใช้ขับรถแข่งของ ชัช กรอบรูปพร้อมลายเซ็นสวยๆ จาก ปิ๊ด และเสื้อยืด บอดี้สแลม ที่ไม่มีขายจาก ยอด ทำเอาน้องๆ ที่ได้ของยิ้มหน้าบาน ก่อนปิดท้ายตามธรรมเนียมด้วยคอนเสิร์ตสุดมันส์ งานนี้ทั้งสนุก ทั้งได้บุญ กลับบ้านกันทุกคน ซึ่ง “ตูน บอดี้สแลม” ก็ทิ้งท้ายบนเวทีด้วยวลีสุดฮิต “ไม่มีทุกคน ไม่มีบอดี้สแลม” เหมือนเช่นทุกคอนเสิร์ต แต่ก็ทำเอาสาวกบอดี้ฯ ชื่นอกชื่นใจไปตามๆ กัน โดยหลังจากนี้สมาชิก บอดี้สแลม จะเริ่มเดินหน้าทำงานเพลงอัลบั้มใหม่ออกมา ซึ่งตอนนี้ “ตูน-ปิ๊ด” ได้มีการพูดคุยกันคร่าวๆ เกี่ยวกับอัลบั้มชุดใหม่ และเชื่อว่าไม่นานเกินรอนี้จะได้ฟังเพลงอัลบั้มใหม่ของพวกเขา

ที่มา: www.komchadluek.net

เจ-เจตริน ปลื้มลูกสาวคนสวย น้องเจด้า

เจ เจตริน ปลื้มลูกสาวคนสวย น้องเจด้า จิดาริณ ยันไม่หวงเรื่องหนุ่มๆ เพราะลูกสาวยังเด็ก  ยินดีหาก น้องเจด้า อยากกลับมาอยู่เมืองไทยถาวร แต่ห่วงกลัวทำงานหนักจนไม่มีเวลาเรียน เซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัดโพลีพลัสฯ

คุณพ่อยังหนุ่ม เจ เจตริน เผยเรื่องลูกสาวคนสวย น้องเจด้า จิดาริณ ที่ตอนนี้เซ็นสัญญากับโพลีพลัสฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมประเดิมละคร ศีล 5 เป็นเรื่องแรก กับผู้สื่อข่าวว่า

''เท่าที่คุยกับคุณแม่ของเขาตอนนี้ก็ฝากกับ พี่นิด-อรพรรณ ผมกับพี่นิดก็คุยกันบ่อยเหมือนกันก็บอกฝากลูกด้วยพี่ พี่นิดน่ารักมากก็ดูแลให้ตอนนี้อยู่สังกัดโพลีพลัสและมีเล่นละครศีล 5 กับน้องกันต์ กันตถาวร เขาก็ส่งแมสเสจมาคุยกับผมว่าได้เล่นละครกับลูกพี่เราก็บอกว่าฝากน้องด้วยนะ ดูลูกพี่ดีๆ ด้วย (หัวเราะ)" 

แอบหวงมั้ย? 
"ไม่เป็นไรลูกผมยังเด็กอยู่อายุ 14 ปีเองตรงนี้ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว''

''แต่ผมไม่ได้ไปก้าวก่ายเรื่องงานของลูกเลย เพราะถือคุณแม่เขาดูแลก็ปล่อยไป แต่อย่างมาเมืองไทยหรือมาทำอะไรต่างๆ คุณแม่เขามาก็ปรึกษาอย่างการกินอยู่ในเมืองไทยเป็นเรื่องธรรมดาเราดูแลลูกเราอยู่แล้ว ที่เหลือจะเป็นยังไงอยู่ที่อนาคตของเขาจะชอบยังไง ชอบอะไรผมเคยคุยกับเขาว่าถ้าอยากอยู่เมืองไทยก็มาได้นะเราปล่อยตามความคิดของเขาดีกว่าตอนนี้เขายังเด็กมากสิ่งนึงที่ผมคุยกับเขาตลอดว่าอยากให้เขาเรียนหนังสือก่อนดีกว่า" 

คุณแม่จีน่าบอกว่าน้องอยากอยู่เมืองไทย? 
"อันนี้ผมว่าแล้วแต่เขาน้องเขาคงมีคิดบ้างพอเขาได้มาเจอกับน้องชายคงมีความสุข สนุก แต่ใจผมอยากให้เขาเรียนอะไรที่โน่นดีกว่า เพราะว่าถ้ามาเมืองไทยมานั่งทำงานหนักมันจะเหนื่อยและไม่ได้เรียนเปล่าๆ แต่ที่พูดมาทั้งหมดอยู่ที่เขามากกว่า''

ทีมา: gossipstar.mthai.com

นานะ After School โชว์หุ่นเซ็กซี่


ล่าสุดนักร้องสาว  นานะ แห่งวง After School  มาพร้อมกับ รูปร่าง หุ่น  อันแสนเซ็กซี่ในผลงานเพลง  flashback  ที่ได้รับกระตอบรับเป็นอย่างดี  

รวมถึงยังมีท่าเต้นของแต่ละเพลงล่าสุดของ นานะ ก็เซ็กซี่ ไม่แพ้กัน  วันนี้ขอนำภาพบางส่วนของนานะที่เธอเต้นได้เย้ายวนมาให้หนุ่มๆได้ดูก่อนพบสาวๆวง After School ของพวกเธอได้ในเดือนกันยายนนี้ !


ที่มา: ซุบซิบดอทคอม

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พิ้งกี้ น้ำตาคลอแจงสื่อ


กรณีฉาวไม่จบไม่สิ้น ธัญญ่า-เป๊ก-พิ้งกี้ หลังจากที่ ธัญญ่า-เป๊ก ควงแขนกันออกมาแถลงต่อสื่อว่า "อยากให้พิ้งกี้หยุดสักที" ได้เวลาที่พิ้งกี้จะได้มาพูดให้เคลียร์บ้าง


ล่าสุดที่งาน ZEN Body Sense 2012: Stories of Seduction เจอตัวสาว พิ้งกี้ สาวิกา นางเอกสาวเข้ามาพบกองทัพนักข่าวที่มาติดตามฟังคำชี้แจงแบบเคลียร์ๆ ด้วยท่าทางปกติ ก่อนเริ่มชี้แจงต่อหน้าสื่อด้วยเริ่มมีน้ำตาคลอและเสียงสั่นเครือตลอดเวลาชี้แจงว่า

"วันนี้มาร่วมงานปกติ ไม่ได้แถลงข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับใคร ขอยืนยันนะคะ อยากจะขอให้เรื่องนี้มันจบได้สักที จบได้แล้วนะคะ จะบอกว่า SMS ที่ส่งเป็นของกี้จริง แล้วก็เป็น SMS ปกติ ที่ไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะพี่เป๊กส่งมาหากี้เองจริง ๆ แล้วเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่กี้ใช้มานานแล้ว และที่ผ่านมาไม่ได้ใช้เบอร์นี้เป็นปีแล้ว พอเปิดมาก็มาเจอที่พี่เขาส่งมาหา กี้ก็ตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใด ๆ ทั้งสิ้น บอกได้เลยว่า ตอนนี้ในหัวสมองของกี้มีแต่ พ่อกับแม่เท่านั้น"

"กี้อยากบอกว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันมาจากคลิปเสียงนั้นที่มีคนปล่อยออกมา ทั้งที่กี้กับแม่ไม่ได้ทำอะไร และตัวแม่ของกี้เองก็อยากให้ทุกคนเข้าใจ ว่าถ้าเกิดมีคนโทรมาหาแบบนั้น เป็นใครก็ต้องมีอารมณ์โมโหและโกรธเป็นธรรมดา เอาเป็นว่า กี้ก็ต้องขอโทษแทนคุณแม่ด้วย ที่พูดจาไม่ดีและพูดทำให้เสียหาย กี้เชื่อว่าคุณแม่ไม่ได้มีเจตนาร้าย แค่บริสุทธิ์ใจที่จะปกป้องลูกสาว ไม่มีการเล่ห์กลอัดเทปเสียงอะไรแต่อย่างใด"

เมื่อนักข่าวถามว่า แล้วหลังจากนี้จะส่งข้อความถึงฝ่ายนั้นอีกหรือเปล่า? 
"ไม่ใช่เลิกคะ ต้องใช้คำว่า อย่ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตกี้อีกดีกว่า เบอร์โทรศัพท์เบอร์นั้น กี้ก็ไม่ได้ใช้แล้วด้วยซ้ำ กี้ทำงานตลอด 7 วัน จะเอาเวลาไหนไปส่งข้อความ ไม่คิดจะอยากส่งด้วย แค่ตอบกลับไปเป็นมารยาทเท่านั้น" 

พี่เป๊กส่งมาว่ายังไง? 
"อย่าถามกี้เรื่องนี้เลยคะ ให้มันจบสักทีเถอะ ฝ่ายกี้เองจบมาตั้งนานแล้ว"

คุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
"ตอนนี้คุณแม่ออกบวชและถือศีลอดอยู่คะ"

คราวหน้าถ้าเขาส่งมาหาอีกจะตอบกลับไปหรือไม่? 
"ไม่ต้องถามเลยคะ เอาเป็นว่าจะไม่ทำให้ใครต้องผิดหวังอีก และต่อไปนี้รับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องน่าปวดหัวพวกนี้อีก และกี้ขอฝากบอกคนที่ปล่อยคลิปเสียงหน่อยนะคะ ตอนนี้คุณสะใจ ได้หัวเราะแล้ว ก็ควรกลับไปทำประโยชน์ให้สังคมบ้างเถอะคะ"

ที่มา: สนุกดอทคอม

หยก ขึ้นแท่นเป็นเซ็กซี่สตาร์


"หยก-ธัญยกันต์" สลัดผ้าถ่ายแฟชั่นเป็นอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิงที่ขึ้นแท่นเซ็กซี่สตาร์ ล่าสุดสลัดผ้าถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ให้กับนิตยสาร RUSH 





หลังพิสูจน์จากผลงานที่พลิกบทบาทนางเอกสู่นางร้ายเล็กๆ ซึ่งสาว “หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์”  เผยว่าแฮปปี้ทีมงานน่ารัก ครอบครัวและผู้ใหญ่ทางช่องไฟเขียว กับผลงานออกมาแล้วเป็นที่น่าพอใจ



ดาราท้อง


ป๋อ-ณัฐวุฒิสมใจที่ประกาศชัดตั้งแต่ก่อนแต่งงานตั้งใจจะมีลูกให้ทันปีมังกรงานนี้ ล่าสุดมีกระแสข่าวหลุดออกมาว่าตอนนี้ สาวเอ๋ ตั้งท้องลูกคนแรกเรียบร้อยที่เรียบแล้ว ขณะที่ป๋อยังตอบไม่เต็มปากเต็มคำว่าเมียสุดรัก เอ๋ พรทิพย์ ตั้งครรภ์หรือเปล่า? เพราะยังไม่รู้ผลที่แน่ชัด 100 % ต้องรอหมอคอนเฟิร์มอีกทีซะก่อน


หนุ่มเวย์ ไทเทเนียมดีใจได้ลูกสมใจหลังจากรอคอยมานานกว่า 2 ปี ประกาศผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ภรรยาดีเจสาวคนสวย นานา ไรบีนา ได้ตั้งท้องลูกแฝด โดยหนุ่มเวย์โพสต์ข้อความว่า “ตอนแรกเรามีรองเท้าแค่คู่เดียว แต่ตอนนี้สงสัยต้องหาอีกคู่ เพื่อรอต้อนรับสองสมาชิกใหม่ของครอบครัวอินทชัย” 



ขณะที่นักร้องหนุ่มโจ๊ก โซคูลได้ทายาทคนที่ 2 มาเชยชมสมใจแล้วที่ล่าสุดภรรยา ฝน-กัญญ์พชิราก็เพิ่งคลอดลูกสาวเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อว่า น้องยูจิน ที่ผ่านมา โรงพยาบาลพญาไท 3 โดยมีน้ำหนักแรกคลอด 2,980 กรัม แข็งแรงทั้งแม่และลูก


วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สาวใบเตยปัดร่วมมือกับสาวแตงโมรุมสาวปุ๊กลุก

"ใบเตย อาร์สยาม" วางไมค์เพื่อมาเล่นละครชั่วคราวเลยทีเดียว ล่าสุดก็มารับเล่นบทร้ายในละครเรื่อง "น้องเมีย" ของทางช่อง 8 ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า


"ก็ดีใจมากที่ได้รับโอกาสตรงนี้ เราเป็นสาวลูกทุ่งที่ได้มาเล่นละคร ตื่นเต้นมาก ไม่เคยได้เล่นเป็นละครจริงๆ แบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าต้องมีเทคนิคทักษะยังไง ตอนแรกที่รู้ว่าได้เล่น ก่อนจะถ่ายกดดันมาก กับพี่วีได้ปรึกษาก่อนหน้านี้มาสักพัก พี่เขาก็ให้คำปรึกษามาดีพอสมควร" 

ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า สาวใบเตยร่วมมือกับสาวแตงโมเพื่อสกัดสาวปุ๊กลุก ซึ่งสาวใบเตยก็ชี้แจงว่า
"จริงเหรอ ไม่ถึงขนาดนั้น คือกับพี่โมมีโอกาสได้ร่วมงานกันหลายครั้ง ตั้งแต่เริ่มเป็นศิลปิน ไม่ได้แท็คทีมอะไร คงสนิทมากกว่าฝั่งนู้น" 

เรื่อง ราวเกาเหลากับสาสวปุ๊กลุกก็ยังดูเหมือนจะไม่จบเพียงแค่นั้น ยังมีข่าวมาอีกว่า ตอนที่สาวใบเตยขึ้นคอนเสิร์ตที่ตรัง สาวใบเตยก็พูดบนเวทีว่าเป็นตัวจริงของหนุ่มวี แต่สาวใบเตยก็ปฏิเสธว่า
"ไม่จริงแน่ๆ ไม่เคยพูดเลย เหมือนน้องเขียนมาเยอะทางเฟซ เหมือนว่าเราจะสร้างกระแสด้วย บอกว่าเราคบกับพี่วี เราเหมือนไปพูดพาดพิงถึงน้องปุ๊กลุก ไม่จริงเลย ยอมรับว่าตกใจมาก เรารู้จักเด็กคนนี้ รู้จักดีมากด้วย เขาเคยเป็นแดนซ์เซอร์หนู  มารู้ว่าคุณไม่พอใจเราที่เราไม่ให้คุณถ่ายรูปเวลาที่ไปเต้นให้เรา จริงๆ ต้องขอโทษน้อง เพราะจริงเหรอ เขามีอคติกับเราแค่นี้" 
ถามว่าต้องเคลียร์กับน้องเขามั้ย 
"คงไม่ค่ะ กับปุ๊กลุกก็คงไม่ต้องเคลียร์ เพราะเป็นคนละประเด็น คนละเรื่องค่ะ"

ที่มา: Thaiza.com


เป๊ก-ธัญญ่า เปิดใจข่าว พิ้งกี้-สาวิกา

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ร้านมิ้วส์ ทองหล่อ ซอย 10 ภายในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “เจ ออน เดอะ มูน” เป๊ก-สัณชัย เองตระกูล และ ธัญญ่า-ธัญญาเรศ รามณรงค์ ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนากันระหว่าง นางสรินยา ไชยเดช แม่ของ พิ้งกี้-สาวิกา กับธัญญ่า เพราะมีข้อความส่งมาที่มือถือเป๊กว่า" มิสยูนะ" ธัญญ่าจึงโทรไปหาแม่พิ้งกี้ เลยกลายเป็นเรื่องทะเลาะกันขึ้นมา ซึ่งระหว่างการแถลงข่าวเป๊ก-สัณชัย มีสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนธัญญ่าก็แถลงข่าวต่อสื่อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



"เป๊ก" เปิดเผยว่า “ผมอยากอธิบายตรงนี้ว่า ไม่อยากให้เอสเอ็มเอสเนี่ยเป็นสาระสำคัญ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องอธิบาย ถ้าถามเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นยังไง ผมก็จะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เป็นเบอร์ที่น้องเคยใช้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าเอสเอ็มเอสที่ส่งมาเป็นแค่คำทักทาย แต่ว่าข้อความนั้นอาจทำให้คนคิดไปได้หลายอย่าง มันเป็นเรื่องปกติที่คนเคยรู้จักกันจะส่งเอสเอ็มเอสหากัน ใครก็ทำได้ ผมเองในบางครั้งที่เห็นน้องเขาตามสื่อโฆษณา นึกถึงก็ส่งข้อความหา แล้วก็บอกธัญญ่าด้วย แต่ผมเข้าใจดี ในเรื่องของการที่ธัญญ่าได้รับเอสเอ็มเอสมาวันนั้น ในฐานะของภรรยาก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่าวันนั้นจะไม่ใช่เบอร์ของน้อง แต่อยากจะบอกธัญญ่าและทุกคนในที่นี้ว่า ผมกับน้องเขาไม่มีอะไร ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้คบกัน มีแต่เอสเอ็มเอสนาน ๆ ที ด้วยความสัตย์จริงของลูกผู้ชาย ที่ผ่านมาธัญญ่าและคนใกล้ตัวของผมน่าจะเห็นว่าผมพยายามมากแค่ไหนที่จะทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม มันไม่มีเหตุผลใด ที่ผมจะกลับไปทำอะไรไม่ดี หรือทำให้ครอบครัวต้องกลับไปเริ่มศูนย์ใหม่ ตัวน้องเขาเองผมเชื่อได้เลยว่าเขาก็ผ่านอะไรร้าย ๆ มาเยอะ กว่าจะกลับมาเริ่มต้นใช้ชีวิตปกติก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก น้องเขาคงไม่กลับไปทำให้มันเป็นแบบนี้อีก ผมขอยืนยันให้ทุกคนและธัญญ่าทราบว่า ทุกเรื่องที่ได้ยินมาไม่เป็นความจริง เป็นแค่การทักทายตามปกติ ส่วนในเรื่องของคลิปที่หลุดออกมา ไม่รู้ว่าหลุดออกมาได้ยังไง เพราะธัญญ่าส่งให้เพื่อนสนิทและครอบครัวที่ต่างประเทศ ส่วนผมก็ส่งให้เพื่อนสนิทและครอบครัวผม และเพื่อนที่ทำงานของผมฟังก็เท่านั้น ส่วนในเรื่องของคลิปเนี่ยเป็นเพราะ ธัญญ่าพยายามโทรไปหาแม่ของน้องเขา ซึ่งเมื่อนานมาแล้วแม่เขาบอกว่ามีอะไรก็ปรึกษาได้ ธัญญ่าโทรไปก็เป็นจุดเริ่มต้นของคลิปนี้ ส่วนคุณแม่ของน้องเขาคงตกใจ และก็รู้ว่าน้องไม่ได้ติดต่อผมแล้ว พอมาเจอเรื่องนี้ก็ต้องโมโห และก็ต้องปกป้องลูกสาวเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มาเป็นปัญหาของครอบครัวผมและน้องเขาอีก ที่ผ่านมาทั้งหมด ผมเป็นต้นเหตุ ทำให้เรื่องราวเกิดขึ้น ธัญญ่าต้องทะเลาะกับแม่ของน้องเขา ต้องเสียชื่อเสียง ผมเป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุข่าวคราวที่น่าเบื่อและยืดยาวมาก ๆ ฉะนั้นขอให้เรื่องเหล่านี้ยุติ ด้วยคำพูดของผมที่เป็นลูกผู้ชาย จากนี้ไปผมก็ต้องทำให้ครอบครัวที่ผมรักมาก ๆ กลับมาเป็นครอบครัวให้เร็วที่สุด ส่วนน้องก็ปล่อยให้เขาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ตามที่ต้องเป็น ขอให้จบสิ้นข่าวนี้ทุกอย่าง”  

จากนั้น "ธัญญ่า" เปิดเผยต่อว่า “ก็ไม่รู้จะพูดอะไร พี่เป็กก็พูดไปหมดแล้ว อยากฝากถึงน้องคนนั้นว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดมา 2 ปีกว่าจะ 3 ปี เราทุกข์ทรมานกันทุกฝ่าย ขณะนี้เรากำลังให้โอกาส พี่เป็กขอโอกาส จากที่เราตัดสินใจหย่าแน่นอน แต่ในเมื่อพี่เป๊กพร้อมที่จะกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง และลูกเราก็โตขึ้นทุกวัน เราควรให้โอกาสเขาเพื่อครอบครัวและเพื่อลูก ก็อยากฝากขอร้องน้องนิดนึงนะคะ ในเรื่องของการส่งข้อความคิดถึงสามีเราเนี่ย มันก็ยากที่จะเข้าใจ แต่ในเมื่อพี่เป๊กยืนยันว่าไม่มีอะไร เราก็โอเคจะเข้าใจอย่างนั้น ส่วนกรณีที่คุยกับแม่ของน้องเขาในแบบไม่ดีเท่าไหร่ ก็อยากจะบอกว่า แค่จะโทรไปบอกว่า น้องติดต่อมานะ อย่างที่แม่เคยบอกไว้ว่าถ้ามีการติดต่อกันให้โทรมาบอกจะจัดการทุกอย่างเอง เราก็อยากโทรบอก ไม่งั้นก็ค้างคาใจ เราจะดำเนินชีวิตครอบครัวต่อไปยังไง ในเมื่อไม่มั่นใจเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเกือบ 3 ปีมันทรมานทั้งคุณและครอบครัวเรา การส่งข้อความมาจะอนาคตอีกกี่ปีก็ตาม ขอให้เรามั่นใจในความสัมพันธ์ว่า มันไม่มีอะไรในเชิงชู้สาวอีกแล้ว” 

พอถึงตรงนี้ เป๊ก รีบพูดขึ้นว่า “พี่บอกธัญญ่าให้ฟังตรงนี้ว่า ในความเป็นลูกผู้ชาย เรื่องเหล่านั้นคงไม่มีเหมือนที่อธิบายไปทั้งหมด”

ธัญญ่า เลยหันไปถามเสียงเข้มว่า “คงไม่มีหรือไม่มี”

เป๊ก เลยรีบตอบกลับว่า “ไม่มี ไม่มี” 

ผู้สื่อข่าวถามว่าน้องเขาส่งข้อความมาบ่อยไหม “ผมก็ส่งไปบ้าง เวลาที่เห็นตามสื่อ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือ ลียา เราทั้งคู่ดูแลลูกตลอดเวลา ลียาเริ่มโตขึ้น จะ 3 ขวบ เริ่มรู้เรื่องแล้ว ในอนาคตผมไม่อยากให้ลูกมีปัญหาหรือมีปมด้อย ฉะนั้นต้องขึ้นอยู่กับตัวผมด้วยว่า ต้องทำทุกอย่างให้ครอบครัวผมสมบูรณ์” 

จากนั้นธัญญ่า กล่าวทิ้งท้ายว่า "ที่ผ่านมาจากเดิมที่ตัดสินใจว่าเราจะจบ แต่พอมีโอกาสได้กลับมา ก็พยายามจะเป็นครอบครัว ก็มีกิจกรรมร่วมกัน ปรึกษากันเรื่องลูกตลอด ก็เหมือนจะดีขึ้น แต่พอมาเกิดเรื่อง ก็ทำให้เราไม่ไว้ใจ ธัญญ่าเชื่อว่าถ้าเป็นครอบครัว เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูก ถ้ามีใครเข้ามาทำให้ชีวิตเรามีปัญหา แล้วปัญหาที่เคยเกิดก็ผ่านไปไม่นาน แล้วยังมาเจอข้อความ มิสยูนะ (Miss You Na) ก็ยากที่จะเข้าใจ แต่เราก็พยายามจะเข้าใจ หลังจากที่เราได้รับการยืนยันนะคะ แต่วินาทีแรกที่เห็นข้อความก็รู้สึกไม่เอาแล้ว แต่พอเราได้คุยกัน ใจเย็นลง ก็โอเค จะเข้าใจแบบนั้น”

ที่มา: เดลินิวส์

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

น้ำฝนยอมคืนดีกับอาร์ต

หลังจากที่ ถูกกะเทยนามว่า “พลอย” ออกมาแฉทำนองว่ากำลังคั่วอยู่กับอาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม ทำให้หลายคนอดลุ้นว่าความรักของอาร์ต กับสาว น้ำฝน-พัชรินทร์ จัดกระบวนพล จะไปรอดหรือไม่ ล่าสุดน้ำฝนเผยว่ายอมให้อภัยหนุ่มอาร์ต ซึ่งการคืนดีครั้งนี้ก็มีกฎเหล็กสำหรับหนุ่มอาร์ตอยู่บ้าง และเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก


น้ำฝน เผยในงาน “เปิดตัวผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย โครงการ เจเล่ บิวตี้ สตาร์ เสิร์ช” ที่เอสพลานาด รัชดา ว่า “ตอนนี้ฝนคืนดีกับพี่อาร์ตแล้วค่ะ เขาก็มาขอโทษฝนและคุณแม่ฝนด้วย เพราะว่าอย่างที่รู้กันว่าลูกเสียใจ คนเป็นแม่ย่อมเสียใจกว่า แล้วเราก็คุยและปรับความเข้าใจกัน อย่างแรกเลยตัวฝนเองเริ่มมีสติมากขึ้นแล้ว คือตอนแรกโกรธมาก ก็ไม่มีสติ ไม่อยากจะตอบอะไรทั้งสิ้น เพราะยังไม่รู้ว่าเราจะตัดสินใจทางไหน แต่พอเรามีสติ เราเริ่มมาดูเหตุผลทุกอย่าง เราก็เริ่มโตขึ้น มีข้อมูลอะไรมาเราก็ดู ถามว่าเคลียร์กันยังไง จริง ๆ แล้วฝนก็ปล่อยให้พี่อาร์ตเขาไปมีชีวิตของตัวเองก่อน 10 วัน ช่วงที่มีปัญหากันก็ให้ต่างคนต่างอยู่กับตัวเอง ไม่ได้คุยกันเลย เพราะให้เขาไปพิจารณาตัวเอง แล้วฝนก็ดูว่าเราจะมีความสุขมั้ย พอสุดท้ายแล้วเราก็รู้ว่ามันก็โอเค ยังให้อภัยได้ อย่าง 10 วันที่เราไม่ได้เจอกัน มันก็คิดถึงกันมากขึ้น พอเข้าใจกันแล้วก็คิดถึงกันมากขึ้น ฝนโชคดีมาก ที่คนรอบข้างจะออกแนวเป็นห่วงและให้กำลังใจมากกว่า จะไม่มีใครบังคับว่าเลิกหรือไม่ ทุกคนจะให้ฝนตัดสินใจเอง”  มีวิธีพิจารณาข่าวยังไงว่าอันไหนเป็นเรื่องจริง? “จริง ๆ ฝนว่าทุกคนโต ๆ กันแล้ว และมันก็มีวิธีหลายอย่างที่ดูได้ว่าอันไหนจริงไม่จริง ฝนเองก็ใช้เวลาในการที่จะดูสักพักหนึ่ง ช่วงแรก ๆ ฝนอยู่แต่หน้าคอมพ์อย่างเดียวเพื่อฟังข่าว แต่ว่าไม่ได้ฟังพี่อาร์ตเลย  ความเชื่อใจตอนนั้นมันก็หายไป  ฝนก็ยังบอกพี่อาร์ตว่าต้องสร้างขึ้นมาใหม่นะ แต่ความจริงเขาก็ไม่ได้ผิดซะขนาดนั้น”

หลังจากคืนดีกันมีข้อตกลงอะไรมั้ย? 
“ต้องมีอยู่แล้วค่ะ เพราะคนคบกันต้องมีกฎกติกา ซึ่งพี่อาร์ตเขาก็บอกแล้วว่าจะไม่ทำอีก ไม่เป็นหมาหยอกไก่ ไม่คึกคะนองอีกแล้ว ก็เป็นคำสัญญา แต่จริง ๆ ฝนไม่ได้ตั้งกฎเยอะ แต่กฎมีอะไร ฝนให้เขาพูดเองค่ะ เขาก็ง้อทุกอย่างค่ะ เขาก็โทรฯ มา สงสารคนรอบข้างมาก เพราะทุกคนจะโดนพี่อาร์ตโทรฯไปหาให้แบบโทรฯ มาคุยกับฝนให้หน่อย ซึ่งฝนก็บอกว่าไม่ว่าใครจะพูดยังไง ฝนตัดสินใจเอง ใครก็ช่วยพี่ไม่ได้ แต่พอเรามีสติเราก็โอเคค่ะ ตอนแรกอาจจะยังไม่มีใครกล้าพูดเท่าไหร่ แต่พอเรื่องราวดำเนินมาสักพักหนึ่ง ทั้งพี่นักข่าว ผู้ใหญ่ ทุกคนก็ช่วยพี่อาร์ตหมดเลยฝนเลยรู้สึกว่าทำไมเราไม่ลองมองอีกด้านหนึ่ง แล้วลองคุยกับเขาดู ซึ่งเหตุการณ์นี้มันก็ทำให้โตขึ้นมากกว่า เพราะถ้าฝนเป็นเด็ก ช่วงฝนโกรธฝนคงตัดสินใจไปว่าไม่เอาแล้ว พอแล้ว แต่นี่ฝนรู้ว่าโตแล้วนะ เราควรใช้เวลาคิด ตัดสินใจ หาข้อมูล หาเหตุผล ในการที่คนเราจะคบกันสักคนมันก็ไม่ใช่ง่าย ๆ ดังนั้นเราควรหาเหตุผลก่อนแล้วก็ถามใจตัวเองให้ดีที่สุดก่อน” 

เห็นขึ้นรูปในอินสตาแกรมดูหวานมาก? 
“ไม่หวานค่ะ แค่เราอยากจะขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ที่โพสต์รูปคืออยากให้ทุกคนทราบว่าคืนดีกันแล้ว ทุกคนจะได้ไม่เป็นห่วงฝนมาก ซึ่งต้องขอบคุณมาก ๆ” ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมจบล่ะ? “คงไม่มีแล้วล่ะค่ะ เพราะตอนนี้ฝนโฟกัสแค่ฝนกับพี่อาร์ต ซึ่งเราเข้าใจกันแล้ว”.

ที่มา: เดลินิวส์

วีรภาพ-แพนเค้ก เริงร่าริมหาดปราณบุรี

ตั้งท่าเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ต้นเรื่อง เลยอยากพาไปดูฉากกุ๊กกิ๊กเบา ๆ สบาย ๆ ของคู่พระนาง แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ จากละครเรื่อง “พริกกับเกลือ” กันบ้าง


โดยเป็นฉากที่ ดิ่ง (วี) พา จี๊ด (แพนเค้ก) หนีปัญหาเรื่องเศร้าใจจากเทวัญ (แอม-ปฏิญญา) มาพักอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวของครอบครัวตน โดยหลอกจี๊ดว่าเป็นบ้านพักของเจ้านายแม่ของตน และเมื่อเห็นจี๊ดมีอาการซึมเศร้า ดิ่งเลยหาวิธีบรรเทาความทุกข์ให้กับจี๊ด ด้วยการอุ้มจี๊ดแล้ววิ่งไปที่ทะเล แล้วโยนลงน้ำ พร้อมบอกให้จี๊ดเอาความซึมเศร้าโยนลงทะเลไปเสีย จี๊ดโมโหดิ่งวิ่งไล่ตีดิ่งในทะเล จากอารมณ์เคร่งเครียด กลายเป็นความสนุกสนาน จี๊ดกับดิ่งหัวเราะให้กัน ลืมความขัดแย้งที่เคยมีต่อกันและจี๊ดยังลืมความทุกข์ไปชั่วขณะด้วย

ฉากนี้ถ่ายทำกันไกลถึงชายหาดส่วนตัว ทะเลแถวปราณบุรี ซึ่งทั้งแพนเค้กและวีพอได้ลงบนหาดทราย เพื่อรอการถ่ายทำปุ๊บก็มีอาการเริงร่าทั้งคู่ โดยแพนเค้กขอลองสวมบทบาทช่างภาพด้วยการขึ้นนั่งบนเครนพร้อมกล้องและลองถ่ายทำในมุมสูง จากนั้นก็ลงจากเครนมาให้วีได้ซักซ้อมลองอุ้ม เพื่อประเมินน้ำหนักของแพนเค้ก และดูว่าจะมีเรี่ยวแรงอุ้มแพนเค้กเข้าฉากไหวไหม ซึ่งวีนั้นฟิตเปรี๊ยะ โชว์ช้อนตัวอุ้มแพนลอยจากพื้นดินได้อย่างง่ายดาย แถมยังแอ๊คชั่นภาพหวาน ๆ ให้ทีมงานได้ถ่ายรูปเล่นกันอีกต่างหาก ซักซ้อมเบา ๆ กันไปหนึ่งรอบก็เริ่มถ่ายทำจริง วีอุ้มแพนเค้กตัวลอยแล้ววิ่งลงทะเล ปล่อยให้แพนเค้กขัดขืนโวย วาย แต่วีไม่สนถึงจุดที่มาร์คระยะกล้องที่ซักซ้อมไว้ก่อนหน้า ก็โยนแพนเค้กลงทะเลทันที ทำแพนเค้กโมโหวิ่งไล่ตีวียกใหญ่ ทั้งคู่วิ่งไล่จับเล่นกันอย่างสนุกสนาน ปล่อยให้ผู้กำกับต้อ-มารุตเก็บภาพสวย ๆ จนจุใจ จากนั้นถึงมาถ่ายทำคัตที่นั่งคุยเล่นกันสบาย ๆ ริมหาด พร้อมแบล็กกราวด์สวย ๆ ของแสงสีทองจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกลับขอบฟ้า

ติดตามชมฉากกุ๊กกิ๊กนี้ได้ในละครเรื่อง “พริกกับเกลือ” ในวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค.นี้ หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7.

ที่มา: เดลินิวส์

น้ำ-รพีภัทร ได้ลูกชาย น้องโอเชี่ยน

น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล นักแสดงชื่อดัง กับ มินตรา-ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์  ภรรยาสาว  ได้คลอดลูกชายที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โดยมีชื่อเล่นว่า น้องโอเชี่ยน และชื่อจริงว่า ด.ช. ณพรรณพ ซึ่งแปลว่าทะเลทั้งเก้า




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มินตรา-ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์  ภรรยาสาวของ น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล นักแสดงชื่อดัง ได้คลอดลูกชายแล้ว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลา 19.30 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ด้วยวิธีผ่าตัด โดยมีน้ำหนักแรกเกิด 2,755 กรัม ชื่อว่า ด.ช. ณพรรณพ (อ่านว่า นะพันนพ) แปลว่าทะเลทั้งเก้า ซึ่งเป็นชื่อที่ โก๊ะตี๋ อารามบอย เป็นคนตั้งให้ ชื่อเล่นว่า "น้องโอเชี่ยน"  

น้ำ-รพีภัทร เปิดเผยว่า "ได้เห็นหน้าลูกแล้วก็รู้สึกว่ากลไกการมีลูกมันมหัศจรรย์มาก เราไม่สามารถจินตนาการออกว่าลูกจะมีหน้าเป็นอย่างไร พอเห็นหน้าเขามันมีหลายความรู้สึกมาก ตอนนั้นทั้งเป็นห่วงมินตรา ตื่นเต้น งง ซึ่งทุกอย่างมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผม หลังจากนี้ถ้าได้เล่นละครบทพ่อนี่คงจินตนาการและเข้าถึงบทได้ง่ายขึ้น ตอนแรกที่รู้ว่ามีลูกผมก็บอกมินตราว่า ผมจะดูแลมินตรา และให้มินตราดูแลลูก แต่พอตอนนี้มันไม่ได้ ผมก็คงต้องดูแลทั้งลูกและมินตรา ดูหน้าลูกแล้วผมว่าหน้าเขาเหมือนมินตรามาก ตอนนี้ผมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง แต่โชคดีที่กองถ่ายอยู่ใกล้บ้าน พอมีเวลาว่างก็แว๊บกลับมาดูแลลูกได้ เห็นหน้าเขาแล้วก็ไม่อยากไปไหน อยากอยู่กับเขานาน ๆ สำหรับการเลี้ยงลูกนั้นคงไม่ได้วางแผนอะไรมากมาย คงให้เขาเต็มที่ในเรื่องการเรียน แต่เขาจะชอบอะไรนั้นก็แล้วแต่เขา เราส่งเสริมเต็มที่ แต่ตอนนี้คงดูแลแค่ให้แข็งแรง และกินนมแม่เก่ง ๆ เท่านั้นเอง"

ส่วนชื่อที่ให้พี่โก๊ะตี๋ตั้งให้นั้น เพราะเขารู้เรื่องราวผมมาตลอด ตั้งแต่ท้องจนคลอด และเขาเองก็มีลูกไม่ได้ตามที่เรารู้กันอยู่ เลยบอกให้เขาตั้งชื่อลูกให้แทน พี่เขาก็ไปหาชื่อมาจนได้ชื่อนี้มา ซึ่งแปลว่า ทะเลทั้ง 9 และบังเอิญก็ไปคล้องกับชื่อเล่นที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วคือ โอเชี่ยน

ด้านคุณแม่มือใหม่ มินตรา-ชนิศา เปิดเผยว่า "ตอนเห็นหน้าลูกครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก แต่ตอนนั้นยังเบลอยาบล็อกหลังอยู่ แต่พออยู่ในห้องพักฟื้น ได้เห็นหน้าลูกอีกครั้งก็รู้สึกซึ้งมาก ซึ่งพี่น้ำก็เข้าไปให้กำลังใจในห้องคลอดด้วย และหลังจากคลอดแล้วพี่น้ำก็ดูแลอย่างดี มีคุณแม่พี่น้ำมาช่วยดูแลด้วย พี่น้ำเห่อลูกมาก เขาบอกว่าไม่อยากไปทำงานเลย อยากมองหน้าลูกนาน ๆ ตอนนี้ก็ตั้งใจจะเลี้ยงลูกเอง และก็ให้นมเองด้วย ส่วนเรื่องของงานในวงการบันเทิงนั้นถ้ามีก็ทำ ถ้าไม่มีก็ไม่ซีเรียส"

ที่มา: เดลินิวส์

รัก 7 ปี ดี 7 หน เตรียมทำรายได้สูงสุดที่อินโดนีเซีย

หลังจากที่หนังของจีทีเอชอย่าง 5แพร่ง,  ลัดดาแลนด์, ซัคซี้ด..ห่วยขั้นเทพ ทำสถิติรายได้สูงสุดที่อินโดฯไปแล้ว หนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน เตรียมทำรายได้สูงสุดที่อินโดนีเซียด้วยการทำรายได้เปิดตัวสูงสุดใน 2 รอบแรก




สถานทูตไทยในกรุงจาการ์ตา อินโด นีเซีย ร่วมกับ มูลนิธิไทย และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนจัดงาน “เพลส พรีเมียร์ รัก 7 ปี ดี 7 หน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้กำกับ จิระ มะลิกุล  ปวีณ ภูริจิตปัญญา และ อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม พร้อมนักแสดง คริส หอวัง  ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และ สุทัตตา อุดมศิลป์ บินไปร่วมงาน โดยมีสื่อมวลชน และผู้ชมให้การต้อนรับเป็นอย่างมาก

“จิระ มะลิกุล” ผู้กำกับฯ เป็นตัวแทนของภาพยนตร์ เรื่องนี้ เผยความรู้สึกที่เอาหนังมาฉายที่อินโดนีเซียว่า 
“ผมและทีมผู้กำกับ นักแสดง รัก 7 ปี ดี 7 หน ดีใจมากครับ ที่หนังเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ชาวอินโดฯ ให้การชื่นชอบหนังของเรา โดยเฉพาะตอน “14” ของ กอล์ฟ-ปวีณ คนดูจะกรี๊ด และขำตลอดเรื่อง เค้าจะชื่นชอบ เก้า กับ ปันปัน และคนที่โน่นชอบเล่นโซเชียล เน็ตเวิร์กมาก

ส่วนตอน “21/28” ผู้ชมจะชอบซันนี่มาก ทันทีที่ออกมาจากโรงหนัง คนจะมารุมขอลายเซ็นซันนี่กันเยอะมาก ซันนี่หล่อและเท่มากครับ ส่วนตอน “42.195” ทุกครั้งที่นิชคุณ ออกมาคนดูจะกรี๊ด และจะมีคนมาโพสต์ในอินสตาแกรมว่าชอบสู่ขวัญ บอกว่าเล่นดีมาก โดยภาพรวมคนส่วนใหญ่ชอบหนังเรื่องนี้ เค้าจะหัวเราะ และมีน้ำตาไปกับหนัง ในฐานะคนทำหนังผมก็ภูมิใจและดีใจครับ ที่คนดูชาวอินโดฯชอบหนังของเรา

ซึ่งหลังจากที่ 5แพร่ง, ซัคซี้ด..ห่วยขั้นเทพ, ลัดดาแลนด์ ทำรายได้สูงสุดที่อินโดฯไปแล้วนั้น หนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ได้ทำลายสถิติหนังของจีทีเอชในการทำรายได้เปิดตัวสูงสุดใน 2 รอบแรก ไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากประสบความสำเร็จในเมืองไทย และอินโดนีเซียแล้ว รัก 7 ปี ดี 7 หน เตรียมไปฉายต่อที่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไต้หวัน, ฮ่องกง ด้วยครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม ช่วยเป็นกำลังใจให้หนังเรื่องนี้ด้วยนะครับ” จิระ กล่าว.




ที่มา: เดลินิวส์

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เก๋งพุ่งชนรถบอย โกสิยพงษ์กับลูกสาว หวิดดับที่อเมริกา

บอย โกสิยพงษ์ กับลูกสาว น้องดีใจ ถูกรถพุ่งชนที่อเมริกา ขณะขับรถกลับบ้านหลังออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต โชคดีที่ทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บ


สภาพรถบอย โกสิยพงษ์ ที่ถูกชน

ช่วงเช้าของวันนี้ (17 สิงหาคม) ที่เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Boyd Kosiyabong ของ บอย โกสิยพงษ์ นักแต่งเพลงชื่อดังและผู้บริหารค่ายเพลงเลิฟอีส ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ระทึกขวัญระหว่างขับรถกลับบ้านกับน้องดีใจลูกสาว หลังกลับจากซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกลางใจเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ว่า...

"เมื่อคืนผมและดีใจออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ บ้าน เพื่อจะเตรียมไว้เป็นอาหารเช้า ขากลับเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถอยู่ ก็มีรถอีกคันพุ่งมาอย่างเร็ว ชนเข้าที่ประตูข้างคนขับ (คือผมเอง) เข้าอย่างจัง ทำให้แอร์แบ็คด้านข้างออกมาทั้งสองข้าง และประตูก็เสียหายจนเปิดไม่ได้ ขอบคุณพระเจ้าที่ผมและลูกสาวรวมทั้งคู่กรณีปลอดภัยดี :)

เราต่างตกลงกันได้ด้วยดี และคู่กรณีก็ยอมรับผิด และทางประกันก็รีบนำรถใหม่มาให้ใช้แทนภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผมกับลูกสาวกลับถึงบ้านกันอย่างงง ๆ กับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็รู้สึกเพลียมากจนนอนหลับไปหลังจากนั้นอีกไม่นาน

เมื่อตื่นขึ้นผมก็ได้มีโอกาสทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้รู้สึกขนลุกอย่างไม่รู้ตัว เพราะรถที่เข้ามาชนรถของผมนั้นแรงมากจนทำให้นึกถึงคำสอนในไบเบิลที่ว่า ชีวิตของคนเราคล้ายกับ "a puff of smoke" แค่แว้บเดียวเราอาจจะต้องจากไป หรือคนที่เรารักอาจจะต้องจากเราไปอย่างไม่มีวันกลับก็เป็นได้ และเราอาจนึกเสียใจถ้ายังมีอีกหลาย ๆ อย่างที่ยังไม่ได้ทำให้กันและกัน

บ่อยครั้งที่เวลาของผมหมดไปกับการเตรียมอนาคตของครอบครัวเรา และก็มักจะเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากสำหรับผมให้เป็นข้ออ้างในการที่ไม่เข้าร่วมในกิจกรรมหลายครั้งของโรงเรียนของลูกสาว และการร่วมไป shopping กับภรรยา รวมทั้งการดูแลสุขภาพโดยไม่รู้สึกผิด แต่ถ้าเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้จบสวยงามเหมือนที่เป็น ถ้าเกิดผมต้องเสียชีวิตไป ถ้าเกิดลูกสาวของผมเป็นอะไรไป ผมคงจะไม่ได้มีโอกาสที่จะได้มาทบทวนและปรับปรุงแก้ไขเหมือนในตอนนี้

จึงอยากแบ่งปันเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่ห่วงแต่ชีวิตในอนาคต แต่ลืมชีวิตที่อยู่ข้าง ๆ เราในเวลาปัจจุบันเหมือนผมครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ :)


บอย หรือ ชีวิน โกสิยพงษ์ เกิดวันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2510 ปัจจุบันเป็นผู้บริหารค่ายเพลงเลิฟอีส อดีตเป็นหนึ่งในผู้บริหารของค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิก เป็นโปรดิวเซอร์ผลิตเพลงแนว R&B และ นักแต่งเพลงที่มีผลงานแต่งเพลงดังมากมาย เช่น ฤดูที่แตกต่าง จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ รักคุณเข้าแล้ว ห่างไกลเหลือเกิน เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Boyd Kosiyabong

กุ๊บกิ๊บ เล็งทำธุรกิจแต่ไม่คิดหุ้น โอ้

กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ แจงควงมาริโอ้ เมาเร่อ ไปทำงานใน จ.เชียงใหม่ แย้มเล็งเปิดกิจการร้านเสื้อผ้าที่นั่น แต่ไม่คิดชวนฝ่ายชายหุ้นด้วยเพราะไม่อยากมีปัญหา ปัดสร้างฐานะเพื่ออนาคตชีวิตคู่-ย้ำยังไม่คิดแต่ง...

เป็นนางร้ายคนขยันอีกคนของวงการบันเทิง สำหรับ กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ที่ในเวลานี้นอกจากจะมุ่งมั่นกับการแสดงแล้ว ล่าสุดเมื่อวันก่อนสาวกุ๊บกิ๊บก็ควงหวานใจอย่างพระเอกฮอต มาริโอ้ เมาเร่อ ไปทำงานด้วยกันที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งสาวกุ๊บกิ๊บเผยถึงเรื่องนี้หลังมาร่วมงาน "Slim Concept ล็อกหุ่น...สวยได้จริงใน 10 วัน" ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ว่าหนุ่มโอ้บินไปโชว์ตัวที่นั่น ส่วนตนเองบินไปดูงานเพราะอาจจะเปิดกิจการร้านเสื้อผ้าที่นั่น แต่ไม่คิดจะชวนหวานใจมาร่วมหุ้นด้วยเพราะไม่อยากมีปัญหาทะเลาะกันนั่นเอง แหม...ขยันทำงานเยอะแยะแบบนี้เอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนบ้างจ๊ะเนี่ย!!

เห็นว่าไปเที่ยวเชียงใหม่กับมาริโอ้? 
"จริงๆ แล้วไปอีเวนต์ค่ะ จะไปแล้วกลับเลย แต่เผอิญว่ามีปัญหาเรื่องตั๋วนิดหน่อย เลยอยู่ค้างคืนนึง ความจริงแล้วไปเยอะมากเลย มีโอ้ มีพี่โช พี่แตงโมก็ไปเจอที่นู่น เพราะเขาไปอีเวนต์พอดี"
ถือโอกาสพักผ่อนด้วยมั้ย?
"พักผ่อนนิดเดียวเอง เพราะไปถึงก็ทำงานเลย ไปก็ไฟลท์บ่ายแล้ว ก็ได้ไปนั่งชิล เล่นๆ ขำๆ นิดหน่อยตอนกลางคืน"
ทำงานด้วยกันกับโอ้แล้วเป็นยังไงบ้าง?
"ก็ไปทำงานคนละแบบ โอ้ไปโชว์ตัวที่นู่น แต่กิ๊บไปดูกิจการ อาจจะเปิดร้านอะไรที่นู่นนิดนึง เลยไปดูเฉยๆ"
จะเปิดร่วมกับโอ้มั้ย?
"หนูอยากทำคนเดียว อยากรวยคนเดียว (หัวเราะ) เพราะเขารวยแล้ว ส่วนจะทำอะไรก็ยังคิดอยู่ อาจจะทำร้านเสื้อผ้า เพราะตรงโน้นเขากำลังมีเปิดโครงการใหม่และกิ๊บคิดว่ามันน่าสนใจดี ก็เลยอยากจะลองดู"
คิดจะตีตลาดที่นั่นเลย?
"ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ ก็เรื่อยๆ นิดหน่อย ก็ดูเริ่มไปก่อน ช่วงนี้ก็ไปๆ มาๆ ตลอด ส่วนจะเปิดเป็นแบรนด์เราเองมั้ย ก็อาจจะให้เพื่อนเป็นคนตัดเย็บให้"
ทำไมไม่ชวนโอ้มาลงทุนด้วย?
"ไม่อยากแบ่งใคร อยากรวยคนเดียว เพราะโอ้งานยุ่ง เดี๋ยวทะเลาะกัน ไม่เอาดีกว่า ต้องการคนที่มีเวลามาช่วยดูด้วย"
แล้วโครงการข้าวหน้าเนื้อล่ะ ใกล้เปิดตัวหรือยัง?
"ก็ใกล้แล้วค่ะ อีกนิดนึง"
เหมือนสร้างฐานะเพื่ออนาคต?
"ไม่ค่ะ ฐานะพอมีอยู่ พอได้อยู่"
หลายคนมองไปถึงเรื่องแต่งงาน?
"ไม่เอาค่ะ ยังค่ะ อีกนาน"
วันแม่เห็นเราให้กระเป๋าชาแนล?
"ก็ให้แม่ วันแม่ เราก็ถามเขาแล้ว เขาก็ไม่อยากได้อย่างอื่น นอกจากกระเป๋า ก็คงจะรู้นะคะว่าได้นิสัยมาจากใคร"
แล้วซื้อให้แม่โอ้มั้ย?
"ซื้อให้แม่หนูค่ะ ส่วนแม่โอ้ก็ไม่รู้ว่าโอ้ให้อะไร ต้องไปถามโอ้ เพราะไม่ได้ไปซื้อด้วยกัน"
เรามีไหว้แม่โอ้มั้ย? 

"ก็ส่งเมสเสจและก็ฝากของขวัญเป็นน้ำหอมกลิ่นที่คุณแม่ชอบไปค่ะ แต่ไม่ได้ไปเพราะไปไม่ทัน กว่าที่บ้านกิ๊บจะเสร็จก็ดึก".

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ซาร่า โต้ เอ็ม ขอแต่งงาน

"ซาร่า เล็กจ์" เปิดใจความสัมพันธ์"เอ็ม-สืบสกุล" คืบหน้า โต้ ฝ่ายชายขอแต่งงาน แจง แค่ไปทานข้าวด้วยกัน ขออายุเลยเลข 3 ก่อนแล้วค่อยคิด ทางด้านคุณพ่อคุณแม่ไม่เร่ง ต่างฝ่ายต่างทำงานก่อน....


เป็นคู่รักมารธานอีกคู่หนึ่งหลังซุ่มคบกันนานกว่า 8 ปี สำหรับนักแสดงร่างบาง "ซาร่า เล็กจ์" กับหวานใจนอกจอหนุ่ม "เอ็ม-สืบสกุล ทวีผล" หรือรู้จักกันในนาม "เอ็ม OIC " แต่ก็ไร้วี่แววจะเป็นเจ้าสาวสักทีปล่อยให้เพื่อนในวงการบันเทิงรุ่นน้องแซงหน้าแต่งงานกันเกือบหมดแล้ว แต่มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่ากำลังจะเป็นเจ้าสาวรายถัดไปเพราะฝ่ายชายเซอร์ไพรส์ด้วยการขอแต่งงานตกลงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้จริง มาเจอในงานแถลงข่าว เปิดวิกบิ๊ก 3 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนราชประสงค์ พร้อมเปิดใจว่า
มีข่าวว่าแฟนเราขอแต่งงานแล้ว? 
“ยังไม่ได้ขอนะค่ะ ช่วงนี้มีคนถามซาร่าเรื่องแต่งงานเยอะมาก” 
แต่มีรูปออกมาว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายอยู่ด้วยกัน? 
“เป็นรูปที่พ่อแม่เราไปทานข้าวด้วยกัน แต่ยังไม่ได้ขอแต่งงานอะไรค่ะ”
ครอบครัวทั้งสองฝ่ายได้พูดถึงเรื่องแต่งงานบ้างหรือเปล่า?
“ยังเลยค่ะ นี้เป็นแค่การมาเจอกันและทานข้าวด้วยกันของครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายเป็นครั้งแรกเท่านั้นเองค่ะ”
ข่าวบอกว่าเราไม่ยอมรับปากแต่งงานเพราะกลัวเรตติ้งในเรื่องงานแสดงจะตก?
“ซาร่าว่าสมัยนี้มันไม่น่าจะเกี่ยวแล้ว มันไม่เหมือนสมัยก่อน คือตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาค่ะ อายุซาร่ายังไม่ถึง อยากให้ถึงเลขสามก่อนค่ะ ตอนนี้ต่างคนต่างทำงาน และศึกษากันไปเรื่อยๆ”
แสดงว่าความสัมพันธ์ของเราคืบหน้าไปเยอะ?
“มันเป็นอีกสเต็ปนึง ครอบครัวเราทั้งสองได้ไปทำความรู้จักกัน ต้องคอยดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่มีอะไรแน่นอน”
บรรยากาศวันที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายเจอกันเป็นอย่างไรบ้าง?
“สนุกสนานค่ะ แต่ว่าคุณพ่อซาร่าเป็นฝรั่ง ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย แต่ก็เป็นบรรยากาศที่โอเคค่ะ”
ครอบครัวเรามีฝากให้เอ็มดูแลอย่างไรบ้างไหม?
“มีค่ะ นิดหน่อย เพราะว่าซาร่าอยู่กรุงเทพคนเดียวค่ะ”
เขามีเร่งเรื่องแต่งงานไหม?
“ไม่เลยค่ะ คุณพ่อซาร่าค่อยข้างให้อิสระกับซาร่ามากในเรื่องนี้ แล้วก็ไม่มีการพูดคุยเรื่องแต่งงานเลย ด้วยว่าซาร่าอายุยังไม่ถึงเวลาที่จะแต่งงาน แต่เข้าใจว่าช่วงนี้คนแต่งงานเยอะ แต่จริงๆแค่ไปทานข้าวด้วยกันเฉยๆค่ะ”
ตอนที่คุณพ่อฝากเราให้เอ็มดูแลเขามีอาการอย่างไรบ้าง?
“เขาจะเขินๆ เพราะว่าต้องพูดภาษาอังกฤษด้วยค่ะ คู่เราก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ค่อยๆทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆค่ะ” 
จะมีหมั้นกันไว้ก่อนไหม?
“ไม่ค่ะ ถ้ามีแล้วจะบอกค่ะ ตอนนี้เราก็คบกันมาเข้าปีที่ 8แล้วค่ะ ที่ผ่านมาก็มีปัญหาทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ก็ค่อยๆปรับกันไปเรื่อยๆค่ะ”.‬




ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

ซาร่า เล็กจ์ ลั่น แฟนไม่ยุ่งเรื่องเงิน


นางเอกหน้าคมเด้ง 'ซาร่า เล็กจ์' รีบบอกเลยว่าถึงจะเป็นแฟนกับหนุ่มเอ็ม-สืบสกุล ทวีผล หรือ เอ็ม โอไอซี ก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวเรื่องเงินด้วยกัน แฟนส่วนแฟน เงินส่วนเงิน แยกแยะกันชัดเจน


ซาร่า-เอ็ม ต่างคนต่างทำงานสองแรงแข็งขัน ประมาณว่าร่วมด้วยช่วยกันเก็บเงินล้าน เพื่อสร้างอนาคตรักให้มั่นคงด้วยกัน?
"(ยิ้ม) ต่างคนต่างเก็บไม่ช่วยกันหรอกคะ(หัวเราะ) กระเป๋าใครกระเป๋ามันคะ"

ถึงซาร่าจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ก็ยังมีหนุ่มๆ ตามรุมจีบซาร่าอยู่?
"ไม่ค่อยคะๆ ช่วงนี้ทำงานอย่างเดียว ไม่ค่อยมีๆ ไม่ค่อยโฟกัสเรื่องหนุ่มๆ ตอนนี้ทำงานเก็บเงินอย่างเดียวเลย".

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

น้ำฝน-แฟนฝรั่ง รื่นรักที่ญี่ปุ่น


คนรักกัน จะควงคู่ไปไหนมาด้วยกันไม่ใช่เรื่องแปลก นางเอกร่างเล็ก น้ำฝน-กุณณัฎฐ์ กุลปรียาวัฒน์ กำลังอินเลิฟอย่างแรงกับแฟนหนุ่มฝรั่งหุ่นล่ำ คบกันมาพักใหญ่แล้ว อย่ามาเม้าท์เยอะว่าคบเล่นๆ เพราะน่าจะเป็นรักแท้ แต่ยังไม่หวังไกลไปถึงขั้นแต่งงาน น้ำฝนขอศึกษา เรียนรู้ดูใจไปอีกสักระยะใหญ่ก่อน


ช่วงนี้น้ำฝนแฮปปี้สุดๆ ทริปสวีทล่าสุดไม่สุดท้าย ก็เพิ่งเกี่ยวก้อยกันไปตะลุยเมืองโตเกียว-เกียวโต ที่ญี่ปุ่นนานกว่า 1 สัปดาห์ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ได้เก็บภาพความหวานแบบเอ็กซ์คลูชีฟมาให้ดูจะจะ ว่าคู่นี้เขาหวานจริงไม่แคร์ใคร ทริปนี้น้ำฝนไม่ได้แอบไปเที่ยวกับแฟน แบบสองต่อสองแต่อย่างใด น้ำฝนกลัวเหงา จึงพกแก๊งค์เพื่อนสาวสวย เงาะ-กชกร ,พิม-พิมพรรณ ฯลฯ ไปปั่นความสนุกสนานที่แดนปลาดิบด้วยกัน.

ที่มา: บันเทิงไทยรัฐออนไลน์

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เจด้า เซ็นสัญญาโพลีพลัสแล้ว


อดีตนางแบบชื่อดัง "จีน่า จิดาภา"เผย "เจด้า" เซ็นสัญญาโพลีพลัส โวลูกสาวฉายแววดารา ห่วงมีหนุ่มๆ จีบ 


หลังลูกสาวสุดสวยน้อง "เจด้า-จิดาริน" ตบเท้าเข้าเป็นนักแสดงในสังกัดโพลีพลัสแล้ว ดูท่าว่ามีโอกาสจะได้อยู่เมืองไทยยาวสำหรับอดีตนางแบบ "จีน่า-จิดาภา" ภรรยาเก่าของ "เจ-เจตริน"ซึ่งงานนี้ คุณแม่จีน่าก็ออกปากว่าหวงเป็นที่สุด

 "กลับมาคราวนี้ก็ดีใจมากค่ะที่ไปเจอเพื่อนๆ แต่ก็ยังไปๆ มาๆ ค่ะ เพราะเจด้าต้องเรียนต่อ จี้ปิดเทอมก็อยู่เมืองไทย 2 เดือนค่ะ จะกลับอาทิตย์หน้า ส่วนเจด้าก็เซ็นสัญญาเข้าโพลีพลัสแล้ว ก็อยากให้เจด้าเข้าวงการ ก็เจด้าชอบการถ่ายแบบ เดินแบบ แล้วตอนนี้ก็กำลังสนุกด้วย ก็เล่นละครด้วย จะออกอากาศวันเสาร์นี้ มีแววในวงการมั้ย ก็เจด้าน่ารักมากเลย นิสัยดี สวย ตอนนี้อายุ 14 เอง มีเวลาเยอะ ได้เห็นเจด้าเล่นละครก็สนุกมากค่ะ เจด้า ตื่นเต้นค่ะ ก็ชอบเต้นตั้งแต่ 6 ขวบ (ตอนเล่นละคร) คุณแม่ไปทุกครั้งค่ะ สนุกดี ถ่ายทั้งวัน แต่เจด้าก็โอเค เจด้าเครียดมั้ย เอ่อเจด้าพูดภาไทยไม่ค่อยได้ ก็จีน่าพยายามสอน ก็พูดได้บ้าง

จะมีแววเป็นนักร้องแบบคุณพ่อเจมั้ย ก็แล้วแต่เจด้าค่ะ ห่วงลูกสาวมากแค่ไหน ทุกคนบอกเจด้าสวยมาก ห่วงมาก จริงๆแล้วเจด้าเป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง มีเพื่อนที่น่ารัก ก็หวงเหมือนกัน มีหนุ่มมาจีบกลัวมั้ย กลัวค่ะ จีน่าจะดูแลดีหน่อย เจด้าก็ไม่มีแฟน มีเพื่อนสนิทก็โอเค ห้ามมีแฟน แค่ 14 เอง แต่เจด้าไม่อยากมีอยู่แล้ว

มีเพื่อนมากกว่า มีวางแผนมาอยู่เมืองไทยถาวรไหม
จริงๆ แล้วก็คุยกับเจด้า เจด้าบอกไม่อยากกลับบ้าน ก็กำลังคุยอยู่ว่าก็อาจจะอยู่ต่อนานๆ แต่ตอนนี้ต้องกลับไปเคลียร์ทุกอย่างก่อน ต้องหาที่เรียนดีๆ ด้วย ได้ปรึกษาเจไหม ก็คุยกัน เป็นเพื่อนกันก็คุยได้ เห็นเด็กๆ เข้ากันได้ดีเลย ก็ดีใจด้วยที่แบบทุกคนแบบตกใจ แล้วก็รักเจด้าด้วย ก็ดีใจ”


ที่่มา: Teenee.com

โฟกัสพร้อมทวงตำแหน่งนางเอก


ห่างหายจากวงการไปเกือบ 4 ปี สำหรับสาวน้อย โฟกัส จีระกุล ปล่อยให้เพื่อนพ้องรุ่นเดียวกันที่ได้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน มาพร้อมๆ กันอย่าง แน็ค ชาลี กับ แจ๊ค เฉลิมพล  ได้โลดแล่นอยู่ในวงการ ยกเว้นก็แต่สาวโฟกัสที่ชะแว๊บแอบไปลดความอ้วนเท่านั้น

ตอนนี้โฟกัสจะกลับมาทวงตำแหน่งนางเอกของค่าย GTH เหมือนเมื่อก่อน หุ่นที่เคยดูอวบอ้วนก็ดูผอมบางลงจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด บวกกับที่โตเป็นสาวเต็มที่ แถม ฟิตแอนด์เฟิร์มหุ่น ทำให้โฟกัส มีความมั่นใจขึ้น เลยอยากทวงตำแหน่งนางเอกของค่ายคืน  แต่คงต้องทำงานกันหนักหน่อยงานนี้สำหรับนางเอกลูกหม้ออย่างสาวโฟกัส ที่ต้องฝ่าฟันกับนางเอกเด็กปั้นใหม่ๆ ของ GTH อีกเพียบนะจ๊ะ

ที่มา: Entertain.teenee.com